อ่านจบรีบหามากิน! ใบบัวบก สุดยอดผักพื้นบ้าน รักษาโรคที่เป็น
ใบบัวบก นับว่าเป็นพืชผักสมุนไพรที่ให้คุณประโยชน์ที่ดีมากต่อสุขภาพร่างกายของเรา แต่หลายๆคนมักจะมองข้ามไปและเลี่ยงการกิน เพราะมีสีสันเขียวที่ไม่สวยงามไม่น่ารับประทาน แต่ในวันนี้เมื่อคุณได้รู้ถึงสรรพคุณ ความคิดของคุณจะเปลี่ยนไป
เปลี่ยนความคิดใหม่เรื่อง “บัวบก” หมอเผยไม่ใช่แค่เครื่องดื่มสีเขียวรักษาอาการร้อนในเท่านั้น มีสรรพคุณอย่างอื่นด้วย โดยเฉพาะเรื่องการบำรุงสมองป้องกันอัลไซเมอร์และช่วยฟื้นฟูความจำในผู้สูงอายุ
นพ.ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกในฐานะโฆษกกรม กล่าวว่า ในปัจจุบันภาวะสมองเสื่อม หรือโรคอัลไซเมอร์ เป็นภาวะที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยสูงอายุและมีแนวโน้มสูงขึ้น ปัญหาที่พบ เช่น มีปัญหาด้านการใช้ภาษาเลือกใช้คำพูดไม่ค่อยถูก สับสนเรื่องทิศทาง ไม่สามารถตัดสินใจเรื่องต่างๆ ในชีวิตประจำวันได้ ส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงด้านพฤติกรรมและอารมณ์ได้
สมุนไพรที่มีประโยชน์ต่อการป้องกันโรค คือ บัวบก สมุนไพรในกลุ่มโปรดักส์ แชมเปี้ยน เป็นสมุนไพรที่มีอยู่ทุกที่ทั่วประเทศไทยที่สำคัญหาง่าย ใช้คล่อง ปลอดภัย ใช้ได้ทั้งต้นและใบ มีรสขม สามารถนำมารับประทานเป็นอาหาร ทำเป็นเครื่องดื่ม จากการศึกษาวิจัยพบว่า บัวบกมีฤทธิ์รักษาแผลที่ผิวหนัง รักษาแผลในทางเดินอาหารรักษาความผิดปกติของหลอดโลหิตดำรักษาแผลในปาก และที่สำคัญ คือ บำรุงสมอง ป้องกันอัลไซเมอร์ และช่วยฟื้นฟูความจำ และมีผลกับการความจำและเรียนรู้ในผู้สูงอายุ
สำหรับสรรพคุณที่ให้ความสนใจกันมากเป็นพิเศษคือ “บำรุงสมอง ป้องกันอัลไซเมอร์” เนื่องจากในบัวบกมีสรรพคุณช่วยบำรุงประสาทและสมอง ช่วยทำให้เพิ่มความจำดีขึ้นและทำให้มีปฏิภาณไหวพริบเพิ่มมากขึ้นใบบัวบกยังช่วยเสริมการทำงานของกาบา (GABA) ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ช่วยรักษาสมดุลของจิตใจ ลดความกระวนกระวาย ช่วยให้จิตใจสงบและผ่อนคลายลงได้ ทำให้สามารถนอนหลับได้ง่ายขึ้น
โดยแค่เพียงรับประทานเป็นประจำก่อนนอน ก็จะช่วยให้การนอนหลับดีขึ้น ปัจจุบันนี้มีการผลิตสารสกัดจากบัวบกเป็นตัวบำรุงสมอง สามารถหาซื้อได้ตามร้านเภสัชทั่วไป โปรดสังเกตุมาตรฐานและเลขจดแจ้งขออนุญาตจาก อย.
วิธีรับประทานน้ำใบบัวบก บำรุงสมอง ป้องกันอัลไซเมอร์
1. ให้นำใบบัวบกทั้งต้น มาล้างน้ำให้สะอาด
2. จากนั้นหั่นเป็นท่อนๆ ประมาณ 2-3 ท่อน
3. นำมาปั่นรวมกับน้ำเปล่า โดยใส่น้ำให้ท่วมใบบัวบก กรองเอาแต่น้ำ และสามารถปรุงรสด้วยน้ำผึ้งตามใจชอบ
4. ให้ดื่มครั้งละ 120-200 มิลลิลิตร วันละ 3 ครั้ง หลังอาหารและไม่ควรรับประทานติดต่อกันเป็นเวลานาน
ทั้งนี้อยากให้ประชาชนหันมารับประทานผักเป็นการบำรุงร่างกาย ออกกำลังกายเป็นประจำ จะช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ
ขอบคุณข้อมูลจาก : kaijeaw