ซื้อไอศครีมวางไว้ในรถ ผ่านไป 1 ชม. ลูกมีอาการแปลกๆ หายใจไม่ออก! คิดไม่ถึงว่าเป็นเพราะ “สิ่งนี้” รู้ตัวช้าอันตรายสุดๆ!!
เตือนเอาไว้เลย สำหรับสิ่งของพวกนี้ห้ามเอามาเก็บในห้องโดยสารเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นอาจจะทำให้เกิดอันตรายต่างๆได้ เพราะว่าของบางอย่างเมื่อถูกแสงแดดมากเกินไป ก็มีโอกาสเสี่ยงระเบิดเป็นอย่างมาก เพราะเมื่อวันที่ 14 มีนาคม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยได้ออกมาเผยว่า สิ่งของบางชนิดอันตรายถ้าใช้ไม่ถูกวิธี เพราะเมื่อมันโดนความร้อน เวลาที่เราทิ้งไว้ในรถยนต์นาน ๆ อาจจะเกิดอันตรายได้ โดยประกอบไปด้วยสิ่งต่อไปนี้
1. ไฟแช็ก เมื่อถูกแสงแดดเป็นเวลานานจะทำให้เกิดระะเบิดจนกระจกรถยนต์แตกร้าวได้ ฉะนั้นใครที่ชอบสูบบุหรี่ก็อย่าลืมเอาไฟแช็คลงจากรถยนต์ด้วย
2. กระป๋องสเปรย์ เมื่อถูกความร้อน จะทำให้แก๊สในกระป๋องสเปรย์ขยายตัว ส่งผลให้เกิดประกายไฟแล้วระเบิดได้ ใครที่ซื้อสเปรย์ต่าง ๆ เข้าบ้าน ก็พยายามเอาลงจากรถยนต์ด้วยไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดอุบัติเหตุได้
3. แบตเตอรี่สำรอง เพราะว่าภายในแบตเตอรี่มีสารลิเธียม ทำให้เมื่อได้รับความร้อน อาจจะเกิดไฟฟ้าลัดวงจรจนระเบิดได้ ฉะนั้นใครที่ใช้เป็นประจำก็พยายามเอาลจากรถอย่าทิ้งไว้ในรถยนต์เด็ดขาด
4. โทรศัพท์มือถือ หากลืมไว้ในรถยนต์แล้วจอดกลางแดด จะทำให้โทรศัพท์ระเบิดเพราะยิ่งเปิดการใช้งานไว้ด้วยแล้วจะส่งผลให้โทรศัพท์ร้อน ใครที่ชอบทิ้งโทรศัพท์ไว้ในรถยนต์ระวังอาจจะเกิดการระเบิดได้
5. น้ำแข็งแห้ง ซึ่งไม่ควรอยู่ในห้องโดยสารอยู่แล้ว หากว่าน้ำแข็งอยู่ในรถยนต์มันจะเกิดเป็นก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์ จนระเบิดได้
ทั้งนี้ยังเคยมีคนออกมาแชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับการนำ “น้ำแข็งแห้ง” วางที่ทิ้งไว้ในรถที่ปิดหน้าต่าง จนน้ำแข็งแห้งระเหิดเป็นแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์จำนวนมาก ซึ่งไปแทนที่ออกซิเจนในรถ ถึงขั้นทำให้ผู้โดยสารขาดอากาศหายใจ
จากกระทู้ “เตือนภัย!!!!!!!!เกือบตาย
“น้ำแข็งแห้งไว้บนรถ”เกือบตายแน่ะค่ะ” ในเว็บไซต์พันทิปโดยข้อความระบุว่า “วันนี้ไปซื้อไอติมแล้วให้เขาใส่น้ำแข็งแห้ง กะสักประมาณ 4 ชั่วโมงกว่าจะถึงบ้านเพราะต้องแวะไปซื้อของที่อื่นด้วย ไปได้สัก 1 ชั่วโมงเราก็จอดลงไปซื้อขนมประมาณครึ่งชั่วโมงเห็นจะได้ ขึ้นมาบนรถเห็นแฟนที่รออยู่บนรถหอบเหนี่อย ก็ไม่อะไรสตาทรถออกมาตามปรกติ เราก็ไม่เอะใจอะไร สักพักลูกเรา 5 เดือนก็ร้องไห้จ้าขึ้นมา ปรกติเขาไม่เคยร้องแบบนี้ เราก็เอานมให้ลูกกินคิดว่าลูกหิว เขาก็ไม่กิน เราเองก็รู้สึกเหนี่อยขึ้นทุกทีคล้ายจะหอบ ก็เลยบ่นกับแฟนว่าเป็นอะไรไม่รู้ รู้สึกเหนี่อยเหลือเกิน แฟนก็เลยบอกว่าเขาก็เป็น ตอนแรกเขาคิดว่าเขาอ้วนเลยเป็นอย่างนั้น เราก็เลยรีบเปิดกระจกรถกันใหญ่ พออากาศถ่ายเทเข้ามาในรถเท่านั้นแป็บเดียวก็เป็นปรกติลูกเราหยุดร้องทันที อาการทั้งของเราและแฟนก็หายเป็นปรกติทันที รถเราเป็นรถโตโยต้าวิช มันทะลุถึงกันหมด เพิ่งรู้ว่าคนที่จอดรถนอนแล้วตายเป็นอย่างนี้นี่เอง ขอให้เป็นอุทธาหรณ์ของทุก ๆ คนนะค่ะ สงสารลูกที่สุดเลยค่ะเขาคงทรมานมากพูดก็พูดไม่ได้”
ทั้งนี้ยังมีคนออกมาแชร์ประสบการณ์ที่เคยเจอมากับตัวเกี่ยวกับการวางนำ “น้ำแข็งแห้ง” วางที่ทิ้งไว้ในรถอีกราย โดยข้อความระบุว่า..
