การทำน้ำเต้าหู้ จากร้านดัง ทำได้เองที่บ้านง่ายๆ
สูตรการทำน้ำเต้าหู้ วิธีในการทำน้ำเต้าหู้นี้ดิฉันนำมาฝากเพื่อนๆทุกคน ได้ลองเอาไปทำกันดู หรือจะนำไปทำขายสร้างอาชีพให้กับครอบครัวและตนเองก็ได้
คุณรู้หรือไม่ว่า เมื่อเราดื่มน้ำเต้าหู้เป็นประจำแล้วจะทำให้ร่างกายของเราเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนั้นดีมากๆหลังจากที่ดิฉันดื่มน้ำเต้าหู้ติดต่อกันเป็นเวลา 1 เดือน โดยใส่น้ำตาลน้อย บางครั้งก็ไม่ใส่น้ำตาลเลย
ซึ่งพบกับการเปลี่ยนแปลงดังต่อไปนี้
1 น้ำหนักตัวลดลง โดยปกติแล้วก่อนที่ดิฉันจะดื่มน้ำเต้าหู้น้ำหนักดิฉันประมาณ 70 กิโลกรัม และหันมาดื่มน้ำเต้าหู้ในช่วงเวลาเช้าก่อนรับประทานอาหารและช่วงเวลาเย็น โดยไม่ใส่น้ำตาลเลย ภายใน 1 สัปดาห์สามารถลดหน้าท้องและน้ำหนักลงได้ถึง 2 กิโลกรัม ควบคู่กับการคุมอาหารและออกกำลังกายเป็นประจำสัปดาห์ละ 5 วันด้วยค่ะ
2 ผิวเนียนละเอียดขึ้น เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณดื่มน้ำเต้าหู้เป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ติดต่อกัน โดยไม่ใส่น้ำตาล จะทำให้ร่างกายของคุณดีขึ้น ระบบการขับถ่ายจะดีขึ้น ส่งผลให้การดูดซึมวิตามินต่างๆเข้าสู่ผิวของคุณดี ผิวของคุณจะมีความนุ่มนวลและมีความเป็นธรรมชาติ น้ำเต้าหู้มีส่วนช่วยในเรื่องของผิวพรรณที่ดีด้วย
3 เส้นผมมีน้ำหนัก คุณรู้หรือไม่ว่าการดื่มน้ำเต้าหู้เป็นประจำจะทำให้เส้นผมของคุณแข็งแรง เนื่องจากน้ำเต้าหู้ทำมาจากถั่วเหลืองซึ่งเป็นอาหารชั้นดีของเส้นผมและยังช่วยในการบำรุงหนังศีรษะ ป้องกันผมแตกปลายได้อีกด้วย แค่ดื่มน้ำเต้าหู้เป็นประจำทุกวัน 3 สัปดาห์
ส่วนผสมและอุปกรณ์
1 น้ำตาลทรายขาวละเอียด 350 กรัม
2 เกลือเสริมไอโอดีน ป่น 1 ช้อนชา
3 น้ำสะอาด 32 ถ้วย ( ประมาณ 8 ลิตร )
4 เครื่องปั่น(เอาไว้ปั่นถั่วเหลืองที่แช่น้ำแล้ว)
5 หม้อ หรือกะละมัง 2 ใบ
ขั้นตอนในการทำ
– ขั้นตอนแรกเริ่มจากแช่ถั่งเหลืองไว้ประมาณ 6 ชั่วโมง หลังจากนั้นนำถั่วเหลืองกรองด้วยตะกร้าพลาสติกขนาดเล็กเพื่อให้สะเด็ดน้ำ
