สอนปักชำ แค่ตัดกิ่งแช่น้ำ 1 อาทิตย์ เตรียมปลูกได้เลย
ในช่วงที่หลายคนเริ่มหันมาสนใจในเรื่องของต้นไม้ บางคนเริ่มหาซื้อต้นไม้มาปลูกเพื่อที่จะเพิ่มความสวยงามและความร่มรื่นให้กับตัวบ้าน อาจจะเริ่มจากซื้อมาต้นเดียวและเริ่มทำการขยายพันธุ์ต้นไม้ด้วยตัวเอง
หรือใครที่บางครั้งไปบ้านเพื่อนหรือบ้านญาติและเกิดชอบต้นไม้ชนิดนั้นขึ้นมาเพื่อนำมาปลูกที่บ้านจะขอมาทั้งต้นก็คงจะไม่ได้อาจใช้วิธีในการขยายพันธุ์ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ก็ได้ รับรองว่าหากทำตามนี้ใช้เวลาสัปดาห์เดียวก็มีรากงอกออกมาให้พร้อมปลูกได้อย่างแน่นอน
1 ต้นมะลิ
เริ่มจากนำกิ่งดอกมะลิที่เพิ่งงอกในปีนี้ และต้องเป็นกิ่งไม้ที่สมบูรณ์เคยออกดอก ไม่มีแม ลง จากนั้นนำกิ่งที่เลือกมาตัดปลายเฉียง เหลือใบไว้ที่กิ่งประมาณ 2 ใบ นอกนั้นเด็ดหรือตัดทิ้งให้หมดเพื่อลด การระเหยของน้ำ
จากนั้นนำกิ่งไม้แช่น้ำ 30 นาที แล้วนำไปปักลงในทรายละเอียดที่ชุ่มน้ำ ในช่วงนี้ให้พ่นน้ำวันละ 2 ครั้ง เพื่อให้ทรายชุ่มไปด้วยน้ำ วางกระถางทรายที่ปักกิ่งมะลิไว้ในที่มีลมถ่ายเท ควรเลือกวางไว้นอกอาคาร รอจนมีรากงอกออกมา แล้วค่อยนำไปปลูกในกระถางดินทั่วไป
2 ต้นพุดซ้อน หรือ ต้นการ์ดีเนีย
อันดับแรกให้เตรียมขวดน้ำอัดลมเปล่าที่ล้างสะอาดแล้ว สก๊อตเทปใส ฟองน้ำหรือจะใช้โฟมแทนก็ได้ จากนั้นปาดขวดน้ำอัดลมให้เหมือนในรูปด้านล่าง แต่อย่าตัดจนขาดออกจากกัน
ต่อมาให้เลือกกิ่งต้นพุดซ้อนที่เพิ่งงอกในปีนี้จากนั้นใช้กรรไกรตัดปลายกิ่งเป็นแนวเฉียง เหลือใบไม้บนแต่ละกิ่งประมาณ 3-4 ใบ
ตัดโฟม หรือฟองน้ำให้เป็นวงกลมที่สามารถใส่เข้าไปในขวดน้ำอัดลมได้ จากนั้นใส่กิ่งต้นพุดซ้อนเข้าไปในโฟม ตามรูปด้านบน เติมน้ำลงไปในขวดน้ำอัดลมประมาณ 1 ใน 3 แล้วนำโฟมที่มีกิ่งพุดซ้อนเรียบร้อยแล้วใส่ลงไปในขวดน้ำอัดลม โดยปลายกิ่งที่ตัดเฉียงจะอยู่ในน้ำ
จากนั้นวางขวดน้ำไว้ในที่มีแสงแดดส่องถึง วางทิ้งไว้ประมาณ 1 อาทิตย์ ก็จะเห็นรากงอกออกมาจากกิ่ง เมื่อรากงอกออกมายาวมากพอแล้ว ก็สามารถนำไปปลูกในกระถางได้
3 ต้นพลูด่าง
ให้ตัด กิ่งพลูด่างเฉียง 45 องศา ยาวประมาณ 10 เซนติเมตร แล้วนำไปปักลงในวัสดุปลูก รดน้ำให้ชุ่ม ทิ้งไว้ในที่ร่มรำไร จนรากงอกแล้วนำย้ายไปปลูกในภาชนะปลูกอื่นได้เลย
4 ต้นสกุลบีโกเนีย
ให้เตรียมขวดพลาสติกที่ล้างสะอาดแล้ว ปิดฝาให้สนิท จากนั้นเจาะรูที่ด้านข้างขวดพลาสติก โดยเจาะเว้นระยะห่ างกัน 1 เซนติเมตร เติมน้ำสะอาดเข้าไปให้ถึง 3 ใน 4 ของขวด โดยจะวางขวดในแนวนอน
