พนักงาน รปภ ทำงานมา 30 ปี แต่รู้สึกเเปลกใจ จึงเดินเข้าตรวจดูภายใน

0

พนักงาน รปภ ทำงานมา 30 ปี แต่รู้สึกเเปลกใจ จึงเดินเข้าตรวจดูภายใน

เมื่อไม่นานมานี้มีเหตุการณ์หนึ่งของพนักงาน ซึ่งเป็นพนักงานทำโรงงานเกี่ยวกับการผลิตอาหาร ผลิตภัณฑ์อาหารต่างๆ วันหนึ่งก่อนที่เขาจะเลิกงาน เขาได้เข้าไปเช็คของในสต๊อกเป็นรอบสุดท้ายก่อนที่จะทำการกลับบ้าน

แต่อยู่ๆประตูห้องเย็นก็ดันบังเอิญมาปิดพอดี เขาพยายามแล้วที่จะเปิดประตูหนีออกไป แต่กลับเปิดไม่ออก เพราะว่าเป็นประตูใหญ่ และหนักมาก ทำให้เขาถูกขังอยู่ในห้องเย็นนี้ และโชคที่ไม่ดีเลย เขาไม่ได้เอามือถือติดตัวเข้ามาด้วย จะขอความช่วยเหลือจากใครก็ไม่ได้เลยนอกจากนั่งรออย่างเดียว

ในขณะที่เพื่อนร่วมงานคนอื่นต่างก็พากันทยอยออกจากโรงงานนี้เพื่อที่จะเดินทางกลับบ้าน ชายคนนี้ก็พยายามตะโกนเสียงดังเพื่อขอความช่วยเหลือจากคนอื่น หวังแค่ว่าจะมีใครได้ยินเขาบ้างเล็กน้อยก็ยังดี

ผ่านไปแล้วประมาณ 5 ชั่วโมง เขาถูกขังไว้ในห้องแช่เย็นนี้ เขาเริ่มที่จะหมดหวังว่าจะมีคนเข้ามาช่วยแล้วได้ยินเสียงของเขา หากจะมีคนมาเปิดประตูให้เขาอีกทีก็คงเช้าวันถัดไป และเมื่อถึงเวลานั้นเขาก็คงไม่มีชีวิตอยู่แล้วอย่างแน่นอน เมื่อคิดได้แบบนี้ เขาก็ได้แต่นั่งกอดเข่าตัวเองแล้วก็ร้องไห้ออกมาอย่างคนหมดหวังและสิ้นหวัง

แต่อยู่ๆ ในขณะที่เขากำลังหมดกำลังใจ หมดแรงใจในการพยายามใช้ชีวิต ก็มีพนักงานรักษาความปลอด ภัยของโรงงานแห่งนี้ ได้มาเปิดประตูห้องแช่แข็ง และเข้ามาช่วยได้ทันท่วงเวลาพอดี เขาเลยรีบถามคนที่มาช่วย ด้วยความสงสัย ว่าทำไมถึงมาเปิดประตูให้ผมได้ ทั้งที่เวลานี้ไม่น่าจะมีใครอยู่แล้ว

โดยพนักงานรักษาความปลอด ภัยคนนี้ได้ตอบไปว่า ผมทำงานอยู่ที่โรงงานนี้มามากกว่า 30 ปีแล้ว ผมเห็นพนักงานหลายร้อยคนเข้าออกโรงงานนี้ทุกวัน หลายคนไม่เคยทักทายผมเลย ไม่เคยคิดว่าผมมีตัวตนอยู่ในโรงงานนี้ด้วยซ้ำไป หลายคนคิดแค่ว่า ผมเป็นแค่พนักงานรักษาความปลอด ภัยคนหนึ่ง ที่ไม่มีตำแหน่งใหญ่โต

แต่คุณก็คือคนหนึ่งในไม่กี่คนที่เข้าออกโรงงานแห่งนี้ แล้วก็ทักทายผมทุกวัน

แต่ในวันนี้ผมรู้สึกแปลกใจ ตรงที่ว่าตอนเช้าคุณทักทายผมก่อนที่จะเข้าโรงงาน แต่มืดค่ำแล้วผมก็ยังไม่เห็นคุณเลิกงานเลย ผมจึงคิดว่าจะต้องมีอะไรผิดปกติอย่างแน่ จึงได้ออกเดินตรวจสอบทั่วโรงงาน แล้วก็มาเจอกับเสียงเล็กๆของคุณที่ห้องเย็นห้องนี้แหละ

บทเรียนนี้เป็นบทเรียนที่สำคัญของเหตุการณ์นี้ ได้สอนเอาไว้ให้รู้ว่า

บนโลกใบนี้ แม้ว่าไม่มีใครที่จะเลือกเกิดได้ ดังนั้นแล้วทุกคนต่างมีคุณค่าในตัวเองอยู่แล้ว อย่าได้พยายามไปดู ถูกคนอื่น หรือมองว่าคนอื่นเขาต้อยต่ำกว่า เพียงแค่ว่าตำแหน่งฐานะต่างกัน แต่จงที่จะนอบน้อมถ่อมตนเองกับผู้อื่นอย่างเท่าเทียม ทุกคนเกิดมาย่อมมีฐานะเสมอภาคกัน

เมื่อเราให้ความรักและให้ความนับถือต่อผู้อื่น ผู้อื่นก็ย่อมที่จะมอบความรักและความนับถือกลับมาสู่ตัวเราเช่นเดียวกัน ชีวิตของเรานั้นไม่มีอะไรที่จะแน่นอน การกระทำเล็กๆน้อยๆอาจจะส่งผลกับชีวิตของเราในอนาคตก็ได้ใครจะไปรู้ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง บางครั้งอาจจะมาในทิศทางที่เราคาดไม่ถึง ฉะนั้นแล้ว จงสร้างมิตรไมตรีเอาไว้ ดีกว่าการสร้างศัตรู จงจำเอาไว้

เขียน / เรียบเรียงใหม่โดย : Postsod

ขอขอบคุณ : กลุ่มเฟสเล่าข่าว

ไม่อนุญาตให้คัดลอก ทุกกรณี บทความมีลิขสิทธิ์

แสดงความคิดเห็น

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่