เพียงดื่มน้ำสมุนไพรแก้วนี้ จะช่วยรักษา “โรคเก๊าท์” ให้หายได้ ลองเลย

0

เพียงดื่มน้ำสมุนไพรแก้วนี้ จะช่วยรักษา “โรคเก๊าท์” ให้หายได้ ลองเลย

โรคเก๊าท์ เป็นหนึ่งในโรคที่พบได้มากในร่างกายคนเราชนิดหนึ่ง เป็นโรคข้ออักเสบที่เกิดได้จากสภาวะที่ร่างกายของเรานั้นมีกรดยูริกสูงมากในเลือด มีการสะสมเป็นระยะเวลานาน จนทำให้กรดยูริกนั้นตกตะกอนอยู่ตามส่วนต่างๆของร่างกายเรา

ถ้ากรดยูริกสะสมตามผิวหนังจะทำให้มีปุ่มนูนขึ้นตามผิวหนัง แต่ถ้ากรดยูริกไปตกตระกอนที่ไต จะทำให้เกิดนิ่วในไต และไตเสื่อมได้ในที่สุด ในวันนี้เรามีข้อมูลดีดีมาฝากกัน คือ แค่ดื่มสิ่งนี้ไม่กี่แก้ว ก็ทำให้ความทรมานจากโรคเก๊าท์หายไปได้

น้ำชามะละกอ+น้ำมะพร้าว

– เอามะละกอดิบมาหนึ่งลูก ล้างให้สะอาด ไม่ต้องปอกเปลือก เอาเม็ดออก

– หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่ลงในหม้อ ใส่น้ำ 4 ถ้วย ต้มจนเดือด

– เปลี่ยนเป็นไฟอ่อนแล้วต้มไปอีก 2 นาที ปิดไฟ

– ใส่ใบชาที่ชอบลงไป 1 ช้อนชา ครึ่งชั่วโมงต่อมาเทน้ำชาออกมา ผสมกับน้ำมะพร้าว (ถ้าไม่มีน้ำมะพร้าวสดใช้น้ำมะพร้าวกระป๋องก็ได้)

– เทน้ำชามะพร้าวใส่ลงขวด ใช้เป็นเครื่องดื่มตลอดทั้งวัน แทนเครื่องดื่มชนิดอื่น

หมายเหตุ มะละกอที่เอามาใช้ต้องยังไม่สุก เปลือกยังเขียวอยู่ โดยปกติมะละกอจะสุดประมาณ 4 เดือน แต่ถ้าสุกแล้วก็ไม่มีผลในการรักษา มะละกอดิบควรจะถูกเก็บประมาณ 3 เดือน จะให้ผลดีที่สุด

ประโยชน์ชามะละกอ

จะเป็นการล้างลำไส้ ช่วยล้างระบบดูดซึม คือ ล้างคราบไขมันที่ผนังลำไส้ เนื่องจากการกินอาหารประเภทผัดน้ำมันเป็นประจำ คราบไขมันจะเกาะตัวที่ผนังลำไส้เป็นกาวเหนียวมานานแสนนาน จึงเกิดการขัดขวางการดูดซึมสารอาหาร และวิตามินที่เป็นประโยชน์เข้าสู่ร่างกาย

เมื่อระบบดูดซึมไม่ดี กินอาหารก็แต่ไม่ได้สารอาหาร เมื่อเป็นอย่างนี้นานวันเข้า ความป่วยไข้ก็จะมาเยื่ยมเยือนเรา แต่อย่างไรถึงร่างกายปกติ ไม่เจ็บไม่ป่วย ก็ควรล้างลำไส้เสียบาง เพื่อล้างคราบน้ำมันที่เคยกินอาหารประเภทผัดน้ำมันมานานหลายปีดีดัก ให้ลำใส้ใสสะอาดบ้าง

คนเราพออายุเพิ่มขึ้นทุกๆปี กินอาหารวันละหลายมื้อ ในมื้อหนึ่งๆ อาจจะมีอาหารที่กินแล้วร่างกายย่อยไปไม่หมดเกิดการสะสมบ่อยๆนานวัน นานปี ตามผนังลำไส้หรืออวัยวะที่เป็นระบบดูดซึมได้

โดยเฉพาะผู้ที่กินอาหารที่มีไขมันเป็นประจำนั้น หากไม่ออกกำลังกายช่วยให้ร่างกายเผาผลาญ หรือกินผักผลไม้สมุนไพร ช่วยย่อยช่วยล้างไปด้วยกันแล้วยิ่งมีความเสี่ยงที่เกิดการสะสมตามอวัยวะ โดยเฉพาะลำไส้

สาเหตุของโรคเกาต์คืออะไร?

