กินขิงทุกวัน วัละ 1-2 ชิ้นเล็กๆ มีประโยชน์มากๆ แนะให้กินช่วงเช้า
สำหรับคนไหนที่ชอบรับประทานขิงเป็นประจำ ต้องบอกเลยว่าจะต้องทำให้สุขภาพของคุณดีอย่างแน่นอน เพราะว่าขิงมีประโยชน์สารพัด เป็นพืชผักสมุนไพรที่คนสมัยก่อนมักนิยมนำมาประกอบอาหาร มีดีต่อสุขภาพมากๆ
ลดอาการท้องอืด
หากคุณกำลังรู้สึกว่ามีอาการท้องอืดท้องเฟ้อ หรือว่าอาหารไม่ย่อย แนะนำว่าให้จิบน้ำขิง หรือว่ากินขิงสดก็ได้จะทำให้คุณรู้สึกดีขึ้น แต่ถ้าหากคุณเกิดอาการท้องอืดจากการกินถั่วแล้วล่ะก็ ในครั้งหน้าแนะนำให้ลองฝานขิงบางๆ ลงไปในอาหารที่มีถั่ว ก็จะช่วยลดอาการท้องอืดได้เป็นอย่างดีเยี่ยม เพราะขิงมีฤทธิ์ร้อนที่ช่วยในเรื่องของการขับลม กระตุ้นการทำงานของระบบภายในให้ดีขึ้นได้
แก้ปัญหาผมขาดร่วง
สำหรับใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับเส้นผมขาดหลุดร่วง แนะนำว่าให้เหง้าขิงสดไปผิงไฟ หลังจากนั้นก็นำมาตำให้ละเอียด แล้วก็นำมาพอกบริเวณผม ทำแบบนี้วันเว้นวันจนครบ 2 สัปดาห์ จะทำให้เส้นผมของคุณดีขึ้น เส้นผมแข็งแรงและผมที่ร่วงก็จะลดลง โดยการหมักจะต้องหมักทิ้งไว้ประมาณอย่างน้อย 30 นาที สุขภาพผมดีขึ้น ผมไม่ขาดง่าย
ช่วยบรรเทาอาการไมเกรน
จากการศึกษาวิจัยพบว่า การรับประทานขิงในตอนที่คุณมีอาการไมเกรนหรือว่ามีอาการปวดศีรษะข้างเดียว จะทำให้ลดความเจ็บลงได้ในระดับหนึ่ง เพราะขิงจะช่วยจัดการกับอาการอักเสบต่างๆที่เกิดขึ้นได้ และนอกจากนี้มีงานศึกษาวิจัยอื่นๆแสดงให้เห็นอีกว่า ขิงสามารถช่วยจัดการกับไขข้อที่มีอาการอักเสบได้ เมื่อรับประทานขิงผงเป็นประจำทุกวัน
ช่วยป้องกันม ะ เ ร็ ง
สิ่งนั้นมีคุณสมบัติช่วยในเรื่องของการต่อสู้กับม ะ เ ร็ ง โดยการศึกษาวิจัยพบว่าขิงทำให้เซลล์สลายไป เพราะว่าในขิงมีสารชนิดหนึ่งจากธรรมชาติที่ไปช่วยกระตุ้นเอนไซม์ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันการเกิดมะ เ ร็ งได้ในระดับหนึ่ง
ช่วยบรรเทาอาการคลื่นใส้
สิ่งนั้นสามารถช่วยบรรเทาอาการคลื่นใส้ได้ โดยมีชาวเอเชียได้ทำการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับขิง พบว่าสามารถบรรเทาอาการเมารถเมาเรือได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังช่วยบรรเทาอาการอาเจียนและช่วยจัดการกับอาการหน้ามืดตัวร้อนได้ดี
ช่วยลดน้ำตาลในโลหิต
มีการศึกษาใหม่ได้ออกมาพบว่า ขิงผงสามารถช่วยให้น้ำตาลในโลหิตของคนลดได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาในเรื่องของเ บ า ห ว า นชนิดที่ 2 แต่ทางที่ดีควรที่จะปรึกษาแพทย์และได้คำแนะนำก่อน เมื่อรับประทานขิงแล้วควรที่จะติดตามผลระดับน้ำตาลอย่างใกล้ชิด แต่ควรที่จะรับประทานเก่งในระดับที่พอดีไม่ควรมากเกินไป
เขียน / เรียบเรียงโดย : Postsod
ข้อมูลส่วนหนึ่งจาก : rd, livestrong, kapook