ชี้ช่องทำกิน ไม่คอยวาสนา ขั้นตอน วิธีเลี้ยงกุ้งแม่น้ำ

0

ชี้ช่องทำกิน ไม่คอยวาสนา ขั้นตอน วิธีเลี้ยงกุ้งแม่น้ำ

กุ้งแม่น้ำตัวใหญ่ๆถ้าสั่งทานตามร้านอาหารจะเห็นได้เลยว่าราคาต่อตัวนั้นมีราคาสูงมาก ถึงแม้จะมีราคาสูงแต่ก็ยังเป็นที่นิยมและเป็นที่ต้องการเป็นจำนวนมาก ซึ่งหากใครที่กำลังมองหาช่องทางในการสร้างอาชีพวันนี้เราก็มีเรื่องราวจากผู้ใจบุญที่ได้มาแนะนำวิธีพร้อมกับเทค นิคในการเลี้ยงกุ้งแม่น้ำให้ได้ตัวใหญ่และราคาดีมาฝากกัน

โดยเทค นิคนี้เป็นเทคนิคของอาจารย์ต่อ ที่ได้ออกมาให้ศึกษากันแบบละเอียดโดยไม่ต้องเสียเงินสักแดงเดียว สำหรับเทคนิคการเลี้ยงกุ้งแม่น้ำในบ่อซีเมนต์ ในพื้นที่จำกัด ว่าจะต้องเตรียมตัวอย่างไร ลงทุนอะไรเท่าไหร่ ใช้งบประมาณเท่าไหร่สำหรับใครที่สนใจก็สามารถติดตามกันได้

อุปกรณ์ที่ใช้ในการเลี้ยงกุ้ง

และสำหรับการเลี้ยงกุ้งครั้งนี้จะใช้ลูกกุ้งขนาดประมาณ 7 เซนติเมตร จำนวน 200 ตัว

1 บ่อปูนขนาด 3×3 เมตร ลึก 60 เซนติเมตร หลังจากที่ก่อบ่อปูนแล้วควรล้างทำความสะอาดหลายๆรอบ แช่น้ำด้วยต้นกล้วยสับละเอียดเป็นชิ้นใหญ่ๆ 7 วัน หลังจากนั้นแช่ด้วยด่างทับทิมประมาณ 7 วัน เพื่อที่จะดูดซับความเค็มของปูนให้ออกไปให้ได้มากที่สุด

2 เครื่องทำอ๊อกซิเจนแบบ 2 รู ราคาประมาณ 380-400 บาท เราจะใช้ท่อทำออกซิเจนประมาณ 2 รู เยอะมากก็ไม่ดีน้อยไปก็ไม่ดี อาจจะทำให้น้ำเสียเร็ว

3 ตัวแยก 3 ทาง 2 อัน สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายท่อ PVC อุปกรณ์ก่อสร้าง

4 สายยางอากาศ ยาว 6 เมตร แบ่งเป็นเส้นละ 1.50 เมตร 4 เส้น และยาว 2 เมตร แบ่งเป็นเส้นละ 1 เมตร 2 เส้น

5 หัวทราย 4 หัว ให้นำสายยางอากาศเส้นละ 1 เมตร ต่อเข้าเครื่องทำอ๊อกซิเจนรูละเส้น แล้วใส่ตัวแยก 3 ทางข้างละเส้น หลังจากนั้นใส่สายยางอากาศเส้นละ 1.50 เมตรที่บริเวณปลาตัวแยกแต่ละปลาย สุดท้ายปลายสายยางก็ใส่หัวทราย ปลายละหัว ก็จะได้ชุดจ่ายอ๊อกซิเจนเรียบร้อย

6 อาหารอนุบาลกุ้ง ส่วนของอาหารเม็ด หาซื้อได้ตามร้านขายอาหารสัตว์ทั่วไป บ อกเขาว่าอาหารสำหรับกุ้งลงเดิน และอีกส่วนคือไรแดงแต่จะใช้หรือไม่ใช้ก็ได้

7 ผงแร่ธาตุ สำหรับช่วยให้กุ้งลอกคราบได้เร็ว มีขายตามร้านขายอาหารสัตว์

8 ท่อพีวีซี สำหรับให้กุ้งหลบซ่อนหรืออาศัย

9 แผ่นกระเบื้องหลังคา สำหรับให้กุ้งหลบอาศัย

10 ลูกกุ้งขนาด 5-7 เซนติเมตร ถามว่าทำไมไม่เอาตัวเล็กกว่านี้เพราะเอาแบบอัตราการรอดที่สูงดีกว่า ดูแลเห็นตัวเป็นๆชัดเจนกว่าครับ เอาแบบตัวละ 2-3 มิลลิเมตรมาแทบมองไม่เห็นเลยทีเดียวเลี้ยงไปก็ท้อสิครับ

11 เกลือแกง ถุงละ 10 บาท 2 ถุง ไม่ต้องเน้นยี่ห้อมากนะครับเกลือเค็มทุกถุงครับซื้อถูกๆตามท้องตลาดก็ได้ครับ เอาเพื่อมาจัดการกับสิ่งที่ไม่สะอาดในน้ำเฉยๆครับ

