เมนูทอดน้ำปลา สูตรที่ไม่ใช้น้ำมัน เนื้อนุ่ม หอม อร่อยมาก
สำหรับเมนูห มูทอดน้ำปลา เรียกได้ว่าเป็นเมนูสุดโปรดของใครหลายๆคนเลยก็ว่าได้ และในวันนี้เราได้มี 2 สูตรมาแจกให้กับเพื่อนๆได้ทำกัน เป็นสูตรที่ไม่ใช้น้ำมัน มีเนื้อนุ่ม มีความหอมเครื่องเทศ และที่สำคัญมีรสชาติที่อร่อยมาก มาพร้อมกับเคล็ดลับการหมั กห มูแบบต่างๆ เรามาดูกันว่าจะต้องเตรียมส่วนผสมอะไร และขั้นตอนการทำอย่างไรบ้ าง
สิ่งที่ต้องเตรียม
1 เนื้อห มูตรงส่วนที่เขานำมาทำคอห มู 450 กรัม
2 น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีในการทำ
1 ในตอนแรกให้เราทำการนำเนื้อห มูมาตัดหนังออก แล้วนำไปล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อย
2 จากนั้นให้เราทำการตั้งกระทะที่ไฟระดับปานกลาง นำสามชั้นลงไปในกระทะโดยที่ไม่ต้องใส่น้ำมัน ความมันของเนื้อห มูจะออกมาเอง ให้เราทำการย่า งข้างใดข้างหนึ่ งก่อนให้สุกดี แล้วจากนั้นให้กลับด้าน
3 เมื่อสุกทั้งสองด้าน ให้เราทำการรีดน้ำมันออกพอน้ำมันออกเกือบหมดแล้ว
ให้เราใช้กรรไกรตัดออกเป็นชิ้นเล็กๆพอดีคำ แล้วทำการเทน้ำมันออกโดยเหลือเอาไว้เล็กน้อย
4 ขั้นตอนถัดมาให้ใส่น้ำปลาประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ อย่าใส่มากจนเกินไปเดี๋ยวจะเค็ม จากนั้นให้เราทำการคลุกเคล้าส่วนผสมให้เข้ากันดีเป็นอันเสร็จ พร้อมจัดใส่จานได้เลย
วัตถุดิบต่างๆ ที่นำมาห มั ก
การหมั กก็เป็นสิ่งสำคัญเหมือนกัน ที่เราควรจะต้องรู้ไว้ การเลือกวัตถุดิบที่ใช้ในการหมักนั้น จะช่วยให้เนื้อห มูของคุณมีความนุ่ม ทานได้ง่าย ทานอย่างอร่อย หากเลือกถูกก็มีชัยไปมากกว่าครึ่งแล้ว และที่สำคัญเราใช้วัตถุดิบที่มีติดครัวกันอยู่แล้ว
1 น้ำมันงา ซอสหอยนางรม ซีอิ๊วขาว และซอสปรุงรส
นอกจากเครื่องปรุงเหล่านี้จะใส่เพื่อเพิ่มกลิ่นและรสชาติให้กับเมนูของเราแล้ว เครื่องปรุงต่างๆ เหล่านี้จะแทรกเข้าไปในเนื้อห มูทำให้รสสัมผัสชุ่มชื่นขึ้นด้วย
2 แป้งมันสำปะหลัง หรือแป้งข้าวโพด
เมื่อนำแป้งลงไปห มั ก แป้งเหล่านี้จะไปเคลือบผิวของเนื้อห มูทำให้เนื้อนุ่มแบบเด้งๆ นุ่มละลายในปากนั่นเอง
3 นมสด หรือกะทิ
เมื่อนำเนื้อห มูที่หมักกับนมสดหรือกะทิไปปรุงอาหาร ระหว่างนั้นนมสดหรือกะทิจะซึมออกมาจากเนื้อทำให้มีความนุ่มหอมมันยิ่งขึ้น น่าทานมากขึ้น
4 ไข่ขาว หรือไข่ไก่
เพราะสา รในไข่ไก่จะเข้าไปทำการย่อยโปรตี นในเนื้อห มู ทำให้มีความนิ่มมากแต่ไม่ยุ่ยจนเกินไป
5 หอมใหญ่
สับหอมใหญ่แล้วใส่ลงไปรวมกับเนื้อ เพราะในหอมใหญ่ดิบจะมีเอ นไ ซ ม์ที่จะช่วยทำให้เนื้อนิ่มขึ้น แต่ก็ต้องใช้เวลาในการห มั ก 2-3 ชม.
ขอบคุณข้อมูลจาก : อร่อยพุง , cooking.kapook