ความแตกต่างระหว่างเหตุผลของคนจนกับคนรวย!!
จะว่าไปยุคนี้นับว่าเป็นยุควัตถุนิยมอย่างแท้จริง
ผู้คนดิ้นรนไขว่คว้าอยากได้สิ่งของต่างๆนานา
และมีรสนิยมในการบริโภคจับจ่ายเพิ่มมากขึ้น
บ้านหลังใหม่ รถคันใหม่ มือถือรุ่นใหม่
เสื้อผ้า อาหาร ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ
ยิ่งแพง ยิ่งทันสมัย ยิ่งขายได้ขายดี
ส่วนอะไรที่เป็นของถูก ของเกรดต่ำ
แม้จะคุ้มค่าหรือคุ้มราคามากเพียงใด
ก็อาจมีแค่คนกลุ่มน้อยเท่านั้นที่สนใจ!
………
อย่างไรก็ตาม แม้คนเราจะมีรสนิยมที่สูงขึ้น
แต่ไม่ได้หมายความว่า กำลังซื้อจะมีมากขึ้น
เราจึงยังเห็นภาพของคนที่อาจถูกให้ฉายาว่า
จัดอยู่ในพวก “รสนิยมสูงแต่รายได้ต่ำ”
แต่คนเหล่านั้นก็พยายามหรือดิ้นรน
เพื่อที่จะได้ครอบครองวัตถุสักชิ้นหนึ่ง
โดยยอมที่จะกู้เงิน ยอมที่จะผ่อนดาวน์ต่ำๆ
หรือแม้แต่ยอมที่จะทำความผิดเพื่อแลกมันมา
เหล่านี้อาจเป็นภาพที่ชินตากันในสังคม
และผลที่ตามมาก็คือ ธุรกิจเงินกู้สะพัด
โดยเฉพาะพวกสินเชื่อส่วนบุคคลทั้งหลาย
ที่ร่ำรวยไปตามๆกันจากพฤติกรรมการก่อหนี้
เพื่อให้ได้วัตถุบางอย่างมาตอบสนอง
ความต้องการของตนในวันนี้ เดี๋ยวนี้
ไม่ใช่รอวันข้างหน้าหรืออนาคตอันแสนยาวไกล..
………
มหาเศรษฐีท่านหนึ่งเคยถามวันพุธว่า
รู้หรือไม่ว่า
ทำไมคนรวยกับคนจนจึงต่างกัน?
ทำไมคนรวยถึงยิ่งรวยเอา รวยเอา
ขณะที่คนจนทำไมถึงยิ่ง จนเอา จนเอา
ท่านบอกว่า นั่นเพราะคนจนชอบยึดติด
ชอบครอบครองสิ่งนั้นสิ่งนี้เป็นของตน
และก็บอกว่า นั่นคือความเป็นเจ้าของ
เช่น อยากมีบ้านแพงๆ มีรถหรูๆ
มีมือถือหรือโทรทัศน์รุ่นใหม่ล่าสุด
ทั้งที่ ณ เวลาที่อยากได้…ไม่มีเงิน
จึงต้องกู้ จึงต้องผ่อนและเป็นหนี้สิน
สุดท้ายความเป็นเจ้าของที่แท้จริงจึงไม่มี
ส่วนคนรวยนั้น
สนใจแต่ความเป็นเจ้าของที่แท้จริง
หรือจะเรียกตามภาษากฎหมายสักหน่อยก็ได้ว่า
คนรวยสนใจแต่ กรรมสิทธิ์
ซึ่งก็คือ สิทธิหรืออำนาจที่เด็ดขาดเหนือวัตถุ
ดังนั้น คนรวยจึงไม่สนใจการยึดถือ
ไม่สนใจการครอบครอง จึงไม่ยึดติด
เราจึงเห็นคนรวย (จริงๆ) หลายๆคน
ที่ดูการแต่งกายภายนอกเดินดินธรรมดา
ใช้รถเก่าๆ มือถือเก่าๆ อยู่บ้านหลังเล็กๆ
แต่มีเงินเป็นร้อยล้านรอกินดอกเบี้ย
หรือมีโฉนดที่ดินเป็นแผงให้เขาเช่า
มหาเศรษฐีท่านนี้สรุปได้อย่างน่าฟังว่า
คนรวยไม่ได้สนใจว่า ทรัพย์หรือวัตถุจะอยู่ที่ใคร
สนใจแต่เพียงว่า ใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง
คนรวยอยากให้ทรัพย์ที่ตนเองเป็นเจ้าของ
อยู่กับคนอื่นมากๆด้วยซ้ำไป
ให้เขายึดถือทรัพย์ของเรา
ให้ดอกเบี้ย และให้ผลประโยชน์เรา
ส่วนคนจนมองแต่การยึดถือครอบครอง
และใช้สอยทรัพย์หรือวัตถุฟุ่มเฟือยต่างๆ
ทั้งที่ตนเองยังไม่ใช่เจ้าของที่แท้จริง
นั่นล่ะคือความต่างระหว่างคนจนกับคนรวย
……………………..
นี่แหละครับ เรื่องราวบางแง่บางมุม
เกี่ยวกับความคิดหรือเหตุผล
ของ คนรวย (บางคน)
กับ คนจน (บางกลุ่ม)
ที่อาจแตกต่างกันบ้างในการใช้ชีวิต
คนรวยใช้เงินสร้างความมั่งคั่งหรือWealth
หรือเรียกอีกอย่างว่า ใช้เงินต่อเงิน
ขณะที่คนจนใช้เงินเพื่อสนองความต้องการ
ซื้อวัตถุสิ่งของฟุ่มเฟือย สร้างหนี้สิน
และนำเงินในอนาคตมาใช้ซื้อปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่คนรวยทุกคน
จะใช้เงินเป็น หรือคนจนทุกคน
จะใช้เงินไม่เป็นไปเสียหมดนะครับ
ไม่อย่างนั้น คงไม่มี “คนเคยจน”
หรือไม่มี “คนเคยรวย” ให้เราเห็นกัน
วันพุธเองก็เชื่อในเรื่องนี้และเชื่อในหลักที่ว่า
อยู่อย่างจน (หรือพอเพียง) เราจะไม่มีวันจน
อยู่อย่างรวย เราจะไม่วันรวย
ว่าแต่วันนี้ เราพร้อมจะอยู่อย่างจน
และเตรียมตัวสู่ความร่ำรวยกันแล้ว…ใช่ไหมครับ
…..วันพุธ…..
ขอขอบคุณผู้เขียน : วันพุธ