ใครว่าบ้าก็ไม่สน!!? ผมจะปลูก..“พะยูงไหหลำ”ไม้ที่มีมูลค่าสูง กิโลกรัมละ 10,000 บาท!!(มีรายละเอียด)
จากที่เป็นกระแสในโลกออนไลน์ ที่มีการแชร์ต่อและเหล่าบรรดาเกษตรกรให้ความสนใจกันเป็นจำนวนมาก กล่าวถึงผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ Thoop Nakasen ได้โพสต์รูปภาพและข้อความ เกี่ยวกับการปลูก”พะยูงไหหลำ”ไม้ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในประเทศจีน กิโลกรัมล่ะ 10,000 บาท ในภาพผมไปดูงานที่จีน ลาวและเวียตนาม มากกว่า 10 รอบ เก็บข้อมูลจากแปลงปลูกจริงและจากตลาดที่เค้าซื้อขายกันจริงๆ..เห็นมากับตาว่ามีตลาดจริง ราคาแพงจริง แล้วแชร์ลงบนโลกออนไลน์
โดยโพสต์ดังกล่าวระบุว่า “ใครจะว่าบ้าก็ไม่สน ผมจะปลูก”พะยูงไหหลำ”ไม้ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในประเทศจีน กิโลกรัมล่ะ 10,000 บาท ในภาพผมไปดูงานที่จีน ลาวและเวียตนาม มากกว่า 10 รอบ เก็บข้อมูลจากแปลงปลูกจริงและจากตลาดที่เค้าซื้อขายกันจริงๆ..เห็นมากับตาว่ามีตลาดจริง ราคาแพงจริง
ผมเพิ่งปลูกไปแล้ว 10 ไร่ และปลูกเพิ่มปีนี้อีก 300 ไร่ครับ
โอกาสของประเทศไทย..ไม้พะยูงไหหลำ Dalbergia odorifera ซึ่งเป็นไม้ที่มีราคาสูงเป็นอันดับที่ 2 ในจีน แก่นไม้ลูกบาศก์เมตรล่ะ 45 ล้านบาท แต่มูลค่าทางการตลาดสูงมากที่สุดกว่า ไม้สกุลพะยูงทุกๆชนิด
มีความต้องการสูงมาก ในตลาดจีน แต่ปลูกได้ในโซนร้อนชื้นด้านล่างของแผนที่ ไม่ถึง5% ของพื้นที่ประเทศ ซึ่งพะยูงเป็นไม้เมืองร้อน ไม่ชอบอากาศหนาวเย็น ถ้าอุณหภูมิต่ำจนติดลบ พะยูงไหหลำจะตายทั้งหมด ซึ่งจีนพื้นที่เกือบทั้งหมดหนาวเย็นมาก จึงปลูกได้ไม่เพียงพอกับความต้องการ
ส่วนพะยูงเวียตนาม Dalbergia tonkinensis นั้นมีราคาสูงที่สุดในบรรดาพะยูงทั้งหมดคือ แก่นไม้มีราคา 60,000,000 ล้านบาทต่อลูกบาศก์เมตร แต่มูลค่าความต้องการในตลาดจีนนั้นยังน้อยกว่าพะยูงไหหลำมากนัก..โตเร็วพอๆกันแต่เข้าแก่นช้ามากเหมือนพะยูงไทย
ส่วนพะยูงไทย Dalbergia cochinchinensis มี่คนไทยส่วนใหญ่คิดว่าแพงที่สุด ราคาเพียง 3,000,000 บาทต่อลูกบาศ์เมตรเท่านั้น””ความโชคดีที่คนไทยยังไม่รู้””คือพะยูงทุกชนิดคือไม้เมืองร้อนที่สามารถปลูกได้ในเมืองไทย และตอนนี้เริ่มมีหลายๆสวนมีต้นกล้าพะยูงไหหลำและพะยูงเวียตนามแบ่งจำหน่ายให้คนไทยได้ปลูกทดสอบกันแล้ว
นับเป็นเรื่องที่ดีกับประเทศของเรา ที่จะได้ปลูกพืชราคาสูง มีมูลค่าทางการตลาดสูงมาก…ตลาดใหญ่อย่างประเทศจีนมีความต้องการไม่จำกัด อาจขยับขึ้นเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญนำเงินตราเข้าประเทศได้เป็นล่ำเป็นสันในอนาคตอันใกล้นี้ก็เป็นได้
การลงทุนทุกอย่างมีความเสี่ยง ควรศึกษาข้อมูลให้ดีๆก่อนการตัดสินใจ และควรเริ่มปลูกทดสอบแต่น้อยๆก่อน ถ้าดีค่อยขยายเพิ่ม หรือถ้าไม่ดีจริงเราก็จะไม่เสียหาย อย่างน้อยๆไม่พะยูงทุกๆชนิดเนื้อไม้ลายสวยมากเราจะปลูกไว้ใช้เองหรือทำเป็นผลิตภัณฑ์สวยๆเพิ่มมูลค่าก่อนค่อยจำหน่ายได้ทั้งนั้นครับ
นี่แหละคือโอกาสของคนที่มองเห็นมัน อย่าใช้โอกาสเปลืองครับ ประเทศของเราใช้โอกาสเปลืองมานานมากแล้ว เดินไปข้างหน้ากันได้แล้วครับ ข้อมูลแน่นขนาดนี้แล้ว เรามาเปลี่ยนประเทศไทยกันครับ”
ขอขอบคุณ : Thoop Nakasen