หนุ่มใจดีเจอ “ตูบหลงทาง” ตั้งใจพากลับบ้าน แต่พอเห็นป้ายห้อยคอเปลี่ยนใจแทบไม่ทัน

0

หนุ่มใจดีเจอ “ตูบหลงทาง” ตั้งใจพากลับบ้าน แต่พอเห็นป้ายห้อยคอเปลี่ยนใจแทบไม่ทัน

ใครๆที่เป็นทาสสุนัข หรือหลงรักน้องมา คงต้องชอบเรื่องที่เราจะมาแบ่งปันในวันนี้ เป็นเรื่องที่เผยแพร่โดย เว็บไซต์ thedodo.com ที่ได้เผยเรื่องราวของ เทเลอร์ วิลสัน หนุ่มชาวอเมริกัน จากรัฐเคนทักกี กับเจ้าตูบตัวหนึ่งที่เขาบังเอิญไปพบและทำให้เขาได้เจอเรื่องราว ๆ น่ารัก ๆ ชวนยิ้มที่ทำให้ประทับใจ โดยเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา วิลสันได้ไปหยุดเติมน้ำมันที่ปั๊มแห่งหนึ่งใกล้ ๆ บ้าน และเขาก็ได้พบกับเจ้าสุนัขลาบราดอร์สีน้ำตาลอ่อนตัวหนึ่ง แม้ว่าที่คอจะมีปลอกคอ แต่มันกลับเดินเตร็ดเตร่อยู่ตัวเดียวตามลำพัง

จากนั้นเจ้าสุนัขตัวนี้มันก็เดินเข้ามาหาวิลสัน มายืนส่งสายตามองมา แล้วก็ตามมานั่งใกล้ ๆ กับเขา ตามสัญชาตญาณแล้ว วิลสันจึงมั่นใจว่า เจ้าสุนัขตัวนี้ต้องพลัดหลงกับเจ้าของ และมันคงต้องการความช่วยเหลือจากเขาอย่างแน่นอน จึงไม่รอช้าตั้งใจเดินเข้าไปช่วยพามันไปส่งคืนเจ้าของโดยทันที

สิ่งแรกที่วิลสันทำก็คือ ไปเช็กดูที่ปลอกคอเพื่อดูหมายเลขติดตัวของมัน เพื่อจะหาที่อยู่หรือเบอร์โทรศัพท์ของเจ้าของ แต่แล้วเขากลับพบข้อความที่ทำให้เขาต้องประหลาดใจเป็นอย่างมากจนถึงกับยิ้มออกมาเลยทีเดียว

“ผมชื่อดิว ผมไม่ได้หลงทาง ผมชอบเดินตะลอนเที่ยว ช่วยบอกให้ผมกลับบ้านที”

ได้เห็นแบบนี้แล้วรู้เลยว่า เจ้าตูบดิวตัวนี้คงจะชอบแอบมาเดินเที่ยวเล่นจนเจ้าของต้องสลักข้อความเขียนติดไว้แบบนี้ และเชื่อว่าก่อนหน้านี้ก็คงจะมีคนเข้าใจผิดแบบเขาไม่น้อยเหมือนกัน แต่ก่อนที่วิลสันจะบอกให้เจ้าดิวกลับบ้าน เขาก็อดไม่ได้ที่จะเข้าไปหยอกเล่นและกอดมันสักหน่อย

วิลสันเผยว่า ถึงแม้ว่าขนของมันจะทำให้ตัวเขาเปียกฝนไปด้วยนิด ๆ แต่เมื่อได้เห็นความน่าเอ็นดูของมันแล้ว มันก็อดไม่ได้จริง ๆ

โดยหลังจากนั้น วิลสันก็ได้ทราบว่า เจ้าดิวเป็นสุนัขชื่อดังแถวนั้นเลย ใคร ๆ ก็รู้ว่ามันชอบออกมาเดินเล่นพบปะผู้คน หลังจากสนุกสนานเป็นที่พอใจแล้ว มันก็จะเดินกลับบ้านไปหาเจ้าของเองทุก ๆ วัน

ครอบครัวที่เป็นเจ้าของเจ้าดิวเล่าให้วิลสันฟังว่า “มันชอบออกไปทักทายทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ ๆ มันชอบไปแจกความรักให้ผู้คน โชคดีที่มันฝังชิปและติด GPS ไว้ ทำให้พวกเรารู้ตลอดว่ามันไปที่ไหนบ้าง แม้จะไม่ใช้วิธีที่ช่วยให้มันปลอดภัยที่สุด แต่เราก็ดีใจที่เห็นมันมีความสุขจากการได้ออกไปเจอผู้คน”

อ่านไปก็อดที่จะอมยิ้มและก็เอ็นดูในความน่ารักของน้องหมาไม่ได้จริง

ขอขอบคุณ : kapook.com

แสดงความคิดเห็น

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่