คนส่วนมาก 90% ดื่มผิด! ผู้เชี่ยวชาญชี้ 6 ช่วงเวลาที่ดื่มน้ำแล้วทำลายสุขภาพ ดื่มให้ถูก.. เพื่อร่างกายที่แข็งแรง!
เมื่อไม่นานมานี้เว็บไซต์ต่างประเทศได้รายงานว่า ทุกๆคนรู้ว่าการดื่มน้ำมากๆสำคัญแค่ไหน วันนึงเราควรดื่มน้ำ 2-3 ลิตร ไม่เพียงดีต่อร่างกาย ยังช่วยในเรื่องระบบขับถ่าย และความงามด้วย แม้ว่าการดื่มน้ำจะสำคัญ แต่เวลาที่เราดื่มน้ำก็ต้องให้ความสำคัญ รอจนกระหายน้ำแล้วค่อยดื่มนี่ไม่ทันแล้ว
แถมการดื่มน้ำมากเกินไปยังอาจส่งผลต่อความเข้มข้นของอิเล็กโทรไลต์ของร่างกาย ทำให้เกิดภาวะโซเดียมในเลือดต่ำ (hyponatremia) ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน โรคลมชัก ถึงกระทั่งเสียชีวิตได้ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าเราควรให้ความสำคัญกับการดื่มน้ำที่ “6 ช่วงเวลาเหล่านี้”
จากการรายงานของ TOI ผู้เชี่ยวชาญแนะว่าควรใส่ใจกับ 6 ช่วงเวลาว่า “ดื่มน้ำเยอะแล้ว”, “ปัสสาวะสีอ่อนหรือไม่มีสี”, “หลังจากออกกำลังกายหนัก”, “ทันทีหลังอาหาร”, “ไดเอท” และ “น้ำมีรสชาติ” ปัสสาวะสีอ่อนเกินไปอาจจะเป็นเพราะดื่มน้ำมากเกินไป หลังอาหารแนะนำว่ารอสักครึ่งชั่วโมงค่อยดื่มน้ำจะดีกว่า ไม่อย่างนั้นจะไปทำให้กรดในกระเพาะเจือจาง อย่าดื่มน้ำอย่างบ้าคลั่งเพื่อลดน้ำหนัก เพราะมันเป็นอันตรายต่อร่างกายและกระเพาะอาหาร น้ำที่ผสมสารปรุงแต่งที่อาจจะส่งผลเสียต่อร่างกาย
แต่การดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสมดีต่อร่างกาย จากเวปไซต์ 39.net สำหรับคนทั่วไปสามารถช่วยในการเผาผลาญอาหารได้ ขับสารพิษออกจากร่างกาย สำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจ การดื่มน้ำมากขึ้น สามารถลดความเข้มข้นของเลือด และเพิ่มการไหลเวียนโลหิต เวลาเป็นหวัด เป็นไข้ เนื่องจากเหงื่อออกมากอาจทำให้ร่างกายขาดน้ำ การดื่มน้ำมากๆจะช่วยในการขับเหงื่อและปัสสาวะ แบคทีเรียและสารพิษในร่างกายจะถูกขับออกมาโดยง่าย
สรุปจากข้างต้น การดื่มน้ำมีประโยชน์มากมาย แต่เวลาที่ดื่มน้ำก็สำคัญ แล้วเวลาไหนควรดื่มน้ำดีล่ะ?
ก่อนอื่นเลย ตอนเช้าหลังตื่นนอน ควรดื่มน้ำอุ่น 1 แก้ว 500 cc จะ ช่วยเสริมความงาม ทำความสะอาดร่างกาย และล้างพิษ ถ้าอยากให้เป็น “ยาระบาย” อาจจะเลือกดื่มน้ำผสมน้ำผึ้ง อยากบำรุงสายตาสามารถดื่มน้ำผสมโกจิเบอรี่ หรือเก๋ากี้
ต่อมาก็ดื่มน้ำก่อนเวลาอาหารครึ่งชั่วโมง ไม่เพียงแต่ทำให้อยากอาหาร ยังช่วยลดความกระหายเนื่องจากปริมาณเกลือที่มากเกินไปในอาหาร สุดท้ายคือเวลาออกกำลังกาย ดีที่สุดคือก่อนออกกำลังกาย 2 ชั่วโมงดื่มน้ำ 500 cc ตอนออกกำลังกายทุกๆ 15 นาทีให้ดื่มน้ำ 200 cc และที่สำคัญอย่ารอจนกระหายน้ำแล้วค่อยดื่มน้ำ เพราะเมื่อรอจนคุณรู้สึกหิวน้ำ ความชื้นในร่างกายได้ลดลงประมาณ 2% ของน้ำหนักตัวแล้ว
ขอขอบคุณ : liekr