หลายคนทำอยู่ ของ 6 อย่าง อย่าใช้คู่กับเครื่องไมโครเวฟ

0

หลายคนทำอยู่ ของ 6 อย่าง อย่าใช้คู่กับเครื่องไมโครเวฟ

ไมโครเวฟเป็นอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดหนึ่ งที่หลายๆบ้านมีติดบ้านกันเอาไว้ เพราะให้ความสะดวกและรวดเร็วในการอุ่นอาหาร แต่รู้หรือไม่ว่าสิ่งของทั้ง 6 อย่างนี้ที่เราไม่สามารถเอาเข้าในไมโครเวฟได้ เชื่อว่าหลายคนยังคงทำอยู่และยังไม่รู้กันอย่างแน่นอน เรามาดูกันเลยว่าจะมีสิ่งของอะไรบ้าง

พลาสติกและโฟม

หลายๆคนมักชอบนำพลาสติกเข้าในไมโครเวฟ โดยที่ไม่รู้เลยว่าพลาสติกมีจุดห ล อมเหลวต่ำ หากโดนความร้อนจะทำให้เกิดการหลอมละลายของภาชนะจนมีการเสียรูปทรง และละลายลงไปในอาหารของเรา เพราะฉะนั้นควรห้ามนำพลาสติกหรือกล่องโฟมเข้าไปในไมโครเวฟ

ภาชนะที่เป็นโลหะ

คลื่นไมโครเวฟเมื่อไปถูกโลหะจะทำให้เกิดเป็นกระแ สไ ฟ ฟ้าและเกิดเป็นความร้อนขึ้นในบริเวณพื้นผิว ทำให้เกิดความร้อนสูง และเกิดไ ฟขึ้นมาได้ และอาจจะทำให้สา รชนิดอื่นๆที่มีอยู่ในภาชนะนั้นลงไปในอาหารที่เรากินเข้าไปได้

ภาชนะกระเบื้องเคลือบ

สำหรับภาชนะที่มีการเคลือบกระเบื้องนั้นจะไม่สามารถทนทานต่อความร้อนได้สูง เพราะฉะนั้นหากเรานำไปอุ่นอาหารเป็นเวลาที่นานจะทำให้เกิดการแตกได้ และภาชนะกระเบื้องเคลือบหลายชนิดมีส่วนผสมของโลหะในส่วนที่เป็นลวดลาย ซึ่งอาจเกิดความร้อนสูงตรงจุดดังกล่าวทำให้ไ ห ม้ได้

พลาสติกใสถนอมอาหาร

พลาสติกที่เป็นชนิดบางที่เราใช้ในการปิดภาชนะเพื่อป้องกันเศษฝุ่นต่างๆตกลงไปในอาหาร เมื่อเราจะทำการอุ่นอาหารนั้น จะต้องแกะพลาสติกออกก่อนที่เราจะทำการเข้าไมโครเวฟ เพราะถ้าหากเราไม่แกะออก ความร้อนจะทำให้พลาสติกละลาย สา รต่างๆจะหยดลงไปในอาหารของเราได้

ฟองน้ำ

ฟองน้ำเราควรที่จะต้องระวังให้มากที่สุด ฟองน้ำหลายชนิดมีส่วนผสมของสา รสังเคราะห์ที่มีจุดหล อมเ ห ลวจะทำให้เกิดไ ฟได้ เมื่อใส่ในไมโครเวฟ ดังนั้นหากต้องการใช้ฟองน้ำในการทำความสะอาดควรทำการล้างด้วยน้ำยาล้างจานหรือสบู่ให้สะอาด จากนั้นบีบน้ำหมาดๆ และให้นำมาเช็ด ก็จะสามารถทำความสะอาดได้เป็นอย่างดี

ฟอยล์ห่ออาหาร

ฟอยล์สำหรับอาหารที่ทำมาจากอลูมิเนียมนั้น สามารถเกิดไฟในเตาได้ หากอาหารที่จะทำการอุ่นมีฟอยล์หุ้มอาหารอยู่ ควรที่จะต้องเอาออกก่อนนำอาหารเข้าไมโครเวฟ

เราเชื่อว่าหลายๆคนจะยังคงทำอยู่และ คงยังไม่รู้ถึงโ ท ษที่จะตามมา เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณคุณๆ ควรเลือกภาชนะที่สามารถใช้งานกับไมโครเวฟได้โดยเฉพาะจะดีมากต่อตัวคุณและความปล อ ด ภัยต่อการใช้งาน

ขอบคุณข้อมูลจาก : kaijeaw

แสดงความคิดเห็น

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่