ความรู้สูงแต่ยากจน แต่ความรู้เพียงมัธยม..กลับร่ำรวย 10 แนวคิดสู่ความสำเร็จ
โรเบิร์ต คิโยซากิ (Robert Kiyosaki) นักลงทุน นักบรรยาย และนักธุรกิจผู้ประสบความสำเร็จจากการเรียนรู้ประสบการณ์ชีวิตจากพ่อแท้ ๆ ที่ยากจนแม้จะมีความรู้สูง ซึ่งแตกต่างจากพ่อบุญธรรมที่ร่ำรวยแต่มีความรู้เพียงมัธยม 2 เท่านั้น
โรเบิร์ตได้นำประสบการณ์เหล่านี้มาเขียนหนังสือ “พ่อรวยสอนลูก” จนกลายเป็นหนังสือขายดีและโด่งดังไปทั่วโลก อะไร..? คือแนวคิดที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จ
10 แนวคิดสู่ความสำเร็จ ของโรเบิร์ต คิโยซากิ
1. ประสบการณ์จะช่วยให้คุณเก่งและฉลาดมากยิ่งขึ้น
โรเบิร์ต คิโยซากิ เป็นนักลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ชาญฉลาด ด้วยแนวคิดที่ว่า “ประสบการณ์จะช่วยให้คุณเก่งและฉลาดมากยิ่งขึ้น” โรเบิร์ตเล่าว่า
เขากล้าสร้างประสบการณ์ให้กับตัวเองด้วยการนำเงิน 18,000 ดอลล่าสหรัฐ มาลงทุนซื้อห้องชุดเล็ก ๆ ในโครงการคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งในฮาวายเพื่อนำมาปล่อยเช่า และได้รับค่าเช่านั้นเดือนละ 25 ดอลล่าสหรัฐ ซึ่งในขณะนั้นเขาไม่ได้มีเงินมากมาย ค่าห้องเช่าที่ได้รับก็เป็นเงินเพียงเล็กน้อย
แต่สิ่งที่ได้รับก็คือประสบการณ์ และประสบการณ์ที่ได้รับทำให้โรเบิร์ตพบว่า ทุกครั้งที่เขาลงทุนทั้งอสังหาริมทรัพย์หรือธุรกิจอื่น ๆ เขาจะเก่งและฉลาดมากขึ้นเรื่อย ๆ ในเรื่องของการลงทุน
ดั้งนั้นประสบการณ์คือสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ทุกคนเข้าใจในด้านการลงทุนที่ดี เข้าใจการทำธุรกิจและรู้ข้อแตกต่างรวมถึงวิธีแก้ไขปัญหาระหว่างหนี้ดี กับหนี้เสีย เมื่อทุกคนเข้าใจการทำธุรกิจอย่างดีแล้ว ก็สามารถหารายได้จากการลงทุนนั้น ๆ โดยมีอัตราความเสี่ยงน้อยที่สุด ประสบการณ์จึงเป็นสิ่งที่ช่วยให้ทุกคนเก่งและฉลาดมากขึ้น
2. ยิ่งให้ ยิ่งได้รับ
ความคิดเกี่ยวกับเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ นั้นเป็นทัศนคติส่วนบุคคล และเป็นแนวคิดที่ไม่สามารถบังคับให้ทุก ๆ คนมีความคิดเช่นเดียวกันได้ แต่แนวคิดที่ โรเบิร์ต คิโยซากิ นำมาแบ่งปันก็คือ
“ยิ่งคุณให้มากเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งจะได้รับมากขึ้นเท่านั้น เรื่องนี้ยังสอดคล้องกับพระคัมภีร์ไบเบิ้ลที่กล่าวไว้ว่า The more you give, the more you receive. ผู้ที่ให้มาก ก็ยิ่งได้รับมากขึ้นเช่นเดียวกัน”
แนวคิดนี้ทำให้ทุกคนพบความเป็นจริงได้ไม่ยาก เพราะการทำงานของคนส่วนใหญ่ก็คือ ต้องการทำงานน้อยลง แต่อยากได้ค่าแรงเพิ่มมากขึ้น ซึ่งมันก็ดูไม่สมเหตุสมผลสักเท่าไหร่ ดังนั้นเมื่อทุกคนอยากได้อะไรที่เพิ่มมากขึ้น ต้องถามตัวเองก่อนว่า ได้ให้อะไรคนอื่นบ้างหรือยัง
3. เปลี่ยนวิธีคิดของคุณ
วินัยในการทำงานอย่างหนึ่งของ โรเบิร์ต ก็คือ เขาจะจัดการเคลียร์ปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายก่อนเป็นอันดับแรก แม้ว่าการจ่ายเงินออกไปแล้วจะทำให้ไม่เหลือเงินเลยก็ตาม ซึ่งเป็นวิธีคิดที่แตกต่างจากคนส่วนใหญ่