“ก้อนน้ำแข็งแห้ง มันคือคาร์บอนไดออกไซด์เพียว ๆ เลย ซึ่งจัดว่าเป็นก๊าซอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจค่ะ เคยได้รับเมลมา เรื่องคล้ายๆกัน ขออนุญาตนำมาแปะนะคะ เรื่องน่ากลัวค่ะเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาก็ไปไหว้พระบาทกัน ขับรถไปกันเอง ป๊าน้องปลื้มเป็นคนขับ ไปกัน 7 คน นั่งตอนละ 2 คน น้องปลื้มก็นั่งคาร์ซีทตอน 2 ไหว้พระเสร็จก็ประมาณบ่าย 2-3 โมง ขากลับหิวข้าวเลยแวะกินสเต็ก(ลือชื่อแถวรังสิต) ทานเสร็จอาม่าของน้องปลื้มกับอาเหล่าโกว (อาของป๊าน้องปลื้ม) ก็ช็อปปิ้งไอติมกัน แล้วก็ซื้อกลับบ้านด้วย ทางร้านก็แพคใส่กล่องโฟม มีสติ๊กเกอร์แปะอยู่ 2 ข้างเพื่อไม่ให้ฝาหลุด
ขากลับน้องปลื้มไม่ยอมนั่งคาร์ซีท เลยเอาไอติมวางไว้ที่คาร์ซีท แล้วน้องปลื้มก็มานั่งกับเราที่ตอน 3 ระหว่างทางอาม่าก็บอกว่าทำไมรู้สึกเหนื่อยจัง เหมือนหายใจไม่ออก แล้วเค้าก็มีอาการหอบ ป๊าของน้องปลื้มก็บอกว่าเค้าก็เป็น ทำไมถึงเป็นไม่รู้ คุยกันไม่มานึกว่าเค้า 2 คนกินอะไรเหมือนกันที่คนอื่นไม่ได้กินหรือเปล่า เราก็สังเกตุเห็นทำไมน้องปลื้มหายใจแรงจัง หายใจหอบ ๆ เสียงลมหายใจฟี้ด ๆ แล้วน้องปลื้มก็เอานิ้วแคะจมูก เราก็นึกว่ามี ขึ้มูกทำให้หายใจไม่สะดวก ก็เลยแคะให้แต่ก็ไม่เห็นมีนี่นา อาม่าของปลื้มก็หอบใหญ่เลย ปลื้มก็หายใจถี่ แรง แล้วก็หอบมากขึ้น
อาเหล่าโกวก็เอะใจถามว่าไอติมที่เราซื้อมามีดรายไอซ์หรือเปล่า มีนะเพราะซื้อ ทุกครั้งเค้าก็แพคให้ เลยถึงบางอ้อ! ค่ะ เพราะ “ดรายไอซ์” นี่เอง มันเป็นคาร์บอนไดออกไซค์ รถปิด หน้าต่างเปิดแอร์ ทำให้ออกซิเจนในรถน้อยลง อากาศไม่ไหลเวียน เลยรีบเปิดหน้าต่าง อาการของทั้ง 3 คน หายทันทีเลยคะ ตกอกตกใจกันไปทั้งรถ มั่วแต่หาสาเหตุอื่น ๆ ไม่ได้คิดถึงกล่องไอติมเลย รู้ทั้งรู้แต่นึกไม่ถึงคะ
ถ้ารถเก๋งวางไว้กระโปรงหลังคิดว่าคงไม่เป็นไร แต่นี่รถ 3 ตอน แถมวางไว้ตรงตอน 2 กลางรถพอดี มันก็เลยไหวเวียนอยู่ในรถนั่นแหละ น่ากลัวมาก ๆ เลย ไม่อยากนึกเลยว่าถ้าทุกคน หลับกันหมด หรือน้องปลื้มหลับ เค้าจะมีอาการแสดงให้เราเห็นหรือเปล่า ป๊าของน้องปลื้มบอกว่ารู้แล้วว่าคนขาดอากาศหายใจตายเป็นไง รีบเอาดรายไอซ์ทิ้งหมดเลยค่ะ หรือถ้าแพคใส่กล่องแต่ปิดเทปรอบปากกล่องก็คงดีกว่า เลยอยากมาเล่าให้พ่อ ๆ แม่ ๆฟังกัน เรื่องที่รู้ทั้งรู้นะแต่นึกไม่ถึงว่าจะอันตรายขนาดนี้คราวหน้าคราวหลังถ้าซื้อไอติมมาคงต้องแพคให้หนาแน่นกว่านี้” จากคุณ : เกะกะจัง
และนี่ก็คือ 5 สิ่งอันตรายที่ไม่ควรนำมาใส่ไว้ในรถยนต์เด็ดขาด
ขอขอบคุณ : topicstock.pantip