แชร์เคล็ดลับ การทำไข่เค็มสูตรไข่แดงมันเยิ้ม ขั้นตอนแสนง่าย ทำกินก็อร่อย ทำขายก็รวย

0

แชร์เคล็ดลับ การทำไข่เค็มสูตรไข่แดงมันเยิ้ม ขั้นตอนแสนง่าย ทำกินก็อร่อย ทำขายก็รวย

เวลาที่เราเจ็บป่วย ไม่สบาย ก็มักอยากจะกินอะไรร้อนๆ ข้ามต้มร้อนๆ ทานคู่กับไข่เค็มสักใบ ยิ่งถ้าเป็นไข่เค็มที่มีไข่แดงเยิ้มๆล่ะก็ รับรองว่าอร่อยมาก วันนี้เรามีสูตรการทำไข่เค็มที่จะทำให้ไข่แดงตรงกลางมันเยิ้ม ด้วยวิธีที่คุณเองก็สามารถทำได้ง่ายๆ

เป็นสูตรไข่เค็มดองในน้ำเกลือ แค่เพียง 1-2 อาทิตย์ ก็ได้ไข่เค็มฝีมือตัวเองไว้กินแล้ว ถ้าอยากรู้แล้วว่า ไข่เค็มทำเองนี้จะมีวิธีการอย่างไร มาดูกันเลยจ้า

สิ่งที่ต้องเตรียม

1. ไข่เป็ดดิบ 10 ฟอง

2. ภาชนะสำหรับดองไข่ (เลือกภาขนะที่ไม่ทำปฏิกิริยากับเกลือ เช่น โหลแก้ว แก้วพลาสติก

3. กะละมัง หรือเครื่องเคลือบดินเผา)

4. เกลือ 1 ถ้วย

5. น้ำสำหรับต้มน้ำเกลือ 4 ถ้วย (หรือ 1 ลิตร)

ขั้นตอนการทำไข่เค็ม

1. ล้างไข่เป็ดให้สะอาด สะเด็ดน้ำจนแห้งสนิท ใส่ลงในโหลแก้ว เตรียมไว้

2. ทำน้ำเกลือสำหรับดองไข่ โดยใส่เกลือกับน้ำลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟจนเดือด และคนให้เกลือละลายจนหมด ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็นสนิท

3. เทน้ำเกลือที่เย็นแล้วลงในโหลไข่จนท่วมไข่ จากนั้นใช้ถุงพลาสติกใส่น้ำวางทับลงไปให้ไข่เป็ดจมอยู่ใต้น้ำ ตลอดเวลา ปิดฝาให้สนิท เก็บไว้ในที่ร่ม นานประมาณ 2-3 อาทิตย์

4. สำหรับทำไข่ดาว เก็บไว้นานประมาณ 2 อาทิตย์ สำหรับทำไข่ต้ม เก็บไว้นานประมาณ 3 อาทิตย์

ทำอย่างไรให้ไข่แดงเค็มเป็นน้ำมัน ?

หลายคนชอบกินไข่เค็มที่มีไข่แดงเป็นน้ำมันเยิ้ม ๆ ออกมา เพราะทั้งมัน ทั้งอร่อย เทคนิคก็คือ หลังจากที่พักน้ำเกลือจนเย็นสนิทแล้ว ให้เติมเหล้าขาวลงไปในน้ำเกลือด้วยเล็กน้อย คนผสมให้เข้ากัน แล้วเทใส่ลงในโหล จะทำให้ไข่แดงเค็มที่ได้ก็จะเป็นน้ำมันเยิ้ม ๆ น่ากินนั่นเองค่ะ

วิธีต้มไข่เค็มให้อร่อย ?

การที่จะต้มไข่เค็มให้อร่อยนั้น มีเคล็ดลับอยู่ที่ “สารส้ม” ทำได้โดยใส่น้ำลงในหม้อ ใส่สารส้ม 1 ก้อน หรือสารส้มป่นประมาณ 1/2 ช้อนโต๊ะ ตามด้วยไข่ นำขึ้นตั้งไฟปานกลาง ต้มจนเดือด นานประมาณ 8-10 นาที ก็จะได้ไข่เค็มต้มสุดอร่อยไว้กินแล้ว

วิธีเก็บไข่เค็มต้มให้ได้นานที่สุด ?

ไข่เค็มที่นำไปต้มแล้วสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้นานประมาณ 1 เดือน ส่วนวิธีการเก็บรักษาไข่เค็มต้มให้ได้นานที่สุด คือ ให้ใส่สารส้มลงไปแกว่งในน้ำที่ใช้ต้มไข่ด้วย นอกจากจะยืดอายุไข่เค็มได้แล้ว สารส้มจะทำให้สีของเปลือกไข่ และเนื้อไข่ขาวสวยขึ้นอีกด้วย

ขอบคุณข้อมูลจาก : food.mthai.com

แสดงความคิดเห็น

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่