– ขั้นตอนที่สองขั้นตอนต่อไปก็นำถั่วเหลืองเข้าเครื่องปั่น เวลาปั่นให้ใส่ถั่วเหลืองประมาณครึ่งโถก็พอ แล้วใส่น้ำสะอาดที่เตรียมไว้โดยใส่พอท่วมเม็ดถั่ว ใช้เวลาปั่นครั้งละประมาณ 2-3 นาทีถั่วก็จะละเอียด
– ขั้นตอนที่สามแล้วก็นำไปใส่ในหม้อ หรือกะละมังที่เตรียมไว้โดยใช้ผ้าขาวบางกรองกากถั่วเหลือง พอรเราปั่นถั่วเหลืองเหลืองจนหมด นำน้ำเต้าหู้ที่ได้จากการกรองครั้งแรก นำไปกรองโดยขาวบางอีกที
– ขั้นตอนที่สี่เสร็จจากขั้นตอนนี้เราก็เอาน้ำเต้าหู้ไปตั้งไฟให้เดือดเปิดไฟให้แรงเลยครับถ้าจะให้หอมก็ใส่ใบเตยซัก 2 ใบ โดยเราต้องคนไปเรื่อย ๆ และคอยตักฟองออกให้หมด
– ขั้นตอนที่ห้าพอน้ำเต้าหู้เดือด เราหรี่ไฟลงมาแล้วก็ใส่น้ำตาล( แต่สำหรับคนที่จะนำไปขายก็ไม่ต้องใส่น้ำตาล เราค่อยไปเติมน้ำตาลเวลาที่ลูกค้าสั่ง )ใส่เกลือป่น จากนั้นก็เพิ่มไฟให้แรงอีกครั้ง คอยคนไปเรื่อย ๆ พอน้ำเต้าเดือดก็ปิดไฟ ยกน้ำเต้าหู้ไปเทใส่หม้ออีกใบ เพื่อให้ความร้อนลดลง เพื่อจะทานได้ง่ายขึ้น
การคำนวณต้นทุน
สำหรับถั่วเหลือง 1 กิโลกรัม ว่าเราต้องใช้ต้นทุนเท่าไหร่
น้ำตาลทราย 350 กรัม ราคา ประมาณ 8 บาท
เกลือ 1 บาท
ใบเตย 2 บาท
ค่าแก๊ซประมาณ 9 บาท
รวมเป็นเงินประมาณ 60 บาท
วิธีคิด
จากถั่วเหลือง 1 กก. พอกลายเป็นน้ำเต้าหู้แล้วถ้าขายเป็นถุง ๆ ละ 7 บาท จะได้ประมาณ 30-35 ถุง คิดเป็นเงินประมาณ 210-245 บาท เพราะฉะนั้นจะได้กำไรขั้นต่ำที่ประมาณ 150 บาท ต่อถั่วเหลือง 1 กก. ที่เราเห็นแม่ค้าตามตลาดใหญ่ ๆ ที่เขาขายมานาน เขาทำวันละ 20-40 กก. กำไรวันละ 2-3 พันบาทต่อวัน
การดื่มนมถั่วเหลืองจะได้รับประโยชน์กว่าเครื่องดื่มอื่นๆ ถ้าเทียบกับนมแล้วนมถั่วเหลืองจะมีข้อดีกว่า แม้บางอย่างจะสู้นมไม่ได้ แต่นมถั่วเหลืองให้โปรตีนเกือบเท่านม มีไขมันที่ดีกว่าคือให้กรดไขมันไม่อิ่มตัวมากกว่านม ช่วยลดโคเลสเตอรอล สำหรับข้อเสียคือ นมถั่วเหลืองจะให้แคลเซียมได้น้อยมาก
ดังนั้นแล้วการดื่มน้ำนมถั่วเหลืองหรือน้ำเต้าหู้ในแต่ละวัน ถือว่าเป็นอาหารที่ช่วยเสริมวิตามินต่างๆให้กับร่างกายได้เป็นอย่างดีเยี่ยม ควรดื่มอย่างน้อยวันละ 1 แก้ว นะคะ
เขียน / เรียบเรียงส่วนหนึ่งโดย : Postsod
ขอขอบคุณ : Postsara