น่าจะรู้ตั้งนานแล้ว 6 วิธีแก้ปัญหาก้างปลาติดคอ ด้วยของใช้ในครัว หลายคนทำผิดมาตลอด
เชื่อได้ว่าปัญหานี้คงอาจจะเกิดขึ้นได้กับทุกคน เนื่องมาจากการที่เรากินปลาเข้าไป โดยเฉพาะในตัวปลาที่มีก้างเป็นฝอยแหลมๆเล็กๆแทรกอยู่ตามเนื้อของปลา เรากินเข้าไปทำให้ก้างติดที่ลำคอ เกิดการระคายเคืองหรือมีอาการเจ็บแสบร่วมอยู่ด้วย ถ้าเป็นก้างที่มีเนื้ออ่อนๆอาจจะละลายลงไปเองได้ แต่ถ้าก้างที่มีลักษณะแข็งก็จะติดอยู่อย่างนั้นเอาออกก็ยาก
วันนี้เราได้นำวิธีการกำจัดก้างที่ติดอยู่ให้ออกอย่างง่ายดาย โดยที่ไม่ต้องเจ็บตัวเลยค่ะ มีอยู่หลายวิธี ตามมาดูกัน
1. การกลืนกล้วย (เพื่อหวังให้ก้างปลาติดไปกับเนื้อกล้วยลงไปในท้อง) หากไม่มีข้าวเหนียวและขนมปังคุณอาจลองนำกล้วยสุกมาหั่นเป็นชิ้นขนาด 1/4-2/4 ลูก (แล้วแต่ขนาดของกล้วย) นำมาอมไว้ในปากสัก 1-2 นาที แล้วจึงค่อย ๆ กลืนลงไปโดยไม่ต้องเคี้ยวก็ได้
2. ปั้นข้าวสวยหรือข้าวเหนียวเป็นก้อน ขนาดประมาณลูกชิ้นลูกเล็ก แล้วกลืนลงคอไปทั้งก้อน เพราะก้างปลาอาจจะติดก้อนข้าวลงไปในกระเพาะด้วย
3. คั้นน้ำมะนาวสดๆ ประมาณ 1 -2 ช้อนโต๊ะ แล้วดื่มลงไปเลย เพราะกรดของมะนาวจะทำให้ก้างปลาอ่อนนิ่มลงและไหลลงกระเพาะไปได้ แต่ใช้ได้เฉพาะกับก้างปลาที่อ่อน มีขนาดที่ไม่ใหญ่ และไม่ปักลงคอลึกมาก
4. การดื่มน้ำส้มสายชู เป็นวิธียอดนิยมที่ใช้กันในประเทศจีน โดยการนำน้ำส้มสายชูมาผสมกับน้ำให้เจือจางแล้วดื่ม ซึ่งกรดของน้ำส้มสายชูจะช่วยทำให้ก้างปลาอ่อนนิ่มลงได้ (หลักการเดียวกันกับน้ำมะนาว) แต่ควรจะผสมในระดับที่เจือจางมาก เพราะหากผสมเข้มข้นเกินไปก็อาจทำให้เกิดการระคายเคืองคอยิ่งไปกว่าเดิมได้
5. เมื่อก้างติดคอให้ดื่มน้ำเปล่าลงไปเล็กน้อย แล้วเคี้ยวขนมปังให้พอชุ่ม แล้วพยายามกลืนลงคอไปทั้งก้อนเลย เพราะขนมปังจะช่วยดันก้างปลาที่ติดคอลงไปในกระเพาะได้
6. ถ้าก้างปลาติดไม่ลึกมาก เช่น บริเวณแถวลำคอส่วนบนและทอนซิล ให้ใช้น้ำเปล่ากลั้วในคออย่างแรง โดยต้องเงยหน้าขึ้นแล้วทำเสียงคร้อกๆ 3-4 ครั้ง จากนั้นบ้วนน้ำทิ้ง 2-3 ครั้ง
เป็นยังไงบ้างกับ วิธีแก้ปัญหา ก้างปลาติดคอ แสนง่าย เพียงแต่คุณไม่เคยรู้เท่านั้นเอง และวันนี้คุณรู้วิธีแล้ว อย่าลืมนำไปบอกต่อ บุตรหลาน บอกเพื่อน และคนรู้จัก หรือคนที่คุณรักด้วย เพราะในบางครั้งเราไม่รู้หรอกว่ามันจะเกิดขึ้นตอนไหน แต่เมื่อเรานั้นทราบวิธีแก้ไขแล้วก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี
ข้อห้ามเมื่อก้างปลาติดคอ
1. ห้ามใช้อุปกรณ์แหย่ลงในคอเพื่อเขี่ยเอาก้างปลาออกมา เพราะอาจจะทำให้อุปกรณ์ที่ใช้เขี่ยหลุดลงไปในคอและเกิดอันตรายได้
2. หลีกเลี่ยงการนวดหรือบีบบริเวณคอด้านนอก เพราะจะยิ่งทำให้ก้างปลาทิ่มลึกลงไปมากกว่าเดิมและเอาออกมาได้ยาก อีกทั้งยังอาจทำให้รู้สึกมากขึ้นด้วย
3. หลีกเลี่ยงการไอหรือการยืดคอ เพราะอาจจะทำให้ก้างปลาที่ติดอยู่ในคอหลุดลงไปในหลอดอาหารจนเป็นอันตรายกับหลอดอาหารได้
4. อย่าปล่อยให้ก้างปลาติดคอนานเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดการอักเสบเป็นหนองได้
5. หากใช้วิธีแก้ข้างต้นมาทุกกระบวนท่าแล้วยังไม่สามารถเอาก้างปลาหรือเศษกระดูกออกได้ แถมยังรู้สึกระคายเคืองที่คอมากขึ้นกว่าเดิม หนทางสุดท้ายที่ควรทำคือการไปพบแพทย์ เพราะหากมัวแต่รักษาด้วยตัวเองก็อาจจะยิ่งทำให้อาการรุนแรงขึ้นหรือเกิดอาการอักเสบได้ ซึ่งคราวนี้ก็คงต้องกินยารักษาไปอีกนานเลยครับกว่าจะหาย
6. หากคอเกิดอาการบวมและเริ่มหายใจลำบาก ควรหยุดนำก้างปลาออกด้วยตัวเองแล้วรีบไปพบแพทย์ด่วน
ในกรณีที่ก้างปลาติดอยู่ในหลอดอาหารไม่สามารถนำออกได้ และไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง อาจทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนได้ เช่น หลอดอาหารทะลุมีหนองลามเข้าไปในช่องอกและเยื่อหุ้มหัวใจ ซึ่งอาจทำให้เสียชีวิตได้ ดังนั้น จึงไม่ควรนิ่งนอนใจ และควรรีบไปพบแพทย์ตั้งแต่เนิ่น ๆ ที่รู้สึกว่ามีอาการ
ขอบคุณข้อมูลจาก : share-si