ลองอ่านดูนะ หมดเวลาของบุญ ก็คือเวลาของกรรม
เรื่องของบุญของกรรมนั้น เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้ได้ มันขึ้นอยู่กับว่าเราจะสะสมสิ่งไหนได้มากกว่ากัน และรับมือกับสิ่งเหล่านั้นอย่างไร
เรื่องเล่ามีอยู่ว่า……
เมื่อ 50 กว่าปีก่อน ในย่านพักอาศัยใจกลางเมืองของกรุงเทพฯ ณ ซอยเล็กๆ แห่งหนึ่ง มีตึกแถวปลูกติดกันประมาณ 15 ห้อง ห้องแรกสุดหัวซอยและห้องสุดท้ายซึ่งตั้งอยู่ท้ายซอยเป็นตึกแถวแบบพิเศษ คือเป็นห้องใหญ่แบบ 2 ห้องติดกัน
ชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นคนจีน อยู่กันมานานเป็นสิบๆปี รู้จักกันหมด แค่เห็นหน้าก็รู้ว่าใครอยู่บ้านไหน ชาวบ้านอยู่กันอย่างเรียบง่าย จนกระทั่งตึกแถว 2 ห้องที่หัวซอยมีผู้ย้ายเข้ามาอยู่ใหม่เป็นครอบครัวเศรษฐีพ่อค้า ความเดือดร้อนจึงได้เริ่มต้นขึ้นเรื่องมีอยู่ว่า…
เมื่อ 50 ปีก่อนเป็นเรื่องธรรมดาของบ้านตึกแถวที่จะใช้ท่อระบายน้ำร่วมกัน ในซอยนี้ก็เช่นกัน น้ำทิ้งจะไหลจากท้ายซอยไปหัวซอยแล้วไหลลงสู่ท่อระบายน้ำใหญ่ แต่เถ้าแก่เนี้ยผู้มาอยู่ใหม่กลับกั้นท่อระบายน้ำไม่ให้น้ำไหลผ่านบ้านแก ทำให้บ้านทุกหลังมีน้ำทะลักเข้ามาในบ้านเพราะทางน้ำถูกปิด ชาวบ้านจึงรวมตัวกันไปต่อว่า..แต่เถ้าแก่เนี้ยกลับเฉยเมยและบอกหน้าตาเฉยว่าท่อระบายน้ำอยู่ในบริเวณบ้านของแก แกจะทำอะไรก็ได้..เถ้าแก่ซึ่งเป็นคนดีพยายามขอร้องภรรยาแต่ก็ไม่เป็นผล
ท้ายที่สุดอาแปะซึ่งเป็นช่างรับเหมาก่อสร้างตึกแถวทั้งหมดในย่านนี้ และอาศัยอยู่ในตึกแถวห้องสุดท้ายที่ท้ายซอยจึงไปเจรจา แต่ก็ไม่เป็นผล สุดท้ายปัญหาต่างๆ ก็คลี่คลายจากการแก้ปัญหาของอาแปะ โดยแกได้ทำทางระบายน้ำใหม่ให้ไหลจากหัวซอยไปท้ายซอยผ่านบ้านของแกเอง
ตั้งแต่นั้นแทบจะไม่มีใครอยากจะคบค้าสมาคมกับเถ้าแก่เนี้ยอีกเลย พอเวลาผ่านไปหลายปี เรื่องนี้ก็ถูกลืมกันไปและมีเรื่องใหม่มาแทน คือเรื่องที่ชาวบ้านแถวนั้นโดนเถ้าแก่เนี้ยขโมยของ เพราะเวลาแกไปนั่งบ้านไหน แกก็จะแอบหยิบฉวยข้าวของของบ้านนั้นไป..คนแรกที่โดนขโมย พอไปเล่าให้ใครฟังก็ไม่มีใครเชื่อว่าเศรษฐีจะขโมยของคนอื่น ต่อเมื่อต่างคนต่างเห็นข้าวของของตัวเองไปอยู่ที่บ้านของเถ้าแก่เนี้ย จึงเป็นอันรู้กันทั่วว่า..ถ้าต้องคุยธุระ..อย่าให้แกเข้าบ้านเป็นอันขาด
นอกจากนี้แกยังเป็นคนใจร้าย หมาแมวจรจัดอย่าได้เดินเฉียดไปใกล้บ้านแกแกจะไล่ตีจนกระเจิง ตัวไหนที่แกเกลียดมากๆ ก็จะสั่งให้ลูกน้องจับไปปล่อยที่อื่น เคยมีแมวที่มีเจ้าของโดนลูกน้องแกจับไปปล่อย โชคดีว่าแมวน้อยฉลาดจึงกลับมาบ้านถูก
เป็นเวลากว่าสิบปีที่เถ้าแก่เนี้ยใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย เป็นคุณนายมาตลอด ที่แกโชคดีเช่นนี้เพราะเถ้าแก่เป็นคนขยันและซื่อสัตย์ ทำการค้าก็เจริญรุ่งเรือง พอถึงวัยเกษียณก็ให้ลูกชายมาบริหารงานแทน แต่แล้ววันหนึ่งเถ้าแก่ก็นอนหลับไปและไม่ฟื้นขึ้นมาอีกเลย แกจากไปอย่างคนมีบุญสมกับความดีที่แกทำ
สำหรับเถ้าแก่เนี้ย หลังสามีตายก็เป็นเวลาของการเผชิญเวรกรรม เพราะไม่นานนักลูกชายของเถ้าแก่ก็ถูกโกง เป็นหนี้สินมากมาย จึงพาครอบครัวหนีหนี้ไปอยู่ต่างประเทศ แต่กลับไม่ยอมพาเถ้าแก่เนี้ยไปด้วยแถมบ้านที่อยู่ก็เซ้งไป ทำให้แกไม่มีบ้านจะอยู่ ต้องไปอาศัยอยู่กับลูกสาว ทำให้สิ้นสุดชีวิตคุณนายเพียงเท่านั้น
จากนั้นไม่ถึงปีเถ้าแก่เนี้ยก็ตายตามสามีไป ชาวบ้านต่างโจษจันกันว่า แกรับสภาพที่เปลี่ยนไปไม่ได้จนตรอมใจตาย จากคนที่เคยมีความสุขสบายมาค่อนชีวิต กลับต้องมาเผชิญกับวิบากกรรมในยามชรา ทำให้เห็นว่า..เวลาของบุญบาปไม่มีใครสามารถห้ามปรามได้เมื่อเวลาของมันมาถึง
การใช้ชีวิตมีหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะพอใจในแบบไหน และสิ่งที่เราพอใจนั้น เดือดร้อนคนอื่นหรือไม่ ถ้าสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น อย่าทำเลย เพราะมันจะเป็นบาปกับตัวเรา….
ขอบคุณข้อมูลจาก : เรื่อง ก เอ๋ย ก ไก่