คนมีที่ดินต้องรู้ไว้ ที่ทางโฉนด ครุฑแดง ครุฑเขียว ครุฑดำ สังเกตให้ดีก่อนซื้อขาย
สำหรับใครที่เป็นมือใหม่ที่ต้องการจะซื้อขายที่ดิน หรือใครที่กำลังจะรับช่วงต่อรับมรดกจากทางบ้านควรจะมีความรู้ด้านนี้ติดตัวไว้ เผื่อในกรณีที่มีความจำเป็นต้องซื้อขายที่ดินจะได้มีความมั่นใจและรู้ทันคนอื่นเขาด้วย
โฉนดที่ดิน คือหนังสือสำคัญแสดงก ร ร มสิทธิ์ในที่ดิน ซึ่งออกให้ตามประมวลกฎหมายที่ดินปัจจุบัน นอกจากนี้ยังรวมถึงโฉนดแผนที่ โฉนดตราจอง และตราจองที่ว่า “ได้ทำประโยชน์แล้ว” ซึ่งออกให้ตามกฎหมายเก่า แต่ก็ถือว่ามีก ร รมสิทธิ์เช่นกัน ผู้เป็นเจ้าของที่ดิน ถือว่ามีก ร ร มสิทธิ์ในที่ดินนั้นอย่างสมบูรณ์เช่น มีสิทธิใช้ประโยชน์จากที่ดิน มีสิทธิจำหน่าย มีสิทธิขัดขวางไม่ให้ผู้ใดเข้ามาเกี่ยวข้องกับทรัพย์สินโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
โดยโฉนดที่ดินตามกฎหมายบ้านเรานั้นมีหลากหลายประเภท มีทั้งที่สามารถซื้อขายได้และซื้อขายไม่ได้ มีทั้งแบบโอนก ร ร มสิทธิ์ได้ หรือบางอย่างเป็นเพียงหนังสือแสดงสิทธิการทำมาหากินเท่านั้น และวิธีการสังเกตุนั่นก็คือดูที่สีของตราครุฑที่อยู่บนโฉนด ซึ่งมีความหมายแตกต่างกันดังที่เราได้นำมาฝากต่อไปนี้
ครุฑสีดำ
คือ หนังสือรับรองการทำประโยชน์ ประเภท น.ส.3 และ น.ส.3 ข. จำง่าย ๆ ว่า 2 อันนี้ ไม่มีระวางรูปถ่ายทางอากาศ เป็นเอกสารที่ไม่ใช่โฉนดที่ดิน ใช้สำหรับเป็นหนังสือรับรอง เพื่อแสดงถึงสิทธิ์การครอบครองของเจ้าของ แต่ยังไม่ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการ ไม่มีระวางรูปถ่ายทางอากาศที่แน่ชัด จะซื้อขายต้องรอประกาศจากราชการ 30 วัน
ครุฑสีเขียว
คือ หนังสือรับรองการทำประโยชน์ ประเภท น.ส.3 ก. ซึ่งออกในท้องที่ที่มีระวางรูปถ่ายทางอากาศ เป็นเอกสารที่ไม่ใช่โฉนดที่ดิน ใช้สำหรับเป็นหนังสือคำรับรองจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ว่าเราได้ทำประโยชน์ในที่ดินนั้นๆ มีการระวางรูปถ่ายทางอากาศเป็นหลักแหล่ง คุณสมบัติใกล้เคียงกับโฉนด ซื้อขาย จำนองธนาคารได้ และสามารถไปยื่นเรื่องเปลี่ยนเป็นโฉนดที่ดินได้ในอนาคต
ครุฑสีแดง
คือ โฉนดที่ดิน น.ส.4 เป็นเอกสารแสดงก ร ร มสิทธิ์ที่ชัดเจนที่สุด สามารถซื้อขายและโอนได้ถูกต้องตามกฎหมาย โฉนดที่ดินที่มีครอบครองกันเกือบทั้งหมดก็เป็นครุฑแดงตัวนี้ โดยเฉพาะที่ดินที่อยู่ในตัวเมือง ส่วนโฉนดหลังแดงจะเป็นเอกสาร น.ส.4 ซึ่งจะระบุด้านหลังโฉนดว่าห้ามโอนภายในระยะเวลา 5-10 ปี
ใบจอง (น.ส. ๒)
คือ หนังสือที่ทางราชการออกให้เพื่อเป็นการแสดงความยินยอมให้ครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินเป็นการชั่วคราว ซึ่งใบจองนี้จะออกให้แก่ราษฎรที่ทางราชการได้จัดที่ดินให้ทำกินตามประมวลกฎหมายที่ดิน ซึ่งทางราชการจะมีประกาศเปิดโอกาสให้จับจองเป็นคราว ๆ ในแต่ละท้องที่และผู้ต้องการจับจองควรคอยฟังข่าวของทางราชการ สำหรับผู้ที่มีใบจองจะต้องเริ่มทำประโยชน์ในที่ดินให้แล้วเสร็จภายใน ๖ เดือน ต้องทำประโยชน์ในที่ดินให้แล้วเสร็จภายใน ๓ ปี นับตั้งแต่วันที่ได้รับใบจองและจะต้องทำประโยชน์ให้ได้อย่างน้อยร้อยละ ๗๕ ของที่ดินที่จัดให้ ที่ดินที่มีใบจองนี้จะโอนให้แก่บุคคลอื่นไม่ได้ เว้นแต่จะตกทอดทางมรดก เมื่อทำประโยชน์ตามเงื่อนไขดังกล่าวแล้ว ก็มีสิทธินำใบจองนั้นมาขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.๓ น.ส.๓ ก. หรือ น.ส.๓ ข) หรือโฉนดที่ดินได้แต่หนังสือรับรองการทำประโยชน์หรือโฉนดที่ดินนั้นจะต้องตกอยู่ในบังคับห้ามโอนตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด
แต่ถ้าหากท่านปล่อยที่ดินให้เป็นที่รกร้างว่างเปล่าไม่ทำประโยชน์ในที่ดิน กล่าวคือ ถ้าเป็นที่ดินที่โฉนดที่ดิน ปล่อยทิ้งไว้นานเกิน 10 ปี และที่ดินมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ ปล่อยทิ้งไว้นานเกิน ๕ ปีติดต่อกัน ที่ดินดังกล่าวจะต้องตกเป็นของรัฐตามกฎหมาย หรือถ้าหากปล่อยให้บุคคลอื่นครอบครองโดยสงบเปิดเผย โดยมีเจตนาเอาเป็นเจ้าของโดยท่านไม่เข้าขัดขวาง สำหรับที่ดินที่มีโฉนดที่ดินเป็นเวลา ๑๐ ปีติดต่อกันบุคคลที่เข้าครอบครองนั้นก็จะมีสิทธิไปดำเนินคดีทางศาล เพื่อให้ศาลมีคำสั่งให้บุคคลดังกล่าวได้ก ร ร มสิทธิ์ในที่ดินนั้นโดยการครอบครองได้ และที่ดินที่มีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.๓ น.ส.๓ ก. น.ส.๓ ข) ใช้เวลาแย่งการครอบครองเพียง ๑ ปีเท่านั้น ท่านก็จะเสียสิทธิ ดังนั้นเมื่อที่ดินของท่านมีเอกสารสำคัญดังกล่าวอยู่แล้ว ก็ควรทำประโยชน์และดูแลรักษาให้เกิดประโยชน์สูงสุด ที่ดินก็จะเป็นของท่าน และเป็นมรดกที่มีค่าให้แก่ทายาทของท่านต่อไป
เรียบเรียงโดย : Postsod
ขอขอบคุณ : กรมที่ดิน