9 สมุนไพร ใช้รักษาโรคกรดไหลย้อน.. อย่าละเลยก่อนจะกลายเป็นมะเร็งหลอดอาหาร
โรคกรดไหลย้อน เป็นภาวะที่น้ำย่อยในกระเพาะอาหารนั้นซึ่งจะมีฤทธิ์เป็นกรด ได้ไหลย้อนกลับไปในหลอดอาหารและช่วงลำคอ ทำให้เกิดอาการระคายเคือง และปวดแสบปวดร้อนกลางอก ลำคอ ทำให้กล่องเสียของเราอักเสบได้
วันนี้เราได้มีสมุนไพรที่จะช่วยรักษา โรคกรดไหลย้อน มาฝากเพื่อนๆกัน จะมีอะไรบ้าง มาดูกันเลยค่ะ
กะเพรา (Ocimum tenuiflorum L.) ให้ใช้กะเพรา 1 กำ (ทั้งต้นและใบ ถ้าเป็นกะเพราแดงจะได้ผลดีกว่า) หรือประมาณ 1 ขีด นำมาล้างน้ำให้สะอาด จากนั้นให้ใส่น้ำ 2-3 ลิตรลงในหม้อต้มแล้วนำกะเพราใส่ลงไปทั้งหมด ปิดฝาหม้อ ใช้ไฟปานกลางค่อนข้างอ่อน ต้มนานประมาณ 20 นาที (ควรกะปริมาณไฟที่ต้มให้น้ำเดือดภายใน 15-20 นาที) พอน้ำเดือดให้ปิดแก๊ส ใช้น้ำที่ได้มาดื่มหลังอาหารครั้งละ 1 แก้ว (250 มิลลิลิตร) ส่วนที่เหลือไม่ต้องอุ่นหรือต้มซ้ำ แต่ให้ใช้วิธีแช่เย็นไว้ดื่มแทน (รอให้หายเย็นแล้วจึงค่อยดื่ม) ถ้าอาการหนักให้ดื่มประมาณ 6-8 แก้ว และหลังจากวันแรกที่ดื่ม ถ้าอาการทุเลาให้ลดปริมาณน้ำกะเพราลง ดื่มเฉพาะหลังอาหารมื้อละ 1-2 แก้ว แต่ไม่ควรเกิน 4 แก้วต่อวัน
กระเจี๊ยบเขียว (Abelmoschus esculentus (L.) Moench) ใช้ฝักกระเจี๊ยบมาต้มในน้ำเกลือแล้วใช้รับประทานแก้อาการ
ขมิ้นชัน (Curcuma longa L.) เป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณรักษาอาการท้องอืดและช่วยขับน้ำดีเพื่อย่อยไขมัน จึงทำให้อาหารไม่ตกค้างในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กนานเกินไป อีกทั้งยังช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหารได้อีกด้วย โดยให้รับประทานครั้งละ 1 ช้อนชาสำหรับแบบผง หรือครั้งละ 3 แคปซูล (แคปซูลละ 500 มิลลิกรัม) ก่อนอาหารประมาณ 30 นาที-1 ชั่วโมง วันละ 4 ครั้ง เช้า กลางวัน เย็น และก่อนนอน
ขึ้นฉ่าย (Apium graveolens L.) ช่วยบำรุงระบบย่อยอาหารในร่างกายและช่วยลดอาการของโรคที่เกี่ยวกับกระเพาะอาหาร ซึ่งรวมถึงโรคกรดไหลย้อน
โทะ (Rhodomyrtus tomentosa (Aiton) Hassk.) ในประเทศมาเลเซียจะใช้รากและใบโทะ ต้มเป็นยารักษาอาการแสบยอดอกจากกรดไหลย้อน
ลูกยอ (Morinda citrifolia L.) นำมาทำเป็นเครื่องดื่ม ใช้คู่กับหัวหญ้าแห้วหมู อย่างแรกให้เลือกลูกยอห่าม นำมาหั่นเป็นแว่น ๆ ไม่บางหรือหนาจนเกินไป แล้วนำไปย่างไฟอ่อน ๆ (ปกติลูกยอจะมีกลิ่นเหม็น) โดยย่างให้เหลืองกรอบและย่างจนหมดกลิ่นเหม็นจริง ๆ จึงจะได้ตัวยาที่หอมน่ารับประทาน (การย่างนอกจากจะช่วยดับกลิ่นแล้วยังช่วยเพิ่มความเป็นด่างให้กับตัวยาด้วย จึงช่วยซับกรดและลดกรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ) สำหรับหญ้าแห้วหมูให้เอาส่วนหัวใต้ดินที่เราเรียกว่าหัวแห้วหมู นำไปคั่วให้เหลืองและมีกลิ่นหอม เมื่อเสร็จแล้วให้ตั้งไฟต้มน้ำจนเดือดแล้วเอาตัวยาทั้งสองชนิดลงไปต้มพร้อมกัน ใส่น้ำตาลกรวดพอหวาน ทิ้งไว้สักพักแล้วยกลงจากเตา ตัวยาที่ได้นี้จะมีกลิ่นหอม รอจนอุ่นแล้วนำมารับประทาน ส่วนที่เหลือให้กรองเอาแต่น้ำแช่ไว้ในตู้เย็นแล้วค่อยอุ่นรับประทาน ให้ดื่มติดต่อกัน 1 สัปดาห์แล้วสังเกตอาการ (งานวิจัยระบุว่า สมุนไพรชนิดนี้มีสารสโคโปเลติน (Scopoletin) เป็นส่วนประกอบ สารชนิดนี้สามารถช่วยลดการอักเสบของหลอดอาหารจากการไหลย้อนของกรดได้ผลดีพอ ๆ กับยามาตรฐาน คือ รานิทิดีน (Ranitidine) และยาแลนโซพราโซล (Lansoprazole) เนื่องจากมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ต้านการหลั่งของกรด ต้านการเกิดแผล และทำให้การบีบตัวของระบบทางเดินอาหารดีขึ้น โดยมีผลต่อระบบประสาทที่เกี่ยวข้องโดยตรง อีกทั้งยังสามารถเพิ่มการดูดซึมของยารานิทิดีนได้ด้วย ลูกยอจึงเหมาะแก่การนำมาใช้เป็นสมุนไพรสำหรับรักษาอาการกรดไหลย้อนเป็นอย่างยิ่ง)
หญ้าลิ้นงู (Oldenlandia corymbosa L.) ชาวอินเดียจะใช้หญ้าลิ้นงูทั้งต้นนำมาต้มในนมกับน้ำตาลเพื่อใช้เป็นยาบรรเทาอาการปวดแสบปวดร้อนที่หน้าอกอันเนื่องมาจากกรดไหลย้อน
ว่านกาบหอย (Tradescantia spathacea Sw.) ให้ใช้ใบว่านกาบหอยแครงและใบเตยสด อย่างละเท่ากัน นำมาต้มกับน้ำจนเดือด ใช้ดื่มต่างน้ำทั้งวัน วันละ 3-4 ครั้ง ครั้งละครึ่งแก้ว โดยให้ผสมกับน้ำผึ้ง 1 ช้อนชา น้ำมะนาว 1 ช้อนชา และเกลือป่นอีกเล็กน้อย แล้วอาการของกรดไหลย้อนจะค่อย ๆ ดีขึ้น
ย่านาง (Limacia triandra Miers) น้ำใบย่านางคั้นสดมีสรรพคุณหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือรักษาอาการกรดไหลย้อน
ขอบคุณข้อมูลจาก : http://meesara.club