12 วิตามินสำหรับกุ้ง หาซื้อได้ตามร้านขายอาหารสัตว์

ขั้นตอนการเลี้ยงกุ้ง

1 เติมน้ำลงบ่อปูนให้ได้ขนาดความลึก 50 เซนติเมตร หว่านเกลือให้ทั่วบ่อจนหมด 2 ถุง เปิดเครื่องอ๊อกซิเจนเพื่อเพิ่มอากาศในน้ำ ให้หัวทรายอยู่ตามมุมบ่อทั้งสี่มุม ทิ้งน้ำไว้ 2-3 วัน ก่อนปล่อยกุ้ง ใช้ได้ทั้งน้ำบาดาล น้ำปะปา

2 เรียงท่อพีวีซี หรือกระเบื้องหลังคาลงบ่อไว้ เตรียมน้ำทิ้งไว้ครบ 2 วัน ก็ปล่อยลูกกุ้งลงบ่อ ค่อยๆวางลงอย่างประณีตบรรจง แต่อย่าพึ่งให้อาหารกุ้ง ให้กุ้งอดอาหาร 1 วัน วันถัดไปค่อยให้อาหาร

3 ในวันถัดมาเริ่มให้อาหารกุ้ง ในจำนวนกุ้งที่ลงเลี้ยงในบ่อนี้ให้วันละ 4 ช้อนพอ หว่านรอบๆบ่อ พยายามให้อาหารกุ้งช่วงเย็นๆหรือใกล้มืดจะดีมากๆ

4 หลังจากปล่อยกุ้งลงน้ำครบ 7 วัน ให้หว่านแร่ธาตุสำหรับกุ้งลงบ่อ จำนวน 4 ช้อนโต้ะ ทำแบบนี้ทุก 15 วัน ให้ลองสังเกตุดีดีในบ่อหลังจากให้แร่ธาตุสำหรับกุ้งจะเห็นกุ้งขึ้นมาลอกคราบไว้บนแผ่นกระเบื้องหลังคา เพราะกุ้งกำลังจะโต

5 ให้อาหารกุ้งไปเรื่อยๆ จนครบ 45 วัน ให้เป ลี่ยนขนาดของอาหารกุ้งให้เป็นกุ้งขนาดกลาง จากนั้นให้อาหารกุ้งขนาดกลางครบ 45 วัน ก็ให้เป ลี่ยนขนาดเป็นอาหารกุ้งขนาดใหญ่ และเมื่อให้อาหารกุ้งขนาดใหญ่ไปอีก 60 วัน

6 เลี้ยงกุ้งต่อไปจนครบ 6-7 เดือน ก็น่าจะเริ่มเห็นผลงานแล้วล่ะครับ จะเล็กจะใหญ่อยู่ที่บุญพาวาสนาเกิด ฝีมือของเราล่ะครับสำคัญมากๆ ช่วงที่ให้อาหารกุ้งถ้ามีวิตามินอาหารเสริมดีๆก็ใส่คลุกกับอาหารกุ้งได้นะครับกุ้งจะแข็งแรงโตเร็วดี

วิธีในการเป ลี่ยนน้ำ

สำหรับท่านที่เข้าใจในระบบน้ำวนก็ดีไป แต่ถ้าสำหรับคนที่ไม่เข้าใจก็ต้องเป ลี่ยนน้ำเอาล่ะครับ อาทิตย์ละครั้งหรือเวลาที่เห็นว่าน้ำเริ่มขุ่นก็รีบเปลี่ ยนทันที ควรหว่านแร่ธาตุสำหรับกุ้งทุก 7 วันหรือทุกครั้งที่เป ลี่ยนน้ำในบ่อ ย้ำเลยนะครับว่าน้ำสะอาด อากาศต้องพอ อาหารอิ่ม กุ้งรอดและโตแน่นอน อย่าพยายามไปกวนไปส่องดูผลงานบ่อยนะครับ กุ้งชอบความเป็นส่วนตัวมาก เดี๋ยวเขาจะไม่กินอาหาร จะทำให้โตช้านะครับ

ลองคิดดูว่าถ้าคุณมีกุ้งไว้กินเองที่บ้านในช่วงเทศกาลต่างๆ ครั้งละประมาณ 20-30 ตัวโดยที่ไม่ต้องเสียตังค์ในการซื้อกุ้งแพงๆเลย แล้วถ้าเหลือเราก็สามารถเอาไปแบ่งปันหรือขายเพื่อนบ้านได้เลยในราคาที่ถูกลงกว่าเดิม หรือใครที่มีช่องทางในการส่งขายก็สามารถขายได้ตามราคาตลอดซึ่งยังไงก็กำไรเห็นๆ หากใครสนใจก็สามารถลองไปศึกษากันดูได้

เรียบเรียงโดย : Postsod

ที่มา : อาจารย์ต่อ

แสดงความคิดเห็น

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่