ต้องรู้ไว้เลย! 25 ข้อห้ามในการสร้างบ้าน ตามหลัก และความเชื่อโบราณ

0

ต้องรู้ไว้เลย! 25 ข้อห้ามในการสร้างบ้าน ตามหลัก และความเชื่อโบราณ

ข้อห้ามของเคหะศาสตร์ที่ช่วยทำให้บ้านของท่านเป็นบ้านที่อยู่ร่มเย็นเป็นสุขนั้น มีมากมายหลายข้อ ข้อห้ามทางเคหะศาสตร์มากมายหลายข้อที่ยกขึ้นมานั้นล้วนประกอบไปด้วยเหตุผลในอันที่จะทำให้ “คนรักบ้าน” ทุกๆท่านอยู่เย็นเป็นสุข แต่ข้อห้ามต่างๆ ก็มิใช่กฏเกณฑ์ตายตัวที่ต้องปฏิบัติ หากมีความจำเป็นจริงๆ ข้อห้ามต่างๆ ก็สามารถดัดแปลงประยุกต์แก้ไขได้ตามสถานการณ์ที่เหมาะสม ผมขอยกตัวอย่างข้อห้ามที่เป็นข้อห้ามเกี่ยวกับการเลือกทำเลที่ตั้งกับพื้นที่ในตัวบ้านกันนะครับ

1. ห้ามสร้างบ้านที่มีถนนรอบล้อมทั้งสี่ด้าน เนื่องด้วยบ้านที่มีถนนรอบล้อมนั้น ผู้อยู่อาศัยภายในบ้านจะหาความสงบได้ยาก เนื่องจากเสียง, ฝุ่น, ควันจากการจราจรจะเข้ามารบกวนผู้อยู่อาศัยตลอดเวลา เกิดผลเสียต่อสุขภาพจิต สุขภาพกายทำให้พลังชีวิตของท่านลดลงได้

2. ห้ามปลูกต้นไม้ใหญ่กลางลานบ้าน หรือปลูกบ้านล้อมต้นไม้ใหญ่ เนื่องจากต้นไม้ที่มีขนาดใหญ่และสูง มีโอกาสที่กิ่งไม้แห้งจะหล่นลงมาสร้างความเสียหายให้กับบ้านท่านได้ นึกถึงเวลามีพายุฝน หรือลมกรรโชกแรง จะทำให้ต้นไม้ที่เอนตามกระแสลมสร้างความเสียหายให้กับบ้านท่าน และอาจหักโค่นลงมาทับสร้างความเสียหายให้กับบ้านท่านได้

3. ห้ามปลูกต้นไม้ใหญ่ไว้ในแนวเดียวกับประตูบ้าน เป็นข้อห้ามอีกข้อเกี่ยวกับต้นไม้ เนื่องด้วยการปลูกต้นไม้บดบังทางเข้าบ้าน นั้นสร้างความสับสนให้กับกัลยาณมิตรที่มาเยี่ยมเยือนท่าน ตลอดจนต้นไม้หน้าบ้านนั้นทำให้การปรับใช้พื้นที่หน้าบ้านของท่านทำได้ยากขึ้นด้วย

4. ห้ามปลูกบ้านตั้งอยู่บนทำเลที่สร้างความรำคาญใจ ท้อแท้และหดหู่ บันทอนพลังชีวิตของท่าน เช่น ป่าช้า สถานีตำรวจ โรงพยาบาล เรือนจำ หรือศาล เป็นต้น

5. ห้ามมีร่องน้ำไหลผ่านกลางที่ดินหรือบ้าน เนื่องมาจากว่าร่องน้ำที่อยู่กลางบ้านนั้น อาจก่อให้เกิดสภาวะแวดล้อมที่ไม่พึงประสงค์ นอกจากนั้นยังมีการดูแลรักษาที่ยากจนอาจจะเป็นบ่อเกิดของเชื้อโรค อันเป็นอันตรายต่อท่านได้ การมีร่องน้ำอยู่กลางบ้านของท่านนั้น ก็มีลักษณะเหมือนบ้านของท่านแยกออกจากกันเหมือนเมืองอกแตก อันเป็นลักษณะที่ไม่ดี

