แจกฟรี! สูตรหมักหมู หมักไก่ แบบมืออาชีพ เนื้อนุ่มละลายในปาก อร่อยจนหยุดไม่อยู่
วิธีการหมักหมูให้นุ่มลิ้น ละลายในปาก ต้องลองสูตรวันนี้ที่เรานำมแชร์ให้กับเพื่อนๆกันเลยล่ะค่ะ รับรองใครทำก็อร่อย สามารถทำกินเองหรือทำขายได้เลย
ซึ่งคุณ ‘baokalasin’ ที่เป็นสมาชิกพันทิปก็ใจดีนำสูตรหมักระดับโคตรพระกาฬมาแชร์ โดยเคล็ดลับความอร่อยนี้ผ่านจากประสบการณ์การฝ่าฟันกับร้านหมูกระทะมาอย่างโชกโชน ฉะนั้นสูตรนี้จึงลงตัวเอาเรื่อง
ส่วนวัตถุดิบที่อยู่เบื้องหลังความอร่อยที่ต้องเตรียมมีดังนี้
1. เนื้อหมู เนื้อไก่ ตามต้องการ
2. ผงฟู 1 ซอง
3. ไข่ไก่ (เนื้อเยอะใช้ไข่ประมาณ 5 ฟอง เนื้อน้อยใช้แค่ 3 ฟองก็ได้)
4. งาขาว (ตามต้องการกะให้พอดี)
5. น้ำมันหอย
6. น้ำปลา
7. ซอสภูเขาทอง
8. ผงชูรส (แล้วแต่ความชอบครับ)
สำหรับรีวิวการหมักเนื้อวันนี้ใช้เนื้อ 2 กิโลนะจ้ะ
ขั้นตอนแรก
– เตรียม เนื้อตามที่เราต้องการ จะเป็นเนื้อหมู เนื้อวัว หรือเนื้อไก่ ก็ได้ตามใจชอบ ควรแล่เนื้อให้บางๆเป็นชิ้นๆ เพื่อง่ายต่อการปิ้งหรือย่างแล้วที่สำคัญเครื่องปรุงจะซึมเข้าเนื้อได้ง่าย
ขั้นตอนที่สอง
– เริ่มปะแป้ง เอ้ย!ไม่ใช่ๆ ต้องใส่ผงฟูลงไปต่างหาก (ถ้าเนื้อเยอะก็ใส่ 1 ซองถ้าเนื้อน้อยก็ใส่ครึ่งซอง ของผมเนื้อ 2 กิโลเลยใส่ 1 ซอง)
ขั้นตอนที่สาม
– ตอกไข่ใส่ลงไป 5 ฟอง (เนื้อเยอะ 5 ฟอง เนื้อน้อย 3 ฟอง หรือแล้วแต่จะใส่ครับ ตามดวก)
ไข่ ที่ใส่ลงไปเวลาเราเอาเนื้อไปย่างหรือเอาลงไปลวกในกระทะ น้ำซุปจะเต็มไปด้วยไข่ ช่วยทำให้น้ำวุปน่าทานมากยิ่งขึ้น ตักน้ำซุปใส่ถ้วยยกซดเลยก็ได้ อร่อยจริงๆนะ พ่อครัวไร้ใบรับรองรับประกัน
ขั้นตอนที่สี่
– ใส่งาขาวลงไป (งาที่ใส่กะให้พอดีนะครับ กะปริมาณกันเอาเอง ตามสายตาใครสายตามัน)
ขั้นตอนที่ห้า
– ใส่ซอสหอยนางรมลงไป (กะให้พอดีนะครับ ชอบมากก็ใส่มาก ชอบน้อยก็ใส่น้อย ใครแพ้ซอสหอยนางรมก็ไม่ต้องใส่)
ตามด้วยซอสปรุงรส (กระผมชอบซอสภูเขาทอง กินกับข้าวสวยร้อนๆก็อร่อย)
แล้วก็ใส่ผงชูรส (ที่บ้านขาดผงชูรสไม่ได้ครับ ใครไม่กินก็ไม่ต้องใส่ ใครกินก็ใส่ให้พอประมาณ)
สุดท้าย ท้ายสุดใส่น้ำปลาลงไป แล้วทีนี้ก็ใช้มือนี่ละครับ คลุกเคล้าให้เข้ากัน ผมว่าความอร่อยมันอยู่ที่ขี้มือเรานี่ละครับ (ขั้นตอนการคลุกเคล้าไม่กล้าถ่ายมันน่าเกลียดเกินไป หากกลัวไม่ถูกหลักอนามัยก็ใส่ถุงก็ได้ครับไม่ว่ากัน)
หน้าตาเนื้อหมูหมักก็ออกมาแบบนี้ละครับ หากอยากจะให้นุ่มลิ้นก็ควรหมักแล้วใส่ตู้เย็นทิ้งไว้สัก 3-4 ชั่วโมงรับรองว่านุ่มน่ากิน
ขอบคุณข้อมูลจาก : Pantip.com