หากอยู่แล้วไม่มีค่าก็ถอยออกมา ทุกคนมีค่าในตัวเองเสมอ

0

หากอยู่แล้วไม่มีค่าก็ถอยออกมา ทุกคนมีค่าในตัวเองเสมอ

หลายคนเชื่อว่าการทำดีย่อมได้สิ่งที่ดีกลับมา แต่มันไม่เสมอไป การทำดีนั้นที่ถูกเวลาด้วย เหมือนกันปลูกพืชบนเม็ดทราย ปลูกไว้เยอะแค่ไหนก็ไม่มีวันโต หมายความว่า อย่าพยายามทำดีอะไรกับคนที่ไม่เห็นค่า ต่อให้ทำดีแค่ไหนก็ไม่สนใจอยู่ดี เสียทั้งความรู้สึกและเสียเวลาด้วย

บางคนเกลี ย ดใครบางคนได้ง่ายดาย เพียงเพราะคำบอกเล่า ไม่ว่าจะทำดีแค่ไหนก็ไม่มีวันเห็นค่า นั่นเป็นเพราะว่าความดีไม่สามารถซื้อใจเขาได้ อย่าหวังทำอะไรเพื่อให้คนทั้งโลกมารักเรา มันไม่มีประโยชน์ เมื่อเราใส่ใจมากเราก็ทุ ก ข์มาก เมื่อทุ ก ข์มากก็ทร ม า นมาก ถ้าเข้าใจในข้อนี้หากทำใจให้เป็นสุข เมื่อวันหนึ่ งที่เราปล่อยวางทุกสิ่งทุกอย่างได้เราจะเป็นอิสระ

การปล่อยวางนั้นเปรียบเสมือนนักเดินทางมีเรื่องราวมากมาย ที่ผ่ านเข้ามาระหว่างทาง เรื่องที่เราพบเจอที่เป็นเรื่องใหญ่ที่สุดในวันนี้ เมื่อถึงวันพรุ่งนี้ก็อาจจะเป็นเรื่องเล็กไปก็ได้ พอหลายๆเดือนต่อมาเรื่องเหล่านี้ก็กลายเป็นเพียง แค่เรื่องเล่า สุดท้ายก็กลายเป็นคำนิ น ทา

เชื่อหรือไม่ว่าคนบนโลกนี้ไม่มีใครที่ไม่โดนนิ น ทา คำพูดเหล่านั้นเป็นเพียงลมปาก ต่อให้พยายามทำดีแค่ไหนสุดท้ายก็โดน นิ น ทาอยู่ดี อย่าพยายามให้คนทุกคนมองเราในแง่ที่ดี เพราะมันเป็นไปไม่ได้ที่ทุกคนจะชอบเรา คนที่เขาไม่ชอบเราก็ยากที่จะเปลี่ยนให้มาชอบเรา ใช้เวลาตรงนี้อยู่กับคนที่เรารักให้มากที่สุดจะดีกว่า อย่าเสียเวลาเพื่อจะให้คนที่ไม่ชอบเรายอมรับเรา การทำดีควรทำให้ถูกที่และถูกเวลาจะเห็นผลลัพธ์ที่สมควร

อย่าใส่ใจกับคำพูดของคนอื่นจนลืมความรู้สึกของตัวเราเอง จนลืมสิ่งที่เราตั้งใจทำให้เขา จงภูมิใจและดีใจที่เราได้ทำดีที่สุดแล้ว ไม่ว่าการทำดีกับใครนั้นก็อยา กให้คนนั้นตัดสินว่าเราดีหรือไม่ แต่เชื่อถือว่าความดีของคนที่ตัดสินนั้นมันไม่เท่ากัน ฉะนั้นเราไม่ควรคาดหวังอะไร อย่าตัดสินอะไรว่าใครดีกว่ากัน แค่เพียงเราทำให้ดีที่สุดก็เพียงพอแล้ว

มีคนเคยบอกว่าชีวิตเหมือนรสชาติกาแฟ กาแฟต่างก็มีรสขม รสเข้ม รสจืด รสหวาน แตกต่างกันไป มีทั้งร้อนและเย็นก็ต่างกัน เป็นไปไม่ได้ที่คนชงกาแฟจะชงให้ถูกใจทุกคนที่กิน เมื่อเป็นเช่นนั้น ถ้าคุณไม่ชอบรสชาติขมเราต้องปรับเปลี่ยนเพื่อให้ถูกใจเขา แต่ถ้าปรับเปลี่ยนอย่างดีที่สุดแล้วยังไม่ถูกใจเขา เราควรต้องยอมรับก็ไม่สามารถทำอะไรให้ถูกใจใครทุกคนได้

มีหลายคนพยายามรักษาความสัมพันธ์โดยการยอมให้ฝ่ายหนึ่ งเอาเปรียบเพื่อที่จะไม่เสียเขาไป การที่เขาจะไปนั้นมันก็ไม่ใช่ความผิดของเขา แต่อยา กให้ลองย้อนมองมาที่ตัวเราเองว่าเราทำอะไรอยู่ยอมทำดีกับคนที่รู้ว่าไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย อาจจะเป็นเพราะกลั วความสูญเ สี ย กลั วความเจ็ บ ป วด กลั วการอยู่คนเดียว

การปลอบใจตัวเองได้ดีที่สุดนั่นก็คือการคิดว่าเราได้ทำดีที่สุดแล้ว ถ้าเขาจะเห็นค่าเขาก็จะเห็นค่าของเรา ถ้าเขาไม่เห็นค่าจะมองยังไงเขาก็ไม่มีทางเห็นค่าเรา ที่สำคัญคุณควรคิดว่าถ้าเราสำคัญเขาคงเห็นค่าเราไปตั้งนานแล้ว

เรียบเรียง : postsod

ขอบคุณข้อมูลจาก : bangpunsara

แสดงความคิดเห็น

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่