เอาไว้ได้ใช้แน่นอน เทคนิคขับรถขึ้นลงเขาชัน
เทคนิคไปถึงวิธีการขับรถแบบให้ถูกต้องถูกวิธีนั้น เราจำเป็นที่จะรู้เอาไว้และยิ่งถ้าเป็นการขับรถแบบขึ้นเขาลงเขาที่มีความชันนั้น จะต้องมีการขับรถอย่างระมัดระวังที่สุด เพราะเป็นทางที่ค่อนข้างจะยากลำบาก สำหรับใครหลายๆคนมือใหม่หัดขับก็ควรที่จะต้องรู้เอาไว้กันให้ดีๆ เพราะในบางทีการขับรถที่เจอระยะทางแบบนี้ก็เป็นสิ่งที่เราไม่สามารถที่จะเลี่ยงได้ หากเรารู้วิธีและรู้เทคนิคดีๆนั้นเราจะได้มีการขับรถไม่ว่าจะในระยะทางไหน ขึ้นเขาลงเขาก็จะปลอด ภัย
หลักการขับรถขึ้นเขา
– ให้ดูเส้นทางของความชันว่ามีมากหรือน้อยใช้เกียร์ที่ D2-D1 จะขึ้นอยู่กับระดับความชันของระยะทางที่เราเจอ และเมื่อรถอยู่ในทางราบก็ให้เปลี่ยนเกียร์มาใช้เกียร์ที่ D
– เหยียบคันเร่งจังหวะของระดับความชันบนพื้นถนน และพยายามให้รอบเครื่องจะอยู่ที่ประมาณ 2,000 ถึง 3,500 ควบคุมให้ไม่เกินไปถึง 4,500 จะเป็นระดับที่เหมาะ
– ความเร็วในการขับขี่บนเส้นทางถนนบนทางชันนั้นคือ 50 ถึง 80 กิโลเมตรต่อชม. และไม่ควรใช้ความเร็วที่มากไปกว่านี้ หากมีรถที่จะแซงก็ให้ขับชิดซ้ายเอาไว้ให้เขาไปก่อนเลย ไม่ต้องรีบให้ค่อยๆตามไปในจังหวะของเรา
– ให้มีการเว้นระยะห่ า งสำหรับคันข้างหน้า ควรเว้นไว้อยู่ที่ประมาณ 30 ถึง 50 เมตร เผื่อมีเหตุฉุก เฉินต่างๆ เช่น มีการเบรกกะทันหันหรือเครื่องดับระหว่างกลางทาง เพื่อให้ความปลอด ภัยให้กับตัวเราเองรวมถึงผู้ขับขี่บนท้องถนนคันอื่นๆด้วย
– ทางโค้งที่มีลักษณะเป็นรูปตัว S เป็นระยะทางอย่างต่อเนื่อง จะต้องมีการใช้สายตาที่มองแบบใกล้ๆเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าไม่มีรถที่สวนมาอย่างแน่นอน ถอนคันเร่งแล้วให้เรียบทางตัดโค้งในแนวการขับขี่เป็นเส้นตรงมากที่สุด แล้วก็ค่อยๆไป
– หากเจอทางโค้งที่มีลักษณะเป็นทางแคบและมีสันเขาที่บังสายตาของเรา ให้เข้าโค้งในรูปแบบธรรมดาและทำการบีบแตรเพื่อเป็นการส่งสัญญาณให้รถคันอื่นๆที่สวนมาทราบได้ว่ามีรถของเราที่กำลังสวนมา
หลักการขับรถลงเขา
– ในเวลาที่ขับรถลงเขาไม่ควรใส่เกียร์ว่าง N เด็ดขาดเพราะจะทำให้iถมีการไหลลงมาด้วยความเร็วที่สูง แต่ควรใช้เกียร์ D และมีการควบคุมความเร็วของรถให้สัมพันธ์กับเกียร์ไว้อยู่ตลอดด้วย
– การเบรค สำหรับวิธีการลงเขาให้แตะเบรคเบาๆเป็นระยะ เพื่อที่จะเป็นตัวช่วยในการชะลอความเร็วลง ไม่ควรเหยียบเบรคค้างเอาไว้แบบนั้น เพราะนั่นจะทำให้ผ้าเบรคมีความร้อนจนไ ห ม้ได้ หรืออาจจะทำให้เบรคมีปัญหากะทันหันในระหว่างที่เราใช้งาน
– หากไม่จำเป็นเลยจริงๆไม่ควรเหยียบคันเร่งแรงๆ ควรปล่อยให้รถไหลลงมาเองด้วยการใช้เกียร์ดีจะเป็นวิธีที่ถูกและเป็นวิธีที่ปลอด ภัย สำหรับการขับรถลงเขาที่สุด
– ในระยะทางนั้นมีการขับรถที่เจอช่วงโค้งหักศอกแล้วลาดลง ให้แตะเบรคและให้ทำการผ่อนความเร็วลงมาที่ประมาณ 40-50 กิโลเมตรต่อชม.จะเป็นระยะที่เหมาะที่สุดและเป็นความเร็วที่เหมาะที่สุดเช่นกัน
– ในทางลงเขานั้นไม่ควรแซงรถในช่วงทางลาดชัน โดยเฉพาะรถบรรทุกหนัก เพราะรถแบบนี้จะหนักและมีอัตราเร่งที่สูงกว่ารถทั่วไป จะมีความเร็วที่มาก ในบางทีเราอาจจะมีการกะระยะที่ไม่พอดี ซึ่งจะทำให้เกิดเหตุต่างๆขึ้นมาได้
การขับขี่รถยนต์นั้นไม่ว่าจะเป็นบนเส้นทางไหนก็ตามและยิ่งเป็นในทางขึ้นเขาหรือลงเขา จะต้องมีการขับรถแบบระมัดระวังมากๆ และจะต้องเรียนรู้เส้นทางก่อนที่จะออกเดินทาง เพื่อที่จะรับมือและรู้วิธีการขับได้อย่างถูกต้อง เพื่อความปลอด ภัยของตัวคุณเองรวมถึงผู้ขับขี่คนอื่นบนท้องถนนด้วยเช่นกัน รู้เทคนิคดีๆนี้เอาไว้จะดีเอามากๆเลย
เรียบเรียง : postsod
ขอขอบคุณ : postsara