โรคเกาต์เกิดจากการสะสมกรดยูริคที่มากเกินไปในร่างกาย กรดยูริคเป็นสารที่เกิดจากการสลายตัวของพิวรีน โดยพิวรีนจะถูกสะสมอยู่ในเนื้อเยื่อส่วนต่างๆของร่างกาย

พิวรีนมีอยู่ในอาหารหลายชนิด เช่นตับ ถั่วแห้ง และปลากะตัก ภายใต้สถานการณ์ปกติกรดยูริคจะถูกย่อยสลายในเลือด หลังจากนั้นไตจะขับออกมาทางปัสสาวะ

แต่อย่างไรก็ตามกรดยูริคสามารถสะสมในเลือดได้ในสถานการณ์ต่อไปนี้

ร่างกายผลิตกรดยูริคเพิ่มขึ้น ไตไม่สามารถกำจัดกรดยูริคได้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีพิวรีนมากเกินไป ถ้าในเลือดมีระดับของกรดยูริคสูง เรียกว่า ภาวะกรดในเลือดสูง (Hyperuricemia) คนส่วนใหญ่ที่มีภาวะกรดในเลือดสูง ไม่ได้เป็นโรคเกาต์ แต่ถ้าเกิดการตกผลึกของกรดยูริคที่มากเกินไปในร่างกาย ก็จะเกิดเป็นโรคเกาต์

ถ้าคุณมีสิ่งต่อไปนี้ โอกาสที่คุณจะเป็นโรคเกาต์จะสูงขึ้น

ในครอบครัวมีคนเป็นโรคเกาต์ เป็นผู้ชาย น้ำหนักตัวเกิน ดื่มเหล้ามากเกินไป รับประทานอาหารที่มีพิวรีนมากเกินไป สัมผัสกับตะกั่วในสิ่งแวดล้อม ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะ ใช้ยาขับปัสสาวะ แอสไพริน Cyclosporine หรือ Levodopa และยาอื่น ๆ ใช้วิตามินไนอาซิน

คุณหมอเจีย เจ้าของหนังสือมากมายแนะนำว่า เพียงแค่ผู้ป่วยโรคเกาต์ ดื่มน้ำมะพร้าวสดวันละ 1-2 ลูก อาการปวดเกาต์ก็จะหายไปใน 1-2 ชั่วโมง ถ้าดื่มติดต่อกัน 2-3 เดือน อาการก็จะหายไป ถ้าไม่มีมะพร้าวสด น้ำมะพร้าวกระป๋องก็ใช้แทนได้ แต่มะพร้าวสดก็ยังให้ผลดีที่สุด

หลายๆ คนกังวลว่ามะพร้าวจะเย็นเกินไปมั้ย จริงๆแล้วไม่ต้องคิดมาก เพราะผู้ป่วยโรคเกาต์ ร่างกายจะค่อนข้างแห้ง พิวรินจะถูกสะสมในร่างกายมากขึ้นเรื่อยๆ น้ำมะพร้าวจะช่วยชำระหินเกาต์ที่สะสมอยู่ให้ออกมาได้ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ยาฝรั่งยังทำไม่ได้

โรคเกาต์เป็นโรคที่ผู้ป่วยทรมานมาก ตอนที่มันมีอาการ เรียกได้ว่าปวดจนอยากตาย อาการของโรคนี้เหมือนแกล้ง มักจะกำเริบเวลากลางดึก

ขอบคุณข้อมูลจาก : liekr.com

แสดงความคิดเห็น

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่