เห็นได้จากการที่รัฐบาลเรียกเก็บภาษี หรือเวลาที่ถูกส่งบิลเรียกเก็บเงินต่าง ๆ คนส่วนใหญ่ก็มันจะหลบเลี่ยง
โรเบิร์ตให้แนวคิดว่า
“ผมเข้าใจความรู้สึกนี้ดี เพราะผมก็เคยผ่านจุดนี้มา แต่ท้ายที่สุด ผมก็นำสิ่งนี้มาใช้เป็นแรงผลักดันและขับเคลื่อนให้ผมสร้างสินทรัพย์และหาเงินได้อีกมากมาย”
ดังนั้นทัศนคติที่ดีและความคิดที่ดี จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เป็นเพียงแค่พฤติกรรมที่ดีเท่านั้น แต่มันคือความรับผิดชอบต่อตัวเอง เพราะหากคนเรามีสินทรัพย์มากขึ้น ก็หมายความว่า ความรับผิดชอบก็ต้องมีเพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน
4. มีความชัดเจน (Focus)
F = Follow ติดตาม
O = One หนึ่ง
C = Course แนวทาง,เส้นทาง
U = Until จนกระทั่ง
S = Success ประสบความสำเร็จ
โฟกัส คือการพุ่งความสนใจไปในสิ่ง ๆ นั้นเพียงสิ่งเดียว จนกว่าจะประสบความสำเร็จ สิ่งที่โรเบิร์ตใช้เป็นบทเรียน ก็คือ การลงทุนในคอนโดเล็ก ๆ ที่ฮาวาย เขาพุ่งความสนใจและติดตาม ดูแลเอาใจใส่กับธุรกิจให้ความสนใจไปที่นั่นอย่างสม่ำเสมอ จนกระทั่งสิ่ง ๆ นั้นนำมาซึ่งกำไร และ ความรู้ความเข้าใจที่ดีเกี่ยวกับการลงทุน โรเบิร์ตให้แนวคิดว่าว่า
“ควรทำอะไรด้วยความชัดเจนและโฟกัสไปที่สิ่งนั้น เพราะนั้นคือสินทรัพย์ที่แท้จริง”
5. ในวิกฤตย่อมมีโอกาส
ผู้คนส่วนใหญ่มักหวาดกลัวและท้อแท้ เวลาเจอปัญหาทางเศรษฐกิจ แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญและซ่อนตัวอยู่ในนั้นก็คือ ทุกวิกฤต มีโอกาสรอคุณอยู่เสมอ ทุกคนสามารถสร้างรายได้เป็นจำนวนมากจากวิกฤตทางเศรษฐกิจ
เช่น การเลือกลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีราคาถูกในช่วงนั้น เพราะเป็นขณะที่เศรษฐกิจกำลังตกต่ำ ดังนั้นในทุกวิกฤต มีโอกาสรอคุณอยู่เสมอ
6. ออกแบบธุรกิจให้เหมาะสมและดีเยี่ยม
ธุรกิจที่ถูกออกแบบอย่างเหมาะสม และ ถูกวางแผนเป็นอย่างดี บางครั้งไม่มีความจำเป็นที่ต้องเพิ่มเงินลงทุนในธุรกิจนั้นเลย เพราะการออกแบบและวางแผนธุรกิจที่ดีของทุกคนจะทำให้ผลิตภัณฑ์หรือธุรกิจสามารถสร้างเงินให้โดยอัตโนมัติ
และแน่นอนธุรกิจที่ถูกออกแบบและวางแผนได้ไม่ดีเท่าไหร่นัก ก็ย่อมไม่มีใครสนใจหรือไม่กล้าที่จะลงทุนในธุรกิจนั้นเช่นกัน
7. รู้ว่าทำงานหนักเพื่ออะไร และอะไรที่ต้องรับผิดชอบ
มันเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ที่ทุกคนจะต้องรู้เป้าหมายและความต้องการของตนเอง บางคนทำงานอย่างหนักเพื่อให้มาซึ่งรายได้ที่มาก แต่ต้องทำใจยอมรับด้วยว่ารายได้ที่มากนั้น สิ่งที่ตามมาก็คือการเสียภาษีรายได้ที่มากขึ้นเป็นเงาตามตัว
ดังนั้นการรู้ที่มาของรายได้ก็ย่อมรู้และเข้าใจว่า สิ่งใดคือหน้าที่ความรับผิดชอบ ในธุรกิจบางประเภท หรือการมีรายได้แบบ Passive income อาจมีการเสียภาษีในอัตราต่าง ๆ ที่อาจน้อยลง
ดังนั้นการเลือกทำธุรกิจอย่างเข้าใจ เอาใจใส่กับที่มาและประเภทของรายได้ จะช่วยให้ทุกคนตอบคำถามกับตัวเองว่า ยอมทำงานหนักเพื่ออะไร เพื่อรายได้ที่มากขึ้นก็ย่อมมีค่าใช้จ่ายและความรับผิดชอบที่มากขึ้นเช่นเดียวกัน
8. อย่ากลัวความสูญเสีย
ผู้คนส่วนมากมักจะหวาดกลัวกับความสูญเสีย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเงินทอง การสูญเสียเวลา หรือสูญเสียสิ่งหนึ่งสิ่งใดในการลงทุน สิ่งสำคัญก็คือ ทุกคนไม่มองไปที่อนาคตไม่กล้าลงทุนและไม่กล้าเสี่ยง
แน่นอนว่า เราทุกคนถูกสอนกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ ในระบบการเรียนการสอนของโรงเรียนว่า
“เธออย่าทำอะไรผิดพลาดนะ เพราะว่าหากเธอทำอะไรผิดพลาด เธอก็จะล้มเหลว”
ซึ่งในชีวิตจริงอาจไม่ใช่เราจะเห็นว่าเด็ก ๆ ที่กำลังหัดเดิน จะฝึกเดินแล้วต้องล้มลงหลายครั้งจนกว่าจะสามารถเดินได้อย่างสง่างาม
ดังนั้น หากทุกคนลงมือทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดแล้วผิดพลาดหรือต้องสูญเสียอะไรบางอย่างไป ก็จงอย่ากลัวความสูญเสีย เพราะเพียงแค่ลุกขึ้นมาใหม่เหมือนเด็ก ๆ ที่กำลังฝึกเดิน ทุกคนก็สามารถประสบความสำเร็จในสิ่งที่คาดหวังได้เช่นเดียวกัน
9. เพิ่มสินทรัพย์อยู่สม่ำเสมอ
ธุรกิจที่ได้รับการออกแบบเป็นอย่างดี หรือได้รับการวางแผนเป็นอย่างดี ย่อมมีการเพิ่มจำนวนของสินทรัพย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายเสมอ
ยกตัวอย่างเช่น Ken McElroy’s company ที่ในทุก ๆ ปีหากเป็นได้ จะต้องเพิ่มห้องพักใหม่มากกว่า 1,000 ห้องในรายการสินทรัพย์ของบริษัท ซึ่งในที่สุดก็ทำให้ Ken McElroy’s company มีรายได้มากขึ้นทุก ๆ ปี เป็นผลมาจากการวางแผนและออกแบบธุรกิจที่ดี
หากในแผนธุรกิจนั้น มีการเพิ่มจำนวนของสินทรัพย์ นักลงทุนย่อมมองเห็นโอกาสและประสบความสำเร็จทำให้มีรายได้ตามที่ต้องการ
10. อย่าเก็บเงินไว้เพียงอย่างเดียว
เราอาจถูกสอนกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ ว่า การออมเงินสม่ำเสมอเป็นสิ่งที่ดี ซึ่งก็แน่นอนว่ามันเป็นสิ่งที่ดี แต่ในความเป็นจริงนั้น การออมเงินไม่สามารถตามทันกับอัตราเงินเฟ้อที่ขึ้นลงในปัจจุบันได้
มันจะดีกว่าไหม ถ้าคุณลองมองหา วิธีป้องกันความเสี่ยงจากอัตราเงินเพ้อมากกว่าแค่การออมเงินไว้อย่างเดียว แต่ควรมองหาวิธีการลงทุนในสินทรัพย์อื่น ๆ ด้วย โดยการลงทุนที่ชาญฉลาดในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ เพราะอย่างน้อยก็น่าจะเป็นทางเลือกหนึ่งที่ดีมากกว่าการออมเงินเพียงอย่างเดียว
10 แนวคิดสู่ความสำเร็จ ของโรเบิร์ต คิโยซากิ เกิดจากประสบการณ์ตรงที่เขาศึกษาและสัมผัสสิ่งเหล่านี้ด้วยตนเอง
จากแนวทางการใช้ชีวิตของพ่อแท้ ๆ ที่มีความรู้แต่ยากจนซึ่งตรงกันข้ามกับวิถีชีวิตและแนวคิดของพ่อบุญธรรมซึ่งเป็นพ่อของเพื่อนสนิทที่เรียนจบเพียงมัธยม 2
แต่ด้วยการมีวิธีคิดและแนวทางการใช้ชีวิตที่แตกต่างทำให้เขามีฐานะที่ร่ำรวย หากเราเป็นอีกคนหนึ่งที่ต้องการประสบความสำเร็จและมีฐานะที่มั่นคงเช่นเดียวกับ โรเบิร์ต คิโยซากิ อยากรวยก็ต้องคิดแบบคนรวย 10 แนวคิดของโรเบิร์ต คิโยซากิ คือเส้นทางสู่ความสำเร็จที่ทุกคนทำได้
ขอขอบคุณ : คิดเป็น