สอนบวชจิต หลวงปู่ดู่ คนอื่นไม่รู้..แต่ภูตผีเทวดารู้ อานิสงส์สูงบุญมาก

0

สอนบวชจิต หลวงปู่ดู่ คนอื่นไม่รู้..แต่ภูตผีเทวดารู้ อานิสงส์สูงบุญมาก

“การบวชจิต” หรือ “การบวชใน” นั้นเป็นสูตรของ “หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ”

หลวงปู่ดู่ได้เล่าให้ฟังว่า ในการบวชทั้งในและนอกสถานที่นั้นมันลำบากในยุคนี้ การบวชนั้นสามารถทำได้ในหลายที่ทำให้จิตใจเราดีไม่ต้องไปเดือดร้อนใคร การบวชจิตนั้นเป็นการบวชที่ตัวเราอาจไม่ได้รับรู้สักเท่าไหร่แต่ผีสางเทวดาจะรับรู้

ในการบวชนั้นเป็นการแสดงกรรมฐานอย่างหนึ่ง เวลาบวช เวลาทำบุญให้นึกถึงตัวเองเป็นพระ จะได้ชิมถ้าได้ทำบ่อยๆจะเป็นไปโดยอัตโนมัติ

เวลาทำความดีอะไรก็ตามให้นึกว่าตัวเองเป็นพระ สิ่งเหล่านี้จะค่อยๆปรับออกมาข้างนอก เป็นการบวชจากข้างในออกมาข้างนอกด้วยรูปลักษณ์การบวชที่เป็นพระ พอแล้วปวดแล้วนั้นเราจะไม่กล้าทำอะไรที่ไม่ดี เวลาเราแผ่บุญออกไป พลังงานก็จะส่งผลจะแผ่ออกไปมากขึ้น

พลังงานนี้จะผ่านพระได้มากกว่าฆราวาสนะ… ลองคิดดูสิ เราเป็นพระนะ (บวชใน) แค่เรานึกนี่ก็เป็นแล้ว ทำไม่เกินสามปีจะรู้สึกว่าเราเป็นพระ เรื่องอะไรที่ไม่ดี เราจะไม่พูด ไม่ทำ แม้แต่ในฝันยังเป็นพระเลย

บวชจิตแล้วต้องสึกไหม?

ไม่ต้อง มันไม่เกี่ยวกัน เรื่องโลกกับเรื่องธรรมเป็นคนละเรื่อง เวลาอยู่ทางโลกก็อยู่ไป เมื่อไรอยู่ทางธรรมเราก็บวชใน

ตื่นขึ้นมาก็ให้ทำ แล้วกราบพระ ๖ ครั้ง แล้วทำวัตรสั้น ๆ อาราธนาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตั้งแต่องค์ปฐมถึงองค์ปัจจุบัน เวลากินข้าว อาบน้ำ เวลาว่าง เวลานอน ให้สวด ให้ภาวนา จนกว่าจะหลับ … สามปีจะรู้สึกว่า ข้างนอกจะเปลี่ยน

ทรงอารมณ์แบบนี้มีอานิสงส์มหาศาล… เป็นบุญทุกลมหายใจเข้าออก

หลวงปู่ดู่ได้แนะเคล็ดในการบวชจิตไว้ว่า…

“ในขณะที่เรานั่งสมาธิเจริญภาวนานั้น คำกล่าวว่า

พุทธัง สรณัง คัจฉามิ

ให้นึกถึงว่าเรามีพระพุทธเจ้าเป็นพระอุปัชฌาย์ของเรา

ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ

ให้นึกว่าเรามีพระธรรมเป็นพระกรรมวาจาจารย์

สังฆัง สรณัง คัจฉามิ

ให้นึกว่าเรามีพระอริยสงฆ์เป็นพระอนุสาวนาจารย์

แล้วอย่าสนใจขันธ์ ๕ หรือร่างกายเรานี้ … ให้สำรวมจิตให้ดี มีความยินดีในการบวช

ชายก็ตั้งจิตเป็นพระภิกษุ หญิงก็ตั้งจิตเป็นพระภิกษุณี

อย่างนี้จะมีอานิสงส์สูงมาก … จัดเป็นเนกขัมมบารมีขั้นอุกฤษฏ์ทีเดียว”

ขอขอบคุณ : ธรรมโอวาท หลวงตาม้า วัดถ้ำเมืองนะ

แสดงความคิดเห็น

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่