สอนวิธีปลูกมัลเบอร์รี ผลออกเต็มต้น
สำหรับผลไม้ในตระกูลเบอร์รีอย่างลูกหม่อนหรือมัลเบอร์รีนั้นเริ่มเป็นที่นิยมเพิ่มมากขึ้น ด้วยรสชาติที่เปรี้ยวหวานทานได้กันคนทุกวัย จะทานแบบสดหรือจะนำมาทำเป็นน้ำผลไม้ก็ช่วยเพิ่มความอร่อยและความสดชื่นขึ้นได้มากเลยทีเดียว และที่สำคัญก็ยังมีประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย มัลเบอร์รีจึงกลายเป็นที่นิยมของตลาดเพิ่มมากขึ้น
และสำหรับใครที่กำลังสนใจที่จะปลูกต้หม่อนเพื่อไว้เก็กินผลเองที่บ้ านหรือมองหาช่องทางในการสร้างอาชีพทางด้านเกษตรวันนี้เราก็มีวิธีในการปลูกปลูกมัลเบอร์รีให้ได้ผลผลิตที่ดี สามารถเก็บทานได้ตลอดทั้งปีจากเจ้าของสวนมาฝากให้ทราบกัน
การปลูกมัลเบอร์รีควรเริ่มจากการหาต้นพันธุ์ โดยพันธุ์ที่นิยมปลูกในประเทศคือ กำแพงแสน 84 บุรีรัมย์ 60 เชียงใหม่ 60 ซึ่งทั้ง 3 พันธุ์นี้เหมาะสำหรับพื้นที่และภูมิอากาศของประเทศเพราะได้มีการพัฒนาจากสถานบันเกษตรต่างๆ อย่างต่อเนื่อง
วิธีปลูกมัลเบอร์รี
1 เตรียมต้นหม่อนที่จะปลูกสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายต้นไม้ พันธ์ไม้ต่างๆหรืออาจทำการปักชำเองก็ได้
2 สำหรับระยะในการปลูก ให้ปลูกเป็นแถวแต่ละต้นห่ างกัน 4 เมตร เผื่อรัศมีทรงพุ่มไว้อย่างน้อย 2 เมตร หรือจะปลูกในแปลงพื้นที่สี่เหลี่ยมด้วยระยะปลูก 4 x 4 เมตรก็ได้
3 การเตรียมหลุมปลูก ขุดหลุมลึก 50 x 50 x 50 เซนติเมตร รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก อัตรา 10 กิโลกรัมต่อหลุม ใส่ปูนโดโลไมท์หรือปูนขาว ประมาณ 1 กิโลกรัมต่อหลุม และปุ๋ยสู ตร 15-15-15 อัตรา 250 กรัมต่อหลุม คลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วกลบหลุมด้วยหน้าดินให้พูนเล็กน้อย
4 ขุดดินบนหลุมที่เตรียมไว้ให้ลึกพอประมาณ แล้วนำต้นหม่อนที่เตรียมไว้ลงปลูก กลบดินให้แน่น แล้วรดน้ำให้ชุ่ม
ต้นมัลเบอร์รีให้ผลผลิตได้เต็มที่เมื่ออายุครบ 2 ปี ระหว่างนั้นบำรุงรักษาด้วยการใส่ปุ๋ยหมักและปุ๋ยสู ตรอย่างสม่ำเสมอ ถ้าต้นมัลเบอร์รีมีความสมบูรณ์จะให้ผลผลิต ประมาณ 1.5-35 กิโลกรัมหรือประมาณ 750-1,850 ผลต่อครั้งต่อต้นเลยทีเดียว
เทค นิคในการปลูกหม่อนให้ได้ผลผลิตดี
