ระวังผลไม้และสมุนไพร 5 ชนิด ทำให้ไตเสื่อมได้ไม่ทันรู้ตัว

0

ระวังผลไม้และสมุนไพร 5 ชนิด ทำให้ไตเสื่อมได้ไม่ทันรู้ตัว

ทุกคนคงทราบดีอยู่แล้วว่า ไต เป็นอวัยวะที่มีหน้าที่สำคัญในร่างกาย ถ้าหากว่าไตได้รับความเสียหาญ หรือสูญเสียการทำงานไปจะส่งผลต่อระบบการทำงานในร่างกายเป็นอย่างมาก

หากการทำงานของไตบกพร่อง นั่นคือไตสูญเสียความสามารถในการกรองของเสียออกจากเลือด จนไม่สามารถขับของเสียออกมาจากร่างกายผ่านทางปัสสาวะได้ ทำให้มีของเสียตกค้างในร่างกาย อีกทั้งยังทำให้ระดับน้ำ เกลือแร่ และแร่ธาตุต่าง ๆ ในร่างกายเกิดความไม่สมดุล หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที จะทำให้ระบบการทำงานภายในร่างกายเกิดความผิดปกติ และเป็นอันตรายแก่ชีวิต

ในปัจจุบันเราสามารถดูแลร่างกายได้หลากหลายวิธีทั้งการออกกำลังกายและกินผักผลไม้ที่มีประโยชน์ แต่รู้กันหรือไม่ว่าผักผลไม้บางชนิดหากกินมากๆก็อาจส่งผลเสียต่อไตได้โดยไม่รู้ตัว วันนี้เราจึงได้นำความรู้เกี่ยวกับผลไม้ 5 ชนิด ที่ไม่เหมาะกับคนที่เป็นโรคไต จะมีชนิดไหนบ้างมาดูกันเลย

1. หญ้าไผ่น้ำ (river spiderwort)

หญ้าไผ่น้ำหรือจุ้ยเตาเฉ้า มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ และลดการอักเสบของทางเดินปัสสาวะ บรรเทาอาการบวม หญ้าไผ่น้ำไม่เหมาะกับการใช้กับผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง เพราะจะทำให้ไตทำงานหนัก ไตเสื่อม และเกิดภาวะไตวายเฉียบพลันได้เร็วขึ้น

2. ใบยอ (Yoyo)

จากกระแสในโลกโซเซียล ว่าน้ำใบยอสามารถรักษาโรคไตได้ แท้จริงใบยอไม่สามารถรักษาได้ และยังทำลายไตอีกด้วย ใบยอมีธาตุฟอสฟอรัสสูงมาก เป็นอันตรายต่อไต เพราะไตไม่สามารถนำฟอสฟอรัสออกมาใช้ได้ตามปกติ จึงเกิดการสะสมตัวอยู่ในกระแสเลือด ส่งผลให้เกิดโรคแทรกซ้อนอื่นๆตามมา อย่างโรคนิ่วในไต และนำไปสู่ภาวะไตวายเฉียบพลันได้

3. หญ้าหนวดแมว (Java Tea)

เป็นที่รู้จักในวงการแพทย์แผนโบราณว่ามีฤทธิ์กระตุ้นการขับปัสสาวะ ช่วยขับนิ่วในทางเดินปัสสาวะและไต หญ้าหนวดแมวมีปริมาณโปแทสเซียมที่สูงมาก จะส่งผลเสียต่อผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง การที่มีโปแทสเซียมสูงทำให้ไตทำงานหนักในการกรองและขับของเสียออกมาทางปัสสาวะ และถ้าไม่สามารถขับออกมาได้จะเกิดการคั่งของโปแทสเซียมในร่างกายเป็นอันตรายต่อหัวใจ ทำให้เสียชีวิตได้ โดยปกติผู้ป่วยกลุ่มนี้จะได้รับยาที่ควบคุมระดับโปรแทสเซียมในเลือดให้อยู่ในค่าที่เหมาะสมที่สุด

4. ลูกเนียง หรือ ชะเนียง (djenkol bean)

ในลูกเนียงประกอบด้วยแป้งร้อยละ 70 โปรตีนร้อยละ 15 ธาตุเหล็ก แคลเซียม วิตามินบี 1และ 12 กรดแจงโคลิค (djenkolic acid) เป็นกรดอะมิโนที่มีกำมะถันสูงมากและเป็นพิษต่อร่างกาย กำมะถันจะไปทำลายระบบประสาทของไตให้เสื่อมลง มักเกิดอาการภายใน 2-14 ชั่วโมง ภายหลังรับประทานจะมีอาการปวดตามบริเวณขาหนีบ ปัสสาวะลำบาก และมาก บางรายไม่ปัสสาวะ ปัสสาวะเป็นเลือด ทำให้ไตวายเฉียบพลัน ความดันโลหิตสูง การลดพิษในลูกเนียงโดยการนำมาหั่นเป็นแผ่นบางๆตากแดดให้หมาดก่อนนำมารับประทานหรือต้มในน้ำผสมโซเดียมไบคาร์บอเนตเป็นเวลา 10นาที จะทำให้กรดแจงโคลิคลดลง 50 %

5. มะเฟือง (star fruit)

นำมาใช้เป็นยาสมุนไพร แก้ไข้ แก้ไอ ช่วยขับปัสสาวะ แต่มะเฟืองเป็นผลไม้ที่มีสารออกซาเลต (Oxalic acid) ในปริมาณมาก เมื่อเรารับประทานในปริมาณมากหรือรับประทานในขณะท้องว่าง ทำให้สารออกซาเลตถูกดูดเข้ากระแสเลือดได้อย่างรวดเร็ว และถูกขับทางไต สารชนิดนี้จะไปจับตัวกับแคลเซียมในไต ทำให้เกิดนิ่วในเนื้อไตและท่อไต ส่งผลให้เกิดไตเสื่อม และไตวายเฉียบพลันได้ ดังนั้นทั้งคนปกติหรือผู้ป่วยโรคไตควรหลีกเลี่ยงการรับประทานมะเฟืองในปริมาณมาและติดต่อกันเป็นเวลานานจะดีที่สุด ภาวะไตวายจากการรับประทานมะเฟืองไม่ค่อยพบในคนปกติ แต่จะเกิดกับผู้ที่ไตผิดปกติอยู่แล้ว

ขอขอบคุณ : เพจสาระน่ารู้ พืชผักผลไม้เพื่อสุขภาพที่ดี , meesara

แสดงความคิดเห็น

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่