ลายมือ กากบาทฝ่ามือ บ่งบอกมีวาสนา ความหมายดีสุดเลย
สำหรับใครที่ชอบดูหรือชอบคำทำนายในเรื่องของโชคชะตานั้นในปัจจุบันก็มีให้เลือกดูด้วยกันหลายศาสตร์อย่างมากไม่ว่าจะเป็นจากวันเดือนปีเกิด จากการทำนายไพ่ หรือถ้าเป็นแบบดั้งเดิมก็คือการทำนายโชคชะตาจากลายนิ้วมือนั่นเอง ซึ่งในยุคสมัยนี้เราก็สามารถหาข้อมูลแล้วมาดูลายมือด้วยตัวเองได้บ้าง
และอาจเคยได้ยินได้ฟังกันมาบ้างในเรื่องของการมีเส้นที่เป็นลายกากบาทอยู่บนฝ่ามือนั้นไม่ว่าจะอยู่ที่ข้างซ้ายหรือข้างขวาวันนี้เราได้นำความหมายของการมีเส้นกากบาทอยู่บนฝ่ามือนั้นมาให้ได้ทราบกันว่ามีความสำคัญอย่างไร จะโชคหรือไม่
โดยคนที่มีเส้นกลางฝ่ามือที่เป็นกากบาท ไม่ว่าจะอยู่ทางมือซ้ายหรือมือขวา หรือว่ามีทั้งสองมือก็ดี มักจะเป็นคนที่มีเหตุมีผล เป็นคนที่ให้ความเห็น หรือเป็นที่ปรึกษาให้กับคนอื่นได้ดี ส่วนใหญ่ลายมือเช่นนี้มักจะเกิดขึ้นกับเจ้าอาวาสชื่อดัง เกจิพระอาจารย์ ครูบาอาจารย์ หรือผู้ที่ช่ำชองชำนาญเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เป็นผู้ที่มีมักมีจิตใจหนักแน่นและมีจุดยืนของตนเองยิ่งอยู่ในบุคลที่มีความเข้มแข็งอยู่แล้วจะยิ่งชอบค้นหาแสวงหา
ทางพระเรียกว่า เส้นผลบุญและเวรกร รมที่ทำกันมาตั้งแต่ชาติปางที่แล้ว บางที่ยังหมายถึงคนระลึกชาติได้ด้วยความรู้สึก จึงยังต้องมาทำหน้าที่ช่วยผู้คน บางคนบวชพระไม่สึก บางคนทำหน้าที่ครู บางคนไปเป็นหมอรวมทั้งหมอดู เพราะยังหมายถึงซิกเซนส์ลางสังหรณ์ได้ด้วย บางคนที่เชื่อเรื่องมีองค์หรือคนทรงเจ้าที่มีองค์ในอยู่ในตนเอง
คนที่มีเส้นกากบาทกลางฝ่ามือมักจะแคล้วคลาดอยู่ตลอด ไม่ค่อยมีศัตรู เพราะศัตรูมักจะแพ้ภัยตนเองหรือศัตรูกลับมาเป็นมิตรอยู่ตลอด เขาเรียกว่ามีพระเกตุคุ้มครอง บางท่านมักจะพูดจาตรงๆ ไม่อ้อมค้อม
ส่วนใหญ่ลายมือที่มีเส้นกากบาทกลางฝ่ามือจะเชื่อมทำให้ดูเป็นลายมือที่ขาดอยู่แล้ว แต่มีสติมีปัญญากล้าคิดกล้าตัดสินใจ ในช่วงเวลาที่จะต้องใช้ความร้อนหรือความกล้าหาญก็จะใช้เป็น และเวลาที่จะเย็นก็จะเย็นโดยเป็นเหมือนน้ำแข็งเลย
แต่สำหรับบางคนที่มีความอ่อนไหวในรักมากๆ จะคล้ายรำคาญหรือระแวงเรื่องความรักได้ง่ายทำให้หลายๆ คนไม่ประสบความสำเร็จในเรื่องของความรัก แต่ไม่ทุกคนไป เส้นกากบาทกลางฝ่ามือคือเส้นสัมผัสที่หก หรือคนช่างสังเกตถ้านำไปส อนใครหรือเป็นห่วงใครได้ดี แต่ถ้านำมาใช้กับตนเองโดยเรื่องความรักถ้าไม่ตลกนำหรือหัวเราะนำก็จะกลายเป็นคนหวาดระแวงได้ง่าย แต่หากมองข้ามเรื่องเล็กๆน้