พัดลมพัง หมุนไม่แรงไม่เย็น ซ่อมเองได้ แค่ 20บาท
ในหลายๆบ้ า นก็คงจะได้เคยเป็น กับเหตุการณ์นี้พัดลมที่หมุนช้า หมุนไม่แรงหรือพัดลมพัง ไม่ต้องเข้าร้านซ่อมให้เสียเงินหลายร้อยบาท เราสามารถซ่อมเองได้อย่างง่ายๆเลย ทำได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง เพราะ มีขั้นตอนการซ่อมที่ไม่ได้ยุ่งยาก ก่อนอื่นเลยเราจะมาดู กันก่อนว่า สาเหตุมาจากอะไร
พัดลมที่ไม่หมุนมักจะมีสาเหตุมาจากตัว Capacitor ที่ทำงานร่วมกับ Motor ของพัดลมเสีย Capacitor หรือที่บางคนเรียกว่า ตัว C หรือบางคนเรียกตัว CAP ไม่ผิดแต่ อ ย่ า ง ใด
จริงๆแล้วนั้นพัดลมที่หมุนช้า พัดลมที่ไม่หมุน ที่อาจจะเกิดจากตัว Capacitor เสียไม่หมุน หรือจะต้องมีการหมุนด้วยมือก่อนถึงจะค่อยทำงาน หรือทำงานไปสักพักก็จะค่อยๆหยุดตัวเองไป เราสามารถที่จะเปลี่ยนตัว Capacitor ได้เช่นกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ควรที่จะต้องตรวจเช็คดู ก่อน
ว่าตัวแกนหมุนนั้นไม่ได้ฝืดมาก อันนั้นเกิดจากไม่ค่อยได้ทอดนำมาเช็ดล้างทำความสะอาด นำมาปัดเป่าฝุ่นที่ติดบริเวณของตัวมอเตอร์เลย ซึ่งเราควรทำเป็นประจำ 1-2 เดือนสัก 1 ครั้ง หากเราใช้งานทุกวัน
เครื่องมือที่ใช้ซ่อมพัดลมไม่หมุน
1 ไ ข ค ว งแ ฉ ก
2 คีมตัดหรือ Cutter ก็ได้
3 หัวแร้ง
4 ตะกั่ว บั ด กลี
5 ที่ขาดไม่ได้เลยก็คือตัว Capacitor
6 ส่วน Meter วัดไฟจะมีหรือไม่มีก็ได้ ไม่ค่อยจำเป็นผมเอามาเช็ค เพื่อให้เห็นว่าตัวที่เสียเกิดจากตัว Capacitor
ตัวCapacitor มีราคา 20 บาท หาซื้อได้ตามร้านซ่อมเครื่องไฟฟ้าทั่วไป ร้านข า ยอะไหล่เครื่องใช้ไฟฟ้า มักจะมีข า ยอยู่ หาซื้อได้ง่ายและมีราคาที่ไม่แรง หากไม่แน่ใจก็ให้ถอดตัวเดิมออกแล้วเอาไปให้คนข า ยดูเพื่อที่จะให้ชัวร์
บอกคนข า ยว่า Capacitor พัดลม ซื้อมาเสร็จแล้วก็มาเริ่มในการซ่อมกันเลย โดยก่อนอื่นเลยจะต้องถอดปลั๊กพัดลมออกก่อนให้เรียบร้อยดี สำหรับพัดลมในหลายยี่ห้อ ตัว Capacitor จะอยู่ติด กับ Motor แต่บางรุ่นจะอยู่ที่ปุ่มกด speed
โดยจะมีน๊อต 2 ตัว ต้องถอดน๊อตตัวบนก่อน จากนั้นก็ถอดตัวที่ท้าย
หลังจากนั้นก็จะได้หน้าตาแบบนี้ ตัว Capacitor ก็คือที่ลูกศรชี้ไว้ ขันน๊อตตัดสายออกมาได้เลย ไม่มีขั้ว ตอนต่อกลับต่อยังไงก็ได้ เอามาตรวจวัดให้ดูครับ ค่าที่ได้ของตัวนี้คือ 0.444 uF ซึ่งค่าปกติจะเป็น 1.5 uF เสียแน่นอน
ซึ่งถ้าหากว่าตัวเลขค่าน้อยกว่านี้ อาจจะทำให้พัดลมไม่หมุนเลยก็ได้ ค่าที่โชว์ในรูปคือ 444.2 nF (Nano Farad) ซึ่งก็เท่ากับ 0.4442 uF (Micro Farad) ซึ่งก็คล้ายๆ กับ 1000 มิลลิกรัม เท่ากับ 1 ครับ 1000 เท่ากับ 1 กิโลกรัม
ค่าพวกนี้มันแบ่งย่อยได้ลงไป มิลลิ ไมโคร นาโน พิโก้ ใครเรียนมาทางสายวิทย์ อาจคงได้คุ้นเคย จากนั้นก็ปอกสายไฟตรงปลาย เพื่อพัด กลีต้องระวังไม่ไปทำให้ส่วนอื่นๆ ของพัดลมเสียหาย เพราะขดลวดตัว motor จะเล็กมากๆ
จริงๆ ขั้นตอนนี้ใครไม่มี หัวแร้ง ตะกั่ว ก็สามารถใช้วิธีการพันสายไฟได้ เพียง แต่ต้องพันเข้ากันให้ได้แน่นที่สุด และหลังจากนั้นต้อง พันด้วยเทปพันสายไฟ อันนี้จำเป็นมากๆ ไม่งั้นไฟช๊ อ ตเอาได้
เมื่อเสร็จแล้วก็ให้ทำการจัดเก็บในตำแหน่งเดิม ขันน๊อตตัวยึด Capacitor หรือถ้าหากว่าตัวใหม่ที่ซื้อมาไม่มีขา สำหรับการยึดน๊อตนั้น ก็ให้ใช้กาวสองหน้าได้เลย จากนั้นให้ใส่ฝานำมาครอบคืนในตำแหน่งเดิม เท่านี้ก็เสร็จลองเปิดดูพัดลมก็จะใช้งานได้เหมือนเดิม
หากเราได้ยกพัดลมไปซ่อมเองที่ร้าน อย่างต่ำก็ 200-300 อย่างแน่นอน วิธีนี้เราสามารถทำเองได้ไม่ต้องเสียเงินทองในการซ่อม พัดลมของคุณก็จะกลับมาใช้งานได้เหมือนเดิมเลยล่ะ
ขอขอบคุณที่มา Wichan Poonsawat