3 อาหาร ช่วยลดความดันโลหิตสูง ป้องกันเส้นเลือดสมองแตก
โรคความดันโลหิตสูงมีอาการอย่างไร ?
เท่าที่มีการพบ จะเห็นได้ว่า โรคความดันโลหิตสูง นั้นมักเป็นโรคที่ไม่มีอาการใดๆ บ่งบอก เมื่อเกิดโรคนี้แล้วมักเป็นเรื้อรัง รุนแรงหากว่าไม่สามารถควบคุมอาการที่เกิดขึ้นได้ แพทย์บางท่านจึงได้ขนาดนามว่า โรคความดันโลหิตสูง นั้นเป็น เพรฆาตเงียบ (Silent Killer) ซึ่งโดยส่วนใหญ่ อาการที่เกิดจากการเป็นโรคความดันโลหิตสูงมักเป็นอาการที่เกิดข้างเคียงจากการเป็นโรคในกลุ่มต่างๆ ดังนี้ …
โรคร้ายแรง ได้แก่ โรคหัวใจ , โรคหลอดเลือดในสมอง
โรคที่เป็นปัจจัยเสี่ยง ได้แก่ โรคเบาหวาน , โรคอ้วน
โรคที่เป็นสาเหตุ ได้แก่ โรคเนื้องอกต่อมใต้สมอง (มีอาการปวดศีรษะและดวงตามองเห็นภาพได้ไม่ชัด)
อาหารลดความดันสูง
1. ผัก และผลไม้ที่มีโพสแทสเซียมสูง เพราะโพแทสเซียมจะช่วยควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติได้ ผัก และผลไม้ที่มีโพแทสเซียม ได้แก่ ลูกพรุน ลูกเกด เมล็ดทานตะวัน อินทผาลัม ผักโขม เห็ด กล้วย ส้ม แต่ใครที่เป็นผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีโพแทสเซียมสูงนะคะ
2. ธัญพืชต่างๆ โดยเฉพาะถั่ว โดยอาจเลือกธัญพืชที่อบแห้งแบบไม่อบเกลือ (โซเดียมจะได้ไม่หนัก) นอกจากจะช่วยลดความดันโลหิตสูงแล้ว ยังมีไขมันดีที่ช่วยลดคอเลสเตอรอลในร่างกายอีกด้วย แต่ต้องทานในระดับพอดีๆ เพราะธัญพืชก็ให้พลังงานอยู่เหมือนกันนะ ถ้ากะปริมาณไม่ถูกก็ทานประมาณ 1 กำต่อวันค่ะ
3. อาหารคลีน หมายถึงอาหารที่ปรุงด้วยวิธีที่ใช้ไขมันต่ำ แป้งไม่ขัดสี เช่นข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีท และผ่านการปรุงรสน้อยๆ หากทานอาหารคลีนเป็นประจำ จะช่วยลดปริมาณโซเดียมในร่างกาย และช่วยลดความดันโลหิตได้ในระยะยาว
นอกจากอาหารที่ควรทานแล้ว ยังมีอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง เพื่อป้องกันไม่ให้ระดับของความดันโลหิตสูงไปกว่าเดิมด้วยนะคะ
1. แอลกอฮอล์
2. กาแฟ ชา และเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
3. อาหารที่มีไขมันสูง เช่น เนื้อสัตว์ทอด แกงกะทิ ผัดพริกแกง
โรคความดันสูงจะรุนแรงและมีผลข้างเคียงหรือไม่ ?
หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า โรคความดันสูง นั้นเป็นโรคเรื้อรัง โรคเรื้อรังในที่นี่หมายถึงโรคที่รักษาให้หายยาก แต่ยังอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้เสมอหากว่ามีการควบคุมอาการมาตั้งแต่ต้น ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างสม่ำเสมอ รวมถึงกินยาอย่างถูกต้อง ครบถ้วน ไม่ขาดยา
ในทางตรงกันข้าม หากผู้ป่วยดูแล รักษา และควบคุมอาการของโรคที่เกิดขึ้นได้ไม่ดี ผลที่จะเกิดตามมานั้นมักจะรุนแรง จนเป็นเหตุให้เกิดโรคแทรกซ้อนต่างๆ ตามมา อาทิ โรคหลอดเลือดหัวใจ , โรคหลอดเลือดสมอง , โรคไตเรื้อรัง ที่อาจทำให้พิการและเสียชีวิตได้ นอกจากนั้นก็อาจจะมีเป็นโรคหลอดเลือดของจอตาและของประสาทตาที่ส่งผลให้ตาบอดได้
เพื่อให้เข้าใจความเป็นไปของโรคความดันสูงได้มากขึ้น สามารถแบ่งออกเป็นระยะตามความรุนแรงของโรค จากน้อยไปหามากได้ดังนี้
ความดันโลหิตในผู้ที่มีแนวโน้มว่าจะเป็นโรคความดันสูง คือ 120-139/80-89 มม.ปรอท มีแนวทางการรักษาโดยการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต แต่แพทย์จะยังคงไม่ให้ยาลดความดันโลหิต
โรคความดันสูงระยะที่ 1 ที่ความดันโลหิตจะอยู่ในช่วง 140-159/90-99 มม.ปรอท
โรคความดันสูงระยะที่ 2 ที่ความดันโลหิตอยู่ในระดับตั้งแต่ 160/100 มม.ปรอทขึ้นไป
โรคความดันสูงที่จะต้องเดินทางไปพบแพทย์ภายใน 24 ชั่วโมง คือ ความดันโลหิตสูงตั้งแต่ 180/110 มม.ปรอทขึ้นไป เพราะอาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ทำให้เกิดโรคหัวใจ สมอง ไต ล้มเหลว
โรคความดันสูงที่จะต้องพบแพทย์ฉุกเฉิน ที่ความดันโลหิตจะอยู่ในระดับตั้งแต่ 220/140 มม.ปรอทขึ้นไป เพราะการเกิดความดันโลหิตสูงในระดับนี้มักจะเป็นอันตรายถึงชีวิตซึ่งมาจากการล้มเหลวของอวัยวะต่างๆ ภายในร่างกาย เช่น หัวใจ สมอง และไต
หากอยากลดโรคความดันโลหิตให้เห็นผลเร็วขึ้นอีกนิด ปรับพฤติกรรมในการทานอาหารแล้ว ต้องปรับพฤติกรรมในการใช้ชีวิตด้วย ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ และทำจิตใจเบิกบาน ผ่อนใส ไม่เครียด เท่านี้ร่างกายก็แข็งแรง
ขอขอบคุณ : sanook