ไม่เลื่อนไปนะ บทเรียนราคาเเพง จากเศรษฐีดัง สู่ พ่อค้าก๋วยเตี๋ยว

0

ไม่เลื่อนไปนะ บทเรียนราคาเเพง จากเศรษฐีดัง สู่ พ่อค้าก๋วยเตี๋ยว

สำหรับในวันนี้เราขอเวลาสัก 3 นาที หากคุณเลื่อนจนจบแล้วก็รู้สึกดีจริงๆ เรื่องต่อไปนี้เป็นเรื่องที่ใกล้ๆตัวของคุณมากๆ ไม่ต้องอ่านทุกตัวอักษรก็ได้ เล็กๆน้อยๆก็ยังดี เพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตคนคนนึง

คนที่เคยพยายามเอาเปรียบผู้อื่นไว้ อาจจะเป็นคนที่ทำให้ชีวิตของคุณดีขึ้นอีกครั้งก็ได้ใครจะไปรู้

จากมหาเศรษฐีรวยพันล้านคนหนึ่ง ชีวิตของตนนั้นหมดตัวไม่เหลืออะไร ชีวิตตอนแก่ก็แสนสุดจะยากเย็น รวยแล้วก็อย่าลืมตัว เรียนจากชีวิตจริงจากคนเคยมี

ชีวิตนั้นมีขึ้นมีลง อย่าได้พยายามดูแคลนคนอื่น

ได้มีอดีตเจ้าของที่ดินมากกว่า 500 ไร่ท่านหนึ่งได้เล่าให้ฟังว่า ในเมื่อก่อนนั้นผมเป็นคนที่รวยมาก มีที่ดิน 500 ไร่รวมกันทั่วทั้งเขตกรุงเทพฯ และเมืองใหญ่ๆทั่วประเทศมากมาย ตอนนั้นเมื่อประมาณ 30 ปีก่อน ผมพกเงินออกไปเที่ยวกินดื่มครั้งละเป็นแสน ทำธุรกิจเกี่ยวกับการค้าขายไม้ได้เงินดีจริงๆ ลูกๆของผมนั้นก็ส่งเรียนเมืองนอกเมืองนาหมด ไม่ต้องทำงานเลยให้เรียนอย่างเดียว

แฟนผมก็เป็นคนที่ชอบเล่นหุ้น แล้วในช่วงนั้นหุ้นก็ขึ้นเอาขึ้นเอา เรามีเงินสดกันมากมายหลายร้อยล้าน และก็ได้มีญาติคนหนึ่งเดือดร้อนมาก มาขอยืมเงินกับผม ในตอนนั้นผมก็ไม่ได้สนใจอะไรเลย ผมด่าเขาซะไม่มีชิ้นดี แต่ก็ให้เงินไปนะแสนนึง ให้เพราะความรำคาญแล้วก็บอกว่าไม่ต้องไปยืมเงินอีกนะต่อไปนี้ ผมบอกว่าผมให้ทาน เขาก็รับเงินไปพร้อมกับน้ำตา ตอนนั้นผมก็ไม่รู้หรอกว่าเขาจะคิดจะรู้สึกอย่างไร

ในช่วงปีต้มยำกุ้ง ผมไม่สะดวกเลย แต่ช่วงปีน้ำท่วมกับพัดพาทุกสิ่งทุกอย่างไปจากชีวิตผม ในตอนนั้นผมคิดการใหญ่ตั้งโรงงานอะไรที่อยุธยา ไม่ได้ทำโรงงานขายไม้แล้ว ผมมีรถ 19 คัน มีบ้านหลังใหญ่อีก 5 หลัง ที่ดินทั้งหมดแรงเหมือนที่เคยมี แฟนผมนั้นเล่นหุ้นเจ๋งไปมากกว่า 400 ล้าน ลูกๆของผมที่ทำธุรกิจก็ขาดทุนย่อยยับกันหมด ภายใน 2 ปีสิ่งที่ผมมีมันกลับหายไปทั้งหมด เหลือไว้เพียงหนี้สิน 200 กว่าล้านในปัจจุบัน ผมเป็นบุคคลล้มละลาย เช่าห้องแถวอยู่ ขายก๋วยเตี๋ยวเพื่อประทังชีวิตไปวันๆ แฟนของผมก็ไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรทั้งสิ้น ลูกๆผมก็ไม่เคยเห็นหน้าเห็นตา ในตอนนี้ผมอายุเกือบจะ 80 แล้ว ผมยังต้องมายกหม้อก๋วยเตี๋ยวแล้วล้างจานอยู่เลย

แต่ทุกวันนี้ผมก็เริ่มปลงแล้วนะ ผมมาลำบากในตอนแก่ เงินค่าเช่าห้องแถวผมก็ไปยืมลูกคนที่ผมเคยด่าเขา คนที่ผมให้เขาไปแสนนึง เขายิ่งเงินให้ผม 500 แล้วก็บอกว่า

“ พ่อผมเคยบากหน้าไปยืมเงินคุณลุง เพราะในตอนนั้นผมเข้าโรงพยาบาล ถ้าผมไม่มีเงินก้อนนั้นผมคงไม่มาอยู่ตรงนี้ พ่อของผมนั่งร้องไห้เพราะว่าโดนคุณลุงด่าแล้วโยนเงินให้เหมือนหมา”

พ่อของผมบอกว่าตอนนั้นถ้าพ่อยืมเงินของลุงแล้วลุงไม่ให้ ต่อให้ลุงจะตีพ่อ พอก็ยอม เพราะว่าลูกมีค่ามากกว่าสิ่งอื่นใด ถ้ามีเงินก็จะคืนให้ลุง วันนี้ผมคืนให้พร้อมดอกเบี้ย เราไม่มีหนี้ไม่มีบุญคุณกัน แต่ถ้าหากวันใดคุณลุงลำบากคุณลุงจะมายืมกับผมก็ได้ ผมจะให้กู้ ผมจะไม่ด่าคุณลุงเหมือนที่คุณลุงด่าพ่อของผม

นี่เป็นเหมือนเวรก ร ร มที่ผมจะต้องเจอ

ตอนนั้นเดินร้องให้กลับมาถึงบ้าน เอาเงินไปจ่ายค่าห้องแถว แล้วก็มีเงินทุนเหลือเก็บเอาไว้ ผมจึงเข้าใจแล้วว่า นี่แหละคือความรู้สึกของคำว่า “เวรก ร ร มตามสนอง”

ในตอนนี้ผมมาเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยว มีคนมากมายที่ไม่มีเงินมาขอกิน ผมก็ให้โดยที่ไม่คิดเงินแม้แต่บาท ผมมีมากผมก็ช่วยคนอื่นมาก ผมมีน้อยผมก็ช่วยคนอื่นน้อย

ตอนที่ผมเที่ยวผมกิน ผมมีผู้หญิงมากมาย ในตอนนี้ผมหมดเนื้อหมดตัว ไม่มีเพื่อนฝูงสักคนเดียว ที่จะยื่นมือเข้ามาช่วย ในตอนที่ผมลำบาก แต่ตอนนี้ผมมีกินมีใช้ เพื่อนฝูงแต่ละคนก็เข้ามาหวังกินหวังใช้ของผมกันทั้งนั้น

ในตอนนี้ผมได้ฟังธรรมะ เข้าวัดเป็นประจำรู้จักการให้ทาน ไปหน่อยผมก็คงจะไป แต่ผมห่วงแค่แฟนของผมและลูกของผม ผมภาวนาให้ แฟนของผมจากไปก่อนผม เพราะถ้าหากผมไปก่อน ผมก็จะหลับตาไม่ลง

ผมต้องการที่จะเก็บเรื่องราวนี้ให้คนที่อ่านได้กำไรชีวิต หากชีวิตของคุณนั้นมีความขยันหมั่นเพียร ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่การงาน บอกเลยว่าชีวิตนี้ก็จะไม่มีคำว่าอดอย่างแน่นอน

ในเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า หากคุณมีดีกว่าผู้อื่น จงอย่าทะนงตนและอย่าลืมตัว ยามที่ร่ำรวยมีเงินทองมากมาย ก็อย่ามองคนอื่นเหมือนเช่นผักปลา ใครจะไปรู้ว่าในวันนึงคุณอาจจะไม่เหลืออะไรก็ได้ คนที่เคยพยายามมองคนอื่นไม่ดี หรืออาจเป็นเหมือนผม วันใดวันหนึ่งเขาอาจจะมาให้ชีวิตคุณอีกครั้งนึงก็ได้

เขียน / เรียบเรียงใหม่โดย : Postsod

ไม่อนุญาตให้คัดลอก ทุกกรณี

แสดงความคิดเห็น

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่