วิธีทำ น้ำกระเจี๊ยบเขียว ดื่มแก้โรคเบาหวาน ล้างพิษ ลดคอเลสเตอรอล
พืชชนิดนี้มีคุณค่าทางสารอาหารที่ดีเยี่ยม โดยกระเจี๊ยบหนึ่งถ้วยจะให้พลังงานแคลอรี่จำนวน 30 กิโลแคลอรี่, โปรตีน 2 กรัม, ไฟเบอร์ 3 กรัม, วิตามินซี 21 มิลลิกรัม, ไขมัน 0.1, คาร์โบไฮเดรต 7.6 กรัม, โฟเลต 80 มิลลิกรัม และแมกนีเซียม 60 กรัม
ด้วยสารอาหารที่มากมายเช่นนี้ กระเจี๊ยบเขียวจึงหาซื้อได้ง่ายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และแน่นอนว่าคุณจะต้องรู้สึกแปลกใจกับคุณค่าทางสารอาหารของพืชที่เหมือนนิ้วของหญิงสาวนี้
ถึงแม้ว่ากระเจี๊ยบเขียวจะเป็นพืชผักเพื่อสุขภาพ แต่คุณก็ควรจะต้องหาวิธีปรุงกระเจี๊ยบเขียวให้ดีด้วยเช่นกันนะคะ อาจจะนำไปต้ม ทานดิบๆ ดอง ทอด หรือนำไปตุ๋นก็ดีไม่น้อยเช่นเดียวกัน
คุณประโยชน์ของกระเจี๊ยบเขียวนั้นมีตั้งแต่ ช่วยบรรเทาโรคหืด เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ขจัดคอเรสเตอรอลชนิดร้าย บำรุงรักษาปัญหาเกี่ยวกับไตในการควบคุมโรคเบาหวาน นอกจากนี้กระเจี๊ยบยังช่วยเพิ่มปริมาณกลูโคสซึ่งสัมพันธ์กับการดูดซึมเข้าสู่ท้อง
การเลือกดื่มน้ำกระเจี๊ยบ
อย่างแรก ควรเลือกน้ำกระเจี๊ยบที่ยังใหม่อยู่ โดยดูได้จากสีที่ต้องแดง ไม่คล้ำเพราะหมายถึงคุณประโยชน์ที่ยังคงอยู่ แต่สำหรับสาวๆ อย่างเราที่ต้องการผอมเพรียวนั้นก็ควรเลี่ยงน้ำตาลด้วยนะคะ เพราะฉะนั้นต้องเลือกน้ำกระเจี๊ยบที่มีน้ำตาลน้อยและดื่มให้ได้อย่างน้อยวันละ 1-2 แก้ว จึงจะได้ผลดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งดื่มก่อนอาหาร เพราะจะทำให้เรารับประทานอาหารได้น้อยลง
และนี่ก็คือสูตรในการปรุงน้ำกระเจี๊ยบเขียวเพื่อสุขภาพซึ่งจะช่วยคุณลดปริมาณน้ำตาลในเลือดได้อีกด้วย
สำหรับสูตรกระเจี๊ยบเขียวนี้ เตรียมกระเจี๊ยบสดทั้งหมด 4 ผล ตัดขั้วออกและค่อยๆสไลด์ตามแนวยาว จากนั้นนำกระเจี๊ยบลงไปหมักในน้ำ 2-3 ถ้วยข้ามคืน และคุณก็จะได้น้ำกระเจี๊ยบสดไว้ดื่มในตอนเช้า หรือก่อนอาหารเช้า น้ำกระเจี๊ยบจะช่วยบรรเทาความอยากอาหารที่อาจเกิดขึ้นระหว่างวัน และคุณก็จะมีสุขภาพที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน
กระเจี๊ยบมีประโยชน์มากมายต่อสุขภาพ
1. ช่วยลดคอเลสเตอรอล
2. ช่วยรักษาโรคเบาหวาน
3. เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
4. ป้องกันโรคไต
5. บรรเทาอาการหอบหืด
6. ช่วยลดระดับน้ำตาลในการดูดซึมอาหาร
อ้างอิง : women.thaiza
เรียบเรียงโดย : Postsod