ชาติก่อนและชาติปัจจุบันของสุกรตัวหนึ่ง
วันนี้มีเรื่องมาให้อ่าน ตอนอ่านไปได้ไม่นาน น้ำตาผมไหลออกมาโดยไม่รู้ตัวจริงๆ
มีพระชราท่านหนึ่ง ตอนที่ท่านเดินผ่านโรงฆ่าสัตว์ ท่านอดที่จะร้องไห้ไม่ได้ แล้วท่านก็พูดถึงอดีตชาติของท่าน
“มันเป็นเรื่องยาว อาตมาระลึกถึงอดีตชาติของอาตมาได้ ในชาติหนึ่ง อาตมาเป็นคนฆ่าสัตว์ และมีรายได้จากการฆ่าสัตว์
อาตมาเสียชีวิตตอนอายุสามสิบ จิตวิญญาณของอาตมาถูกยมทูตหลายองค์ พาไปที่นรก ยมบาลได้ดุว่าอาตมาเนื่องจากกรรมหนักจากการฆ่าของอาตมา และนำจิตวิญญาณของอาตมาไปไว้ในกงล้อในนรก เพื่อชดใช้กรรม
อาตมาอยู่ในภวังค์และไม่รู้สึกตัว ราวกับว่าอาตมาเมาเหล้าหรืออยู่ในความฝัน อาตมารู้สึกแต่ว่า ศีรษะของอาตมาร้อนมากจนทนไม่ได้
ในเวลาต่อมาอาตมารู้สึกเย็นลงเล็กน้อย และพบว่าตัวเองอยู่ในร่างของสุกร และพบว่าตัวเองนั้นเกิดใหม่เป็นสุกร
ตอนที่ อาตมาเกิดเป็นสุกร อาตมาร้องครางอย่างเด็กทารก อาตมาเห็นว่า ผู้คนมักจะนำเศษอาหารสกปรก มีกลิ่นเหม็นมาให้เสมอ อาตมารู้ว่าอาหารนั้น ไม่สะอาด และพยายามที่จะไม่ทานอาหาร
แต่อาตมาก็หิวจนทนไม่ได้ และอวัยวะภายในของอาตมาเจ็บปวดมาก ราวกับว่า มันถูกเผาไหม้ด้วยไฟ อาตมาไม่มีทางเลือกนอกจากทานอาหารสกปรกนั้น เพื่อรักษาชีวิตไว้
อาตมาเรียนภาษาสุกรอย่างช้า ๆ และสามารถพูดกับเพื่อนสุกรของอาตมาได้ ที่จริงแล้ว สุกรจำนวนมากมายสามารถระลึกได้ว่าพวกเขาเคยเป็นมนุษย์มาก่อน แค่ว่าตอนนี้ พวกเขาเกิดมาเป็นสุกร พูดภาษาที่ต่างไปและไม่สามารถสื่อสาร กับมนุษย์ได้
ตอนที่พวกเขากำลังจะถูกฆ่า พวกเขาทราบดีไม่มากก็น้อยว่าวันนั้นกำลังมาถึง พวกเขาจะโอดครวญอย่างเศร้าสร้อย และด้วยดวงตาเปียกปอน การเป็นสุกร ร่างกายของพวกเรานั้นหนักมาก และเราเดินได้ไม่สะดวกนัก
ในฤดูร้อนเรากลัวความร้อน และต้องแช่ตัวเองในโคลนเพื่อให้รู้สึกเย็นลง อย่างไรก็ดี สิ่งนี้เป็นเพียงความหวังลมๆแล้งๆ ที่เป็นจริงได้ไม่บ่อยนัก ขนของเรานั้นหยาบแข็งและมีน้อย เราจึงกลัวความหนาวเย็นในฤดูหนาว
การได้รู้ว่าสุนัขและแกะมีขนหนาเหมือนพรมบนร่างกาย เราคิดว่าพวกเขา เป็นสัตว์ที่ได้รับการปฏิบัติอย่างสวรรค์
ในเวลาที่ถูกฆ่า แม้ว่าเราจะรู้ว่ามันหลีกเลี่ยงไม่ได้ เรายังดิ้นรน กระโดด และพยายามหนี จากนั้นคนฆ่าจะจับตัวเราไป พวกเขาเหยียบบนตัวเรา และมัดคอและขาทั้งสี่ของเราด้วยเชือก เชือกนั้นถูกมัดไว้อย่างแน่น จนมันสัมผัสกระดูกของเรามันเจ็บปวดมากราวกับว่ากำลังถูกกรีดด้วยมีด
พอเราถูกขนไปยังเรือหรือรถเข็น สุกรทุกตัวจะถูกอัดแน่นไว้ด้วยกัน จนกระดูกของเราแทบหัก เลือดของเราไหลเวียนได้ไม่ดี และท้องของเราบวม ราวกับว่ามันถูกผ่าออกมา
บางครั้งผู้คนแบกสุกรหลายตัวพร้อมกันไว้บนเสาไม้ไผ่ ซึ่งเป็นสิ่งที่เจ็บปวด ทรมานมาก จนเราหวังว่าเราตายเสียดีกว่า
พอมาถึงโรงฆ่า เราถูกโยนลงบนพื้น หัวใจและอวัยวะภายในของเราถูกเขย่า ราวกับว่ามันจะระเบิดออก สุกรบางตัวสิ้นใจไปก่อนเพราะความเจ็บปวด อันสุดแสนจะทนทรมาน
บางครั้งสุกรถูกมัดไว้เป็นเวลาหลายวัน โดยมีมีด เขียงหั่น และหม้อน้ำร้อน ขนาดใหญ่วางอยู่ด้านขวา เมื่อนึกถึงว่ามันจะเจ็บปวดแค่ไหนตอนที่ถูกเฉือน ด้วยมีด และถูกถอนขนด้วยน้ำร้อน เนื้อตัวก็เกิดสั่นสะท้านขึ้นมาเอง ด้วยความหวาดกลัวอย่างไม่อาจควบคุมได้ บางครั้งเมื่อนึกดูว่า เราจะถูกชำแหละ แยกชิ้นส่วนและกลายเป็นเครื่องปรุงในหม้อซุป เราก็ได้แต่ร้องด้วยความสิ้นหวัง อย่างทุกข์ทรมาน
พออาตมากำลังจะถูกนำไปฆ่า อาตมารู้สึกหวาดกลัวและเวียนศีรษะ ทันทีที่อาตมาถูกคนชำแหละจับตัวไป สี่ขาของอาตมาอ่อนแรง หัวใจสั่น และจิตวิญญาณของอาตมารู้สึกราวกับว่า มันบินออกจากกลางกระหม่อม ของอาตมาไป ตอนที่อาตมาถูกวางลงบนเขียงชำแหละ อาตมาไม่สามารถเผชิญหน้ากับใบมีดสะท้อนแสง นั้นได้
อาตมาจึงแค่ปิดตา และรอให้เขาเฉือนคอของอาตมา คนฆ่าเฉือนคอก่อน และตะแคงใบมีด เพื่อให้เลือดของอาตมาไหลลงไปในหม้อ ความเจ็บปวดนั้น เกินกว่าที่จะบรรยาย!
เนื่องจากอาตมาไม่ได้ตายในทันที สิ่งเดียวที่อาตมาทำได้ก็คือกรีดร้องเสียงดัง หลังจากที่เลือดของอาตมาไหลออกไป คนฆ่าก็แทงไปที่หัวใจของอาตมา ซึ่งทำให้รู้สึกเจ็บจนถึงกระดูก และอาตมาไม่สามารถร้องตะโกนได้อีกต่อไป ต่อมาอาตมารู้สึกเข้าสู่ภวังค์อย่างช้า ๆ และรู้สึกราวกับว่า อาตมาเมาสุรา หรืออยู่ในความฝัน ซึ่งเป็นความรู้สึกเดียวกับตอนที่อาตมาเกิด…นานมาก…
หลังจากนั้นอาตมามองไปที่ตัวเอง และพบว่าจิตวิญญาณของอาตมากลับสู่นรกอีกครั้ง ยมบาลตัดสินให้อาตมาเกิดมาเป็นมนุษย์อีกครั้ง หลังจากที่พบว่า อาตมาได้เคยทำความดีบางอย่างในชาติก่อน
ในชาตินี้ พออาตมาเห็นสุกรที่กำลังจะถูกฆ่า และอยู่ในความทุกข์ทรมาน อาตมาก็นึกถึงความจริงที่ว่า ในอนาคตคนที่กำลังฆ่าสุกรพวกนั้นจะต้องผจญกับ ชะตาชีวิตเดียวกันกับเหล่าสุกรที่พวกเขาเคยฆ่า แล้วอาตมาก็คิดถึงตัวเอง อาตมาจึงร้องไห้ออกมาอย่างควบคุมไม่ได้
หลังจากที่พระท่านเล่าเรื่องนี้ของท่านให้กับมือฆ่าหมู ชายผู้นั้นถึงกับอึ้งสลด และทิ้งมีดลงบนพื้นทันที เขาได้เปลี่ยนอาชีพไปขายผักนับแต่บัดนั้น
ขอขอบคุณ : ชิ เซียว ลาน บทคัดลอกจาก “Observe All, Thatch Hut Note”
เรียบเรียงโดย : Postsod