เศรษฐีลองเป็นคนจน กลับไปเยี่ยมญาติ แต่ถูกพวกเขาพูดกลับมา

เศรษฐีลองเป็นคนจน กลับไปเยี่ยมญาติ แต่ถูกพวกเขาพูดกลับมา

อย่าเพิ่งเลื่อนผ่านไปนะคะ เพราะในวันนี้จะมาบอกให้รู้ถึงอำนาจแห่งเงิน หลายคนที่ประสบความสําเร็จในชีวิต คนรอบข้างของพวกเขานั้นส่วนใหญ่มักจะเดินเข้าหาด้วยการใส่หน้ากาก บางคนเข้ามาเพื่อหวังผลประโยชน์ต่างๆมากมาย บางคนก็เข้ามาด้วยความจริงใจ จนเราแทบจะแยกไม่ออกเลยว่า คนไหนคือเพื่อนแท้ คนไหนคือเพื่อนเทียมกันแน่

สำหรับชายคนนี้มีชื่อว่า ฉิน เขาเป็นคนบ้านนอกคอกนายากจน จะต้องออกมาทำงานต่างเมือง จนในที่สุดเขาก็ประสบความสำเร็จในชีวิต มีเงินทองต่างๆมากมาย และเมื่อชีวิตของเขาประสบความสำเร็จ เขาจึงคิดและตัดสินใจ จะกลับไปพัฒนาบ้านเกิด จะกลับไปเยี่ยมคนที่บ้าน กลับไปดูว่าพวกเขามีสภาพความเป็นอยู่อย่างไร จะได้ยื่นมือเข้าไปช่วย การกลับไปในครั้งนี้ของเขา เขาจะแจ้งกลับไปในฐานะคนยากจนเช่นเดิม บางครั้งก็ต้องการที่จะรู้ว่า ญาติพี่น้องและเพื่อนๆของเขาจะมีปฏิกิริยากับเขาอย่างไรบ้าง

แต่การกลับมาในครั้งนี้ทำให้เขารู้สึกผิดหวังหลายอย่าง เมื่อเขาเห็นสภาพความเป็นอยู่ของคนในครอบครัว และเมื่อเขาได้พบกับพี่ชาย เขาได้พูดคุยและสอบถามความเป็นอยู่ แล้วก็ได้ความว่า แม่ยอมขายบ้านเพื่อที่จะเอาเงินไปให้น้องคนเล็ก ส่วนพี่ชายของเขานั้นก็ไม่ได้มีชีวิตที่ดีสักเท่าไหร่

หนำซ้ำ เมื่อถามถึงแม่ก็ทำให้รู้สึกปว ดใจมากยิ่งนัก เพราะว่าแม่ลื่นล้มในห้องน้ำ ทำให้ความจำในตอนนี้จำอะไรไม่ได้ พี่ชายก็แทบที่จะดูแลไม่ไหว แถมเขายังต้องมาแบกภาระเลี้ยงดูครอบครัวของตนเองอีก 4 คนที่เหลือ เขาจึงส่งแม่ไปที่บ้านพักคนชราแล้ว สิ่งเหล่านี้ทำให้ ฉิน รู้สึกแย่และรู้สึกผิดเข้าไปอีกที่กลับมาหาแม่ช้าเกินไป ในตอนนี้แม่เขาจำอะไรไม่ได้แล้ว

ญาติพี่น้องหลายคน ต่างมองและทำท่าทีดู ถูกกัน ว่าคนจนๆแต่งตัวมอมแมมคนนี้จะมาขอเงิน จะมายืมเงิน

หลังจากนั้นไม่นานเขาก็จึงไปเยี่ยมหาน้องชาย แล้วก็พบสภาพความเป็นอยู่ของน้องชายที่ดีมาก อยู่บ้านหลังใหญ่โต ทำให้เขารู้สึกคับเเค้นใจว่าทำไมน้องชายคนนี้ถึงปล่อยให้แม่ไปอยู่ที่บ้านพักคนชรา

ทำไมถึงไม่ทันแม่ไปอยู่ด้วย ทั้งๆที่แม่ก็ยอมขายบ้านขายทรัพย์สินทุกสิ่งทุกอย่างให้ไป แต่น้องชายคนนี้กลับตอบกลับมาว่า ทั้งผมและพี่คนโตต่างก็เลี้ยงดูแม่มาตั้งนานแล้ว แล้วพี่ล่ะหายไปไหนตั้งนาน ทำไมไม่คิดที่จะกลับมาดูแลแม่เลย

คำพูดนี้ทำให้เขารู้สึกปว ดใจเป็นอย่างยิ่ง ไม่คิดว่าน้องคนนี้จะพูดและคิดออกมาแบบนี้

และเขายังบอกอีกว่า กลับมาแล้วก็ยังจน กลับมาในครั้งนี้คงกลับมาขอเงินสินะ ไปอยู่ที่อื่นไม่ต้องมาขออยู่ที่นี่ คนจนจนอย่างนี้ฉันเลิกคบไปนานแล้ว

หลังจากนั้น ฉิน น้ำตาคลอ กลับไปที่บ้านเก่า โดยไม่คิดว่าคนที่เป็นญาติพี่น้องด้วยกันแท้ๆจะต้องมาพูดหักหาญน้ำใจกันแบบนี้

สุดท้าย เมื่อทุกคนได้เห็นฉิน ออกรายการโทรทัศน์รายการหนึ่ง เขาก็ได้พบกับความจริงหลายเรื่องเกี่ยวกับเศรษฐีคนนี้ โดยรายการโทรทัศน์ได้เล่าประวัติของคุณฉิน ว่าตั้งแต่ออกจากบ้านมาทำอะไรบ้าง ลำบากมากแค่ไหนจนมีถึงทุกวันนี้ และในรายการยังบอกอีกว่า อีกไม่กี่วันคุณฉินก็จะกลับไปพัฒนาบ้านเกิด ไปช่วยญาติพี่น้องที่กำลังลำบาก
ทุกคนนั้นต่างพยายามติดต่อและวิ่งเข้าหา ไปหาเขาที่ห้องพักแต่ก็พบแต่ความว่างเปล่า เพราะเขาไม่อยู่แล้ว เขากลับไปใช้ชีวิตแบบเศรษฐีตามเดิม และกลับไปจัดการเรื่องแม่ เรื่องการรักษาพยาบาลอาการของแม่ต่อไป โดยไม่ต้องร้องขอให้ใครมาช่วยเลย

เขาได้แบ่งเงินไว้ก้อนนึงให้น้อง ถึงแม้ว่าน้องของเขานั้นจะพยายามทำตัวที่แย่ก็ตาม แต่เขาก็ไม่เคยที่จะคิดลืมญาติพี่น้องเลย

เรื่องนี้เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง เป็นเรื่องที่สอนและให้คติสอนใจหลายคนได้เลยทีเดียว ยามที่พวกเขาทุกข์ยากหวังแต่พึ่งพาคุณ แต่เมื่อถึงยามที่คุณทุกข์ยากกลับไม่เห็นแม้แต่เงาของพวกเขา

แปล / เขียน / เรียบเรียงโดย : Postsod

ไม่อนุญาตให้คัดลอก ทุกกรณี บทความมีลิขสิทธิ์