6. ห้ามปลูกบ้านคร่อมบ่อน้ำหรือตอไม้ บริเวณที่มีตอไม้นั้นการขุดหลุมหรือปรับพื้นที่ทำได้ยาก เนื่องจากมีรากไม้ที่แม้จะตายแล้วแต่ก็มีความแข็งแรงยากแก่การรื้อถอนแต่พอตอไม้เริ่มผุพังก็อาจเป็นที่อยู่ของปลวก, มด เป็นต้น อาจเป็นอันตรายต่อบ้านท่านได้ ส่วนบ่อน้ำเก่านั้นเป็นพื้นที่ที่มีความหนาแน่นของดินน้อยกว่าส่วนอื่นๆ ถึงแม้ว่าจะมีการถมอย่างดีแล้วก็ตาม นอกจากนี้บ่อน้ำเก่าบางแห่งยังเป็นตาน้ำที่มีน้ำซึมตลอดเวลาอีกด้วย จะเห็นว่าทั้งสองส่วนนี้จะมีผลต่อการวางโครงสร้างบ้านของท่าน ขอให้ “คนรักบ้าน” พิจารณาข้อนี้กันให้ดีครับ

7. ห้ามสร้างบ้านอยู่ในน้ำ โดยปกติในอากาศจะมีความชื้นอยู่ในระดับที่พอเหมาะ (เรียกว่าภาวะน่าสบาย ประกอบไปด้วยอุณภูมิ ความชื้น การถ่ายเทอากาศ) หากบ้านท่านอยู่บนน้ำแล้วความชื้นในอากาศก็จะมีมากขึ้นส่งผลให้ท่านรู้สึกอึดอัด ไม่สบายตัว มีโอกาศเป็นโรคทางเดินหายใจได้ นอกจากนั้น โครงสร้างของบ้านที่อยู่ระหว่างน้ำและอากาศ ก็มีโอกาสจะสึกกร่อนได้ง่ายกว่าปกติอีกด้วย

8. ห้ามสร้างสระน้ำใหญ่ติดกับตัวบ้าน เช่นเดียวกับข้อที่แล้วครับ การที่บ้านท่านจะมีสระน้ำที่มีขนาดใหญ่ติดกับตัวบ้านนั้น นอกจากสระน้ำที่มีขนาดใหญ่นั้นจะข่มบดบังรัศมีของบ้านท่านแล้วนั้น ก็ยังมีเรื่องความชื้นที่สระน้ำขนาดใหญ่ถ่ายเทให้กับอากาศในปริมาณที่มากจนเกินไปได้ และยังต้องระวังการทรุดตัวของโครงสร้างบ้าน แต่หากเป็นแหล่งน้ำธรรมชาติ เช่น ทะเลสาบ, แม่น้ำ ไม่เป็นไรครับ

9. ห้ามขุดบ่อน้ำไว้หลังบ้าน เพราะหลังบ้านเป็นบริเวณที่ไม่ค่อยมีกิจกรรมสักเท่าไร อีกทั้งยังมืดและอาจจะรก ร้าง การมีบ่อน้ำอยู่หลังบ้านจึงเป็นอันตราย อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุ ตลอดจนการดูแลรักษาทำได้ยาก การใช้ประโยชน์จากบ่อน้ำก็ดูไม่คุ้มค่าสักเท่าไร

10. ห้ามก่อสร้างกำแพงก่อนการสร้างบ้าน ในการสร้างบ้านนั้นท่านจำเป็นต้องขนย้ายวัสดุต่างๆ เข้าออกอยู่ตลอดเวลา หากท่านสร้างกำแพงบ้านก่อนแล้วนั้น การขนย้ายวัสดุก็ไม่คล่องตัว อีกทั้งอาจจะทำให้กำแพงสวยๆ ที่สร้างเสร็จแล้วของท่านชำรุดเสียหายได้

