สอนสูตรทำน้ำจิ้มสุกี้ รสอร่อยไม่ต้องซื้อร้าน ทำกินเองได้ทำขายรวย

0

สอนสูตรทำน้ำจิ้มสุกี้ รสอร่อยไม่ต้องซื้อร้าน ทำกินเองได้ทำขายรวย

ในช่วงที่วันหยุดยาวแบบนี้ หลายๆคนก็มักจะหาทำเมนูอาหารต่างๆให้หลากหลาย ซึ่งแน่นอนการทำหม้อสุกี้เป็นหนึ่ งในเมนูที่หลายๆคนชื่นชอบกันเป็นอย่างดี และคงยังเป็นเมนูยอดฮิตในขณะนี้ ซึ่งวันนี้เราได้มีน้ำจิ้มสุกี้รสอร่อย ที่คุณสามารถปรุงรสชาติเองได้อย่างง่ายๆ โดยที่ไม่ต้องซื้อที่ร้านราคาแพ งเพราะสูตรที่เรานำมาฝากกันในวันนี้เป็นสูตรเจ้าดังที่ใครได้ชิมเป็นต้องติดใจในรสชาติที่ได้ออกมาอย่างแน่นอน อย่ารอช้าเราตามมาดูเครื่องปรุงส่วนผสมและวิธีการปรุงรสชาติกันเลยดีกว่า ว่าเขามีเคล็ดลับความอร่อยอย่างไร

ส่วนผสมและเครื่องปรุง

เต้าหู้ยี้สีแดง 4 ก้อน , น้ำเต้าหู้ยี้ 2 ช้อนโต๊ะ , พริกจินดา (พริกขิ้ห นูสีแดงเม็ดใหญ่) บด 2 ช้อนโต๊ะ , ซอสพริก 5 ช้อนโต๊ะ , กระเทียมกลีบใหญ่แกะเปลือก บด 4 ช้อนโต๊ะ , น้ำกระเทียมดอง 3 ช้อนโต๊ะ , กระเทียมดองหั่น 3 หัว

น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ , เกลือป่น (เกลือธรรมดา ไม่ใช่ไอโอดีน) 1 ช้อนโต๊ะ + 1/2 ช้อชา , น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ , น้ำส้มสายชู 3 ช้อนโต๊ะ , น้ำสะอาด 1/3 ถ้วย , น้ำมันงา 1 1/2 ช้อนโต๊ะ , งาขาวคั่วบด 2 ช้อนโต๊ะ

ส่วนผสมที่เราเตรียมไว้ในปริมาณข้างต้นนี้ เราสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามปริมาณของการทำได้ ทำน้อยก็ใส่น้อย ทำมากก็ใส่เพิ่มขึ้นมากได้

วิธีทำ

1 สำหรับวิธีการทำนั้นให้เราเริ่มต้นด้วยการนำส่วนผสมทั้งหมด ( ยกเว้นน้ำมันงากับงา ) ใส่ลงไปในโถปั่น เราจะทำการปั่นส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากันดี หากบ้ านไหนไม่มีเครื่องปั่นก็สามารถใช้ครกตำได้

หากใช้ ครก แทนนะคะ ด้วยการโขลกเต้าหู้ยี้ / โขลกพริก-กระเทียม / โขลกกระเทียมดอง แยกกัน แล้วนำมาผสมรวมพร้อมส่วนผสมอื่น

2 จากนั้นให้เราทำการนำส่วนผสมที่ได้ใส่ลงหม้อแล้วตั้งไฟอ่อนๆ ใช้ไม้พายคนเป็นระยะๆ จนกระทั่งน้ำจิ้มของเรามีความเดือดและมีความเข้ากันดีแล้ว เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จให้ชิมรสชาติได้ตามใจชอบ ขาดเหลือก็สามารถใส่เพิ่มเติมลงไปได้เท่านี้ก็ปิดไฟ

3 ก่อนที่เราจะยกลงจากเตานั้น ให้เราใส่น้ำมันงาและงาขาวคั่วบดหยาบใส่ลงไป คนให้เข้ากันเราก็จะได้น้ำจิ้มสุกี้ที่พร้อมรับประทาน หากทานไม่หมดให้เราเก็บใส่ขวดโหลที่มีฝาปิดสนิทใส่ไว้ในตู้เย็นแช่ได้นานหลายวันเลยทีเดียว

เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จ เพื่อนๆสามารถทำตามกันได้ง่ายๆ คุณจะได้รสชาติที่ถูกใจแสนอร่อย ทำง่าย มีความสะอาด และยังเก็บไว้ทานได้หลายวัน หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับทุกท่านค่ะ

เรียบเรียง : postsod

ขอบคุณข้อมูลจาก : kinpungkang

แสดงความคิดเห็น

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่