ถล่มหนัก!! กรมอุตุฯ ประกาศ 28 เม.ย.-1 พ.ค. หลายพื้นที่เจอฝนตกหนัก พื้นที่ต่อไปนี้เตรียมรับมือให้ดี
กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ยังคงมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ฟ้าผ่าและมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีพายุฝนฟ้าคะนองลดลง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้งใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง รวมถึงระวังอันตรายจากฟ้าผ่า สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย อนึ่ง หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักในระยะนี้ไว้ด้วย
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 28 เม.ย. – 1 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 2 – 3 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม
ภาคเหนือ มีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง สุโขทัย กำแพงเพชร และตาก อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-37 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ และสุรินทร์
อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคกลางมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง ส่วนมากบริเวณจังหวัดอุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ราชบุรี และนครปฐม อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก มีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง ส่วนมากบริเวณจังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียสลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม/ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่
อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ขณะเดียวกันเมื่อวานที่ผ่านมา เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่กรุงเทพมหานคร เช่น ที่เขตบางขุนเทียน บางบอน บางแค จอมทอง ธนบุรี ภาษีเจริญ บางกอกใหญ่ หลักสี่ ดอนเมือง จตุจักร พญาไท บางรัก ปทุมวัน สัมพันธวงศ์ พระนคร ป้อมปราบฯ ดุสิต ราชเทวี ดินแดง หนองจอก ลาดกระบัง ส่งผลให้การจราจรบางช่วงติดขัดหลายพื้นที่เป็นวงกว้าง และหลายพื้นที่เริ่มมีน้ำท่วมขังบนผิวการจราจร วัดความสูงระดับฟุตปาธ เฉลี่ย 5 – 10 ซม. เช่นที่ ซ.นวมินทร์ 42, ถ.พหลโยธิน, ลาดพร้าว – วังหิน, รามอินทรา, หน้าเดอะมอลล์งามวงศ์วาน มุ่งหน้าแคราย และ หมอชิต ขณะเดียวกันในช่วงที่พายุฝนตกหนัก ปรากฏว่าหลังคาศาลาพักผู้โดยสาร บริเวณหน้า ปตท. สำนักงานใหญ่ ถนนวิภาวดี-รังสิต เกิดถล่มลงมา โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นระหว่างที่รถเมล์จอดรับ-ส่งผู้โดยสาร พบว่ามีประชาชนจำนวนมากที่หลบฝนและรอรถโดยสารอยู่บริเวณดังกล่าว ต่างพากันวิ่งหนีตายกันวุ่น โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตแต่อย่างใด