ไม่เคยรู้!! กระเทียมที่มีหน่องอกออกมา สุดยอดสรรพคุณบำรุงหัวใจ ป้องกันมะเร็ง

0

ไม่เคยรู้!! กระเทียมที่มีหน่องอกออกมา สุดยอดสรรพคุณบำรุงหัวใจ ป้องกันมะเร็ง

ขึ้นชื่อว่า กระเทียม ทุกคนก็คงรู้ว่ามีประโยชน์ต่อร่างกายของเราอย่างมาก เรามักนิยมใช้กระเทียมเป็นเครื่องเทศที่ใส่ในอาหารได้หลายชนิด ทั้งใช้หมัก ทอด หรือผัด ทุกบ้านก็ต่างใช้กระเทียมกันทั้งนั้น

และวันนี้จะพาทุกคนไปรู้จักกับ กระเทียมที่มีหน่องอกออกมา คนส่วนใหญ่มักทิ้ง เห็นได้ชัดว่านี่เป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ เนื่องจากกะเทียมที่มีหน่องอกออกมานั้น ประโยชน์เยอะมาก อัดแน่นไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่นสารอัลลิซิน (Allicin) แอลลิอิน (alliin) อัลลิล ไดซัลไฟด์ (allyl disulfide) ดังนั้นกระเทียมที่แตกหน่อจึงมีประโยชน์มากกว่ากระเทียมสดทั่วๆ ไป มาดูกันเลยครับ

ประโยชน์ของกระเทียมขึ้นหน่อ

1. ช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน

กระเทียมขึ้นหน่อมีความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันและป้องกันโรคหวัดและการติดเชื้อได้อย่างดีเยี่ยม

2. สุขภาพหัวใจ

กระเทียมขึ้นหน่อมีสารเคมีที่ช่วยยับยั้งการทำงานของสารก่อมะเร็งและช่วยเพิ่มการทำงานของเอนไซม์และยังช่วยป้องกันการสะสมของคราบจุลินทรีย์ เนื่องจากสารตะกั่วจะทำให้หัวใจวายและโรคหัวใจ กระเทียมที่ขึ้นหน่อจะช่วยปกป้องคุณจากโรคที่เป็นอันตรายร้ายแรงถึงชีวิตคุณได้

3. ป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง

Ajoene เป็นสารที่พบอยู่ในกระเทียม ซึ่งสารชนิดนี้ช่วยขยายหลอดเลือดแดงและป้องกันการแข็งตัวของเลือดได้ดี นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยไฟโตนิวเทรียนท์ ( Phytochemical) ที่ยับยั้งการอุดตันของเส้นเลือด

4. อาหารเป็นพิษ

สารต้านอนุมูลอิสระในกระเทียมขึ้นหน่อสามารถต่อสู้กับเชื้อไวรัสและเชื้อราได้อย่างน่าอัศจรรย์ ในกรณีของอาหารเป็นพิษมันจะช่วยบรรเทาอาการปวดและท้องร่วงอีกทั้งยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากๆ อีกเช่นกัน

5. ป้องกันมะเร็ง

กระเทียมขึ้นหน่อช่วยกระตุ้นการผลิตสารเคมีจากพืชซึ่งจะช่วยป้องกันการเกิดเซลล์มะเร็งและเข้าไปขัดขวางการทำงานของสารก่อมะเร็ง อีกทั้งยังอัดแน่นไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งจะช่วยป้องกันโรคร้ายแรงนี้ได้

6. ป้องกันการแก่ก่อนวัย

สารต้านอนุมูลอิสระในกระเทียมขึ้นหน่อนี้จะช่วยต่อต้านริ้วรอย รวมถึงริ้วรอยที่เกิดก่อนวัยได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก

เพราะแบบนี้เองเมื่อคุณพบเห็นกระเทียมแตกหน่ออย่าโยนมันทิ้งเด็ดขาด
มันให้ประโยชน์เยอะมาก สรรพคุณเพียบ

ขอบคุณข้อมูลจาก : healthyfoodhouse.com

แสดงความคิดเห็น

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่