1 การบังคับทรงต้นหม่อน เมื่อต้นหม่อนเจริญเติบโตได้ประมาณ 6-12 เดือน จะต้องบังคับทรงพุ่มโดยตัดแต่งกิ่งให้เหลือเพียงกิ่งเดียวไว้เป็นต้นตอ มีความสูงประมาณ 80-100 เซนติเมตรจากพื้นดิน ปล่อยให้หม่อนแตกกิ่งใหม่หลายๆกิ่ง เก็บกิ่งที่สมบูรณ์ไว้ กิ่งที่ไม่สมบูรณ์ให้ตัดทิ้งเพื่อให้ด้านล่างโปร่ง ง่ายต่อการดูแลรักษาต่างๆ และสำหรับหม่อนที่ปลูกในปีแรกๆ ลำต้นและระบบรากยังเจริญเติบโตไม่มาก อาจจะหักล้มได้ง่าย จะต้องทำการยึดลำต้นไว้ด้วยไม้ หรือไม้ไผ่ให้แน่นหนา
2 การใส่ปุ๋ยในปีที่ 2 ให้ใส่ปูนขาวหรือปูนโดโลไมท์ตามการวิเคราะห์ความต้องการปูนขาวของดินเพิ่ม ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักในอัตรา 10 กิโลกรัมต่อต้น ร่วมกับปุ๋ยสู ตร 15-15-15 อัตรา 250 กรัมต่อต้น
3 การให้น้ำจะต้องให้น้ำหม่อนในระยะที่หม่อนติดผลแล้ว โดยปกติจะมีฝนหลงฤดูหรือฝนชะช่อมะม่วงผ่ านเข้ามา จะทำให้ต้นหม่อนแตกตาติดดอก ถ้าไม่มีฝนหลงฤดู หลังโน้มกิ่ง รูดใบ ต้องให้น้ำกระตุ้นการแตกตาแทนน้ำฝน หากขาดน้ำจะทำให้ผลหม่อนฝ่อก่อนที่จะสุก หรือทำให้ผลหม่อนมีขนาดเล็ก
การบังคับให้หม่อนติดผลนอกฤดู
1 ทำการโน้มกิ่งหม่อนที่ปลูกแบบทรงพุ่ม โดยการโน้มกิ่งให้ปลายยอดขนานกับพื้น หรือโน้มลงพื้นดิน รูดใบหม่อนออกให้หมด พร้อมทั้งตัดยอดส่วนที่เป็นกิ่งสีเขียวออกยาวประมาณ 30 เซนติเมตร ใช้เชือกผูกโยงติดไว้กับหลักไม้ไผ่ ซึ่งปักไว้บนพื้นดินสำหรับยึดเชือกไว้
2 หลังการโน้มกิ่ง 8-12 วัน ดอกหม่อนจะแตกออกพร้อมใบ ผลจะเปลี่ ยนจากสีเขียวเป็นสีขาว สีชมพู สีแดง และสีม่วงดำ ตามลำดับ โดยใช้เวลาประมาณ 45-60 วัน ผลจะเริ่มแก่และสุก สามารถเก็บไปรับประทานสดหรือนำไปแปรรูปได้ มีระยะเวลาในการเก็บผลประมาณ 30 วันต่อต้น เพราะผลหม่อนจะทยอยสุก
3 เนื่องจากออกดอกไม่พร้อมกัน เมื่อต้นหม่อนมีอายุตั้งแต่ 2 ปี เป็นต้นไป จะให้ผลผลิตผลหม่อนประมาณ 1.5-35 กิโลกรัม เพียงพอต่อการบริโภคผลสดทั้งครอบครัวทุกวันตลอดปี ซึ่งร่างกายต้องการวันละ 10-30 ผลเท่านั้น และยังมีผลหม่อนสดไว้แปรรูปเป็นอาหารและเครื่องดื่มได้อีก
สำหรับราคาของผลมัลเมอร์รีนั้นจะอยู่ที่ 150 ถึง 250 บาทต่อกิโลกรัมซึ่งหากใครมีพื้นที่และมีช่องทางหรือตลาดในการขายก็สามารถส่งขายสร้างรายได้เพิ่มได้ หรือใครจะเก็ผลสดมแปรรูปได้ทั้งน้ำมัลเมอร์รี แยมมัลเมอร์รีก็เป็นการสร้างรายได้เพิ่มอีกทางด้วยเช่นกัน
ที่มา : thaijobsgov