เลือกกิ่งที่มีลำต้นใกล้ใบหลักด้านบนสุด จากนั้นตัดเฉียงปลายกิ่งนำกิ่งที่มีใบติดมาด้วยแช่ลงไปในรูที่เจาะโดยให้กิ่งจุ่มลงไปในน้ำ โดยเลือกมาประมาณ 4-5 กิ่ง วางขวดไว้ที่อบอุ่นและมีลมถ่ายเทสะดวก ไม่นานรากจะงอกออกมา ก็สามารถนำไปปลูกในกระถางได้ตามปกติ
5 ต้นลิ้นมังกร
เลือกใบที่ค่อนข้างแก่ แต่ยังสดและไม่นิ่มมาตัดเป็นชิ้น ขนาด 8-10 เซนติเมตร ผึ่งให้แห้ง จากนั้นนำทรายหยาบล้างสะอาดผสมขุยมะพร้าวที่ผ่ านการแช่น้ำแล้ว อัตราส่วน 2 ต่อ 1 ผสมให้เข้ากันแล้วใส่กระบะพลาสติก รองด้วยหนังสือพิมพ์
นำใบที่ตัดไว้ปักลงในกระบะให้ลึกประมาณ 2 เซนติเมตร รดน้ำที่มีส ารป้องกันราให้ชุ่ม วางในที่ๆมีแสงครึ่งวัน รอจนแตกรากและหน่อใหม่จึงย้ายไปปลูกในกระถางอื่นต่อไป
6 ต้นพิทูเนีย
เริ่มจากการเลือกกิ่งที่เป็นยอดอ่อนที่มีความสมบูรณ์ มีความยาวประมาณ 10 เซนติเมตร และในทุกๆ กิ่งจะต้องมีใบประมาณ 3 ใบ จากนั้นตัดแนวเฉียงแต่ไม่มาก
ปักกรรไกรลงไปในทรายธรรมดาหรือดินเพาะปลูก แล้วค่อยปักกิ่งที่เตรียมไว้ลงไปเพื่อให้หน้าดินมีรูหลุมก่อน แล้วกดรอบดินให้ถมกิ่ง เมื่อปักเสร็จแล้ว ก็รดน้ำให้ดินชุ่มเล็กน้อย
จากนั้นนำฟิล์มถนอมอาหารปิดคลุม แล้วไม่ต้องรดน้ำอีก วางกระถางไว้กลางแดดประมาณครึ่งเดือน เท่านี้รากก็จะค่อยๆ งอกออกมาเอง เมื่อรากงอกออกมาพอประมาณแล้ว ก็สามารถนำไปปลูกได้ตามปกติ ไม่นานก็จะออกดอกสวยงาม
7 ต้นเก๊กฮวย
ให้ตัด กิ่งเก๊กฮวยเฉียงประมาณ 45 องศา แล้วปักลงในวัสดุปลูก รดน้ำให้ชุ่ม คลุมด้วยถุงพลาสติก รอประมาณ 2 สัปดาห์ รากจะงอกแล้วจึงย้ายออกไปปลูกในภาชนะอื่น
8 ต้นไฮเดรนเยีย
ระยะเวลาในการตัดดอกไฮเดรนเยีย ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ก่อนออกดอก เราสามารถเริ่มตัดเลือกกิ่งไม้ได้แล้ว โดยให้เลือกเป็นกิ่งที่งอกในปีนี้ตัดบริเวณด้านล่างที่มีกิ่งแยก และตัดยอดออกจากนั้นเลือกตัดใบออก 2 ใน 3 ของใบ
ก่อนนำไปปักชำ ให้แช่กิ่งดอกไฮเดรนเยียที่เลือกมาในน้ำด่างทับทิม หรือคาร์เบนดาซิสักครู่ แล้วค่อยนำไปปักลงในดินร่วนหรือดินเพาะปลูกก็ได้ที่รดน้ำจนชุ่มทั่วดิน โดยเลือกวางกระถางไว้ในที่ไม่ร่มรื่น อุณหภูมิ 25-30 องศาเซลเซียส
ระหว่างนี้ก็หมั่นรดน้ำเสมอ เพื่อให้ดินมีความชุ่มน้ำเสมอ ปักกิ่งไว้ประมาณ 20 วันก็จะงอกรากออกมาเอง หลังจาก 1 เดือนก็จะนำไปเพาะปลูกได้ตามปกติ
สำหรับใครที่กำลังมองหาวิธีในการปักชำต้นไม้ชนิดต่างๆก็สามารถลองนำวิธีที่เราได้นำมาฝากกันในวันนี้ไปลองทำตามกันดูได้ ทั้งทำได้ง่าย ใช้วัสดุไม่เยอะและไม่ต้องดูแลมากจนเกินไปเราก็จะสามารถเพิ่มจำนวนต้นไม้เพิ่มความร่มรื่นและสวยงามให้กับบ้านของเราได้
ที่มา : liekr, baanlaesuan