สามีต้องทำการบ้านทุกคืน! บางคืนก็ 2-3 ครั้ง! ผ่านไป 10 ปีมีลูกแล้ว 4 คน แต่แม่สามีกลับบอกว่า…

0

สามีต้องทำการบ้านทุกคืน! บางคืนก็ 2-3 ครั้ง! ผ่านไป 10 ปีมีลูกแล้ว 4 คน แต่แม่สามีกลับบอกว่า…

ทำไมเรารู้สึกแปลกไป

เรากับสามีแต่งงานกันตั้งแต่เพิ่งแตกหนุ่มแตกสาว ตอนนี้พวกเราอายุ 30 กว่ามีลูกสาว 4 คนแล้ว แต่ครอบครัวเราให้ความสำคัญกับเด็กผู้ชายมาก มีพี่น้องเยอะ แค่เราก็มีพี่สาวน้องสาว 6 คนแล้ว น้องสาวคนเล็กตอนนี้เพิ่งจะเข้ามัธยม พูดถึงยายเรา สมัยนั้นไม่รู้จักการคุมกำเนิด ต่อให้จนแค่ไหน ถ้าท้องแล้วก็ต้องคลอดออกมา แม่เรามีพี่น้อง 7 คน แต่มีแค่น้องชายคนเดียว

แต่สมัยนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อน มีการให้ความรู้เกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์มากมาย แต่แม่สามีเรายังมีทัศนคติแบบเดิมๆ แกอยากให้เรามีลูกอีก เรากับสามีไม่ได้จบมหาลัยอะไร การศึกษาไม่สูง แต่ธุรกิจค้าขายพอใช้ได้ รายได้ก็พอเอามาเลี้ยงดูครอบครัวแบบพอดีๆ ทำให้แม่สามีบอกให้มีลูกอีก

เนื่องจากเรากับพี่น้องล้วนมาทำงานในเมือง พวกเราก็เลยมีโอกาสเจอกันบ่อยๆ ฐานะของครอบครัวสามีเราไม่ได้ดีอะไร เขายังมีน้องสาวอีกสองคน ที่บ้านก็มีแค่ห้องแคบๆให้พวกเราอยู่ แต่ปกติพวกเราจะอยู่ที่ร้านกัน แม่สามีบอกกับพวกเราว่า : “พวกแกมีลูกชายสักคนก่อน ค่อยกลับไปสร้างบ้านที่ต่างจังหวัดหรือซื้อบ้านสักหลังในเมือง แม่จะช่วยเตรียมเงินให้สักแสน ที่เหลือแกก็ไปคิดกันเอาเอง” สิ่งที่แม่สามีต้องการก็คือให้เรามีลูกชาย

พอแม่สามีพูดอย่างนี้ สามีก็กลับมาเป็นหนุ่มกลัดมันอีกครั้ง ตอนที่เพิ่งแต่งงานกัน พวกเราจะมีอะไรกันอย่างน้อยคืนละครั้ง อย่างมากก็ 2-3 ครั้ง แต่ต่อมาพอเลี้ยงลูกแล้วเหนื่อย ความถี่ก็เลยลดลง แต่สัปดาห์นึงก็ยังหลายครั้งอยู่ ตอนนี้เพื่อจะมีลูกชาย เขาก็กลับมาเหมือนเดิมอีกครั้ง ตอนแรกเรายังเป็นห่วงกลัวเขาจะเหนื่อยเกินไป แต่ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นอย่างนั้น

แต่เราไม่เหมือนสามี ทุกคืนกล่อมลูกนอนแล้วยังต้องมาอย่างนั้นกับเขาอีก รอจนเขาหลับก็ห้าทุ่มเที่ยงคืน พอเราหลับสนิทบ้างเขาก็จะเอาอีกแล้ว ระยะตกไข่อาทิตย์นั้น เราเหนื่อยจนกินอะไรแทบไม่ลง พูดกันตามตรงแล้วเทียบกับพี่น้อง เรามีลูก 4 คนนี่เยอะที่สุดแล้ว นั่นก็เพราะสามีเราเป็นลูกชายคนเดียว แม่สามีอยากให้มีหลานชายไว้สืบทอดตระกูล

ที่จริงเราก็อยากมีลูกชาย ทุกครั้งที่คลอดลูกเราจะตื่นเต้นมาก แต่เราเลือกได้ที่ไหน หรือถึงจะมีลูกชายได้จริง พวกเราก็ยังมีภาระอีกมาก ซื้อบ้านก็ต้องใช้เงินตั้งกี่ล้าน ค่าครองชีพในเมืองก็ไม่ใช่ถูกๆ แค่คิดถึงค่าใช่จ่ายสำหรับลูก 5 คนเราก็ไม่กล้าคิดแล้ว เราจะทำยังไงดีเนี่ย!!!?

ขอขอบคุณ : ไลค์เกอร์

แสดงความคิดเห็น

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่