11. ห้ามสร้างกำแพงหรือรั้วสูงกว่าตัวบ้าน การที่บ้านของท่านจะมีสภาวะน่าสบาย มีความโล่งโปร่งสบายได้นั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีลมพัดผ่านและถ่ายเทอากาศที่ดี การสร้างกำแพงหรือรั้วสูงๆนั้น จะเป็นการปิดกั้นทิศทางลมนั้นเสีย ทำให้อากาศในบ้านท่านอุดอู้ ไม่เกิดการถ่ายเทแต่อย่างใด

12. ห้ามสร้างศาลพระภูมิหันหน้าออกนอกบ้าน เรื่องของความเชื่อและเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน การวางศาลพระภูมิในตำแหน่งที่เหมาะสมนั้น ทำให้มีความสะดวกต่อการสักการบูชาเพื่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ ก็ส่งผลให้ผู้อยู่อาศัยเกิดความเจริญรุ่งเรืองได้

13. ห้ามสร้างบนหน้าผาสูงชัน แม้ว่าตามหน้าผาสูงๆ จะมีทิวทัศน์ที่สวยงามก็ตาม บ้านที่อยู่บนหน้าผาสูงชันนั้น ทำให้ผู้อาศัยเกิดความรู้สึกที่ไม่ปลอดภัย หากคำนึงถึงตั้งแต่ในช่วงการก่อสร้างแล้ว การขนย้ายวัสดุเพื่อมาก่อสร้างก็ทำได้ยาก

14. ห้ามสร้างซุ้มประตูใหญ่กว่าตัวบ้าน ซุ้มประตูที่มีขนาดใหญ่เกินไป ก็จะข่มให้บ้านของท่านหมดสง่าราศี เนื่องจากขนาดของบ้านที่เล็กกว่า อีกทั้งคนที่ผ่านซุ้มประตูมาก็เกิดความรู้สึกต่อซุ้มประตูบ้านขนาดใหญ่ที่ไม่สู้จะดีนัก

15. ห้ามสร้างบันไดหรือห้องน้ำห้องส้วมอยู่กลางบ้าน โดยหลักการพื้นฐานแล้วบันไดกับห้องน้ำห้องส้วมนั้นเป็นส่วนที่ต้องการแสงสว่าง บันไดนั้นจำเป็นต้องมีการให้แสงสว่างที่เพียงพอเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นจากการก้าวขึ้นลงบันได ยิ่งผู้สูงอายุหรือเด็กยิ่งต้องระวังเป็นพิเศษครับ ในส่วนของห้องน้ำห้องส้วมนั้น เป็นห้องที่ต้องการแสงสว่างและการระบายอากาศที่ดีเพราะเป็นเรื่องสุขอนามัย ดังนั้นหากบันไดและห้องน้ำห้องส้วมอยู่กลางบ้านเสียแล้วทั้งแสงสว่างและการระบายอากาศก็ย่อมจะทำได้ยาก

16. ห้ามสร้างห้องน้ำห้องส้วมมากกว่าสมาชิกในบ้าน ไม่มีความจำเป็นอันใดที่ปริมาณห้องน้ำห้องส้วมจะมากกว่าสมาชิกในบ้าน เพราะโอกาสที่คนในบ้านจะใช้ห้องน้ำพร้อมกันนั้นมีน้อยมาก ห้องน้ำห้องส้วมเป็นห้องที่หมุนเวียนกันใช้ได้ ฉะนั้นการสร้างห้องน้ำห้องส้วมหลายห้องมากจนเกินไปจึงเป็นการเสียงบประมาณและจะเป็นการใช้พื้นที่ภายในบ้านที่มีอยู่อย่างจำกัดไปอย่างไม่คุ้มค่านัก

17. ห้ามสร้างห้องนอนไว้ใต้บันไดบ้าน ห้องนอนและบันไดบ้านนั้น ในแง่การใช้สอยก็เป็นสิ่งที่ขัดกันโดยธรรมชาติเนื่องจากว่าห้องนอนเป็นห้องที่ต้องการความสงบเป็นส่วนตัวเพื่อพักผ่อนนอนหลับ ขณะที่บันไดเป็นส่วนที่บุคคลภายในบ้านใช้เป็นทางสัญจรขึ้นลงตลอดเวลา จึงเกิดเสียงรบกวนหากทำห้องนอนไว้ที่ใต้บันได วิธีใช้ประโยชน์จากส่วนใต้บันไดนี้อาจใช้เป็นห้องเก็บของก็จะดูมีความเหมาะสมกว่า

18. ห้ามสร้างประตูหน้าต่างมากเกินไป การมีประตูหน้าต่างมากๆอาจทำให้บ้านโล่งโปร่งสบายก็จริง แต่ว่าหากมีมากจนเกินไป ก็อาจทำให้การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านทำได้ยาก ทำให้เปิดปิดลำบาก อีกทั้งเวลาเกิดฝนตกหรือลมพายุ การจะปิดประตูหน้าต่างจำนวนมากๆ เพื่อป้องกันกระแสลมแรงและน้ำฝนที่ซัดเข้าบ้าน ในเวลาอันรวดเร็วก็ดูเหมือนจะมีความยุ่งยากไม่น้อยทีเดียว

19. ไม่ควรดัดแปลงเอากำแพงเจาะเป็นช่องหน้าต่าง เนื่องจากกำแพงเป็นสิ่งห่อหุ้มอาณาเขตและปกป้องบ้านของท่าน และในการดัดแปลงนั้นเป็นขั้นตอนที่ละเอียดอ่อนและยากกว่าคิดวางแผนสร้างตั้งแต่ต้น ถ้าเป็นไปได้จึงไม่ควรจะดัดแปลงโดยไม่จำเป็น

20. ไม่ควรสร้างบ้านที่ใหญ่เกินไปแต่มีคนอยู่น้อย การสร้างบ้านควรพิจารณาถึงสมาชิกในบ้านด้วยเพราะหากบ้านมีขนาดใหญ่เกินไป ก็จะทำให้การพบปะของสมาชิกในบ้านน้อยลงเนื่องจากขนาดที่ใหญ่ของบ้านนั้นเอง นอกจากนี้ยังดูแลรักษาให้ทั่วถึงได้ยาก

บันไดเรือนไทยมีความเชื่อ ๒ ประการที่มาจากการสังเกตการใช้งานในชีวิต จริง คือ

๑. ขั้นบันได (ลูกนอน) จะเป็นเลขคี่เสมอ เพื่อให้ลูกตั้งหรือจำนวนก้าว ขึ้นบันไดเป็นเลขคู่เสมอ เนื่องจากการก้าวขึ้นบันไดอย่างเร็วๆจะ ก้าวขึ้นทีละ ๒ ขั้น หากก้าวแบบเร็วๆแล้วขั้นสุดท้ายเหลือขั้นเดียว อาจจะทำให้ผู้เดินหกล้มศีรษะขมำได้

๒. บันไดจะไม่หันไปทางทิศตะวันตก เพราะแสงแดดบ่ายๆเย็นๆจะ แรงและต่ำ หากลงบันไดแล้วมีแสงแดดย้อนเข้านัยตา จะทำให้ตก บันไดได้

(บทความโดยคุณยอดเยี่ยม เทพธรานนท์ ผู้เขียหนังสือร้อยพันปัญหาในงานก่อสร้าง เล่ม 5 ฉบับภูมิปัญญาช่างไทย)

ในพื้นที่ที่ต่างกันออกไปนั้น ข้อห้ามแต่ละข้อก็อาจส่งผลไม่เหมือนกันหรือไม่เท่ากัน การพิจารณาไตร่ตรองแก้ปัญหาอย่างรอบคอบ โดยยึดเอาข้อห้ามเคหะศาสตร์เป็นเครื่องเตือนใจ ก็เป็นสิ่งที่แฟนๆ “คนรักบ้าน” ทุกๆ ท่านควรพินิจอย่าง”มีเหตุมีผล”และประกอบด้วย”สติ”ครับ

เรียบเรียงโดย : Postsod

แสดงความคิดเห็น

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่