ป้าสอนทำ น้ำเต้าหู้ เอาไว้ทำขายได้อาชีพ อร่อยหอมมัน
ไม่ว่าจะตอนเช้าในเวลาเร่งรีบ หรือจะตอนเย็นเราจะเห็นได้ว่ามีร้านสำหรับขายน้ำเต้าหู้อยู่ในทุกช่วงเวลาเหล่านั้น ซึ่งแน่นอนว่าน้ำเต้าหู้เราสามารถทานได้ทุกเวลาไม่เพียงแต่เช้าหรือเย็น ทานเป็นของว่างที่ทั้งมีประโยชน์และยังช่วยให้อิ่มท้องอีกด้วย และสำหรับใครที่กำลังควบคุมในเรื่องของน้ำหนักและการดูแลรูปร่างน้ำเต้าหู้ก็ถือเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆที่หลายคนนิยมทานกันสำหรับบางคนนั้นทานแทนมื้อเย็นเลยทีเดียว เพราะน้ำเต้าหู้นั้นอุดมด้วยคุณค่าทางอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายสูง
ในน้ำเต้าหู้ประกอบไปด้วยโปรตีน แคลเซียม ซีลีเนียม สังกะสี ฟอสฟอรัส กรดอะมิโนกว่า 18 ชนิด และธาตุเหล็ก รวมไปถึงวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นวิตามินเอ วิตามินอี วิตามินบี 1 และวิตามินบี 2 ซึ่งแต่ละอย่างนั้นมีประโยชน์ต่อร่างกายของเราอย่างมาก และหากใครที่กำลังมองหาช่องทางในการสร้างรายได้เสริมขึ้นมา ในวันนี้เราก็มีวิธีในการทำน้ำเต้าหู้มาฝากกัน ไม่ว่าจะทำทานเองกับที่บ้านหรอครอบครัว หรือจะทำขายสร้างรายได้แบบไหนก็รับรองว่าอร่อยติดใจกันอย่างแน่นอน
วิธีในการทำน้ำเต้าหู้
สิ่งที่ต้องเตรียม
1 น้ำตาลทรายขาวละเอียด 350 กรัม
2 เกลือเสริมไอโอดีนป่น 1 ช้อนชา
3 น้ำสะอาด 32 ถ้วย ประมาณ 8 ลิตร
4 เครื่องปั่นใช้สำหรับปั่นถั่วเหลืองที่แช่น้ำแล้ว
5 หม้อหรือกะละมัง 2 ใบ
ขั้นตอนในการทำน้ำเต้าหู้
1 เริ่มขั้นตอนแรกด้วยการแช่ถั่วเหลืองไว้เป็นเวลาประมาณ 6 ชั่วโมง หลังจากนั้นให้นำถั่วเหลืองมากรองด้วยตะกร้าพลาสติกขนาดเล็กเพื่อให้สะเด็ดน้ำ เมื่อเรากรองถั่วเหลืองแล้วรอจนสะเด็ดน้ำเรียบร้อยแล้วนั้น ขั้นตอนต่อไปก็คือการนำถั่วเหลืองไปเข้าเครื่องปั่น โดยเวลาปั่นให้ใส่ถั่วเหลืองลงไปประมาณครึ่ง แล้วใส่น้ำสะอาดที่เตรียมไว้ใส่ลงไปให้พอท่วมเม็ดถั่ว ใช้เวลาปั่นครั้งละประมาณ 2-3 นาทีถั่วเหลืองที่ได้ก็จะละเอียด
2 จากนั้นก็นำถั่วเหลืองที่ปั่นเสร็จแล้วนำไปใส่ในหม้อหรือกะละมังที่เตรียมไว้โดยใช้ผ้าขาวบางกรองเอากากถั่วเหลืองออก พอเราปั่นถั่วเหลืองและกรองเอากากออกจนหมดแล้ว ก็นำน้ำเต้าหู้ที่ได้จากการกรองครั้งแรกไปกรองด้วยผ้าขาวบางอีกครั้ง
3 จากนั้นก็ให้นำน้ำเต้าหู้ที่กรองเสร็จแล้วไปตั้งไฟให้เดือดโดยสามารถใช้ไฟแรงได้เลย หากต้องการให้น้ำเต้าหู้มีกลิ่นหอมก็ใส่ใบเตยลงไปได้ประมาณ 2-3 ใบ ในขั้นตอนนี้เราต้องคนไปเรื่อย ๆ และคอยตักฟองออกให้หมด
4 เมื่อน้ำเต้าหู้เดือด ให้เราปรับไฟให้เบาลงมาแล้วใส่เกลือป่น หากทำไว้ทานเองก็ให้ใส่น้ำตาล แต่สำหรับคนที่จะนำไปขายก็ไม่ต้องใส่น้ำตาล เราค่อยไปเติมน้ำตาลเวลาที่ลูกค้าสั่ง จากนั้นก็เพิ่มไฟให้แรงอีกครั้ง คอยคนไปเรื่อยๆ พอน้ำเต้าเดือดก็ปิดไฟ ยกน้ำเต้าหู้ไปเทใส่หม้ออีกใบเพื่อให้ความร้อนลดลงเพื่อจะทานได้ง่ายขึ้น
เท่านี้เราก็จะได้น้ำเต้าหู้เอาไว้ทานกันแล้วหากใครชอบทานแบบมีเครื่องก็สามารถหาเครื่องที่ชอบทานมาใส่คู่กันเวลาทานได้ชอบหวานมากหรือน้อยก็เติมน้ำตาลได้ตามต้องการ นอกจากจะได้น้ำเต้าหู้ที่แสนอร่อยเอาไว้ทานเองได้ทุกเมื่อแล้วก็ยังมีประโยชนต่อร่างกายอีกด้วย
ที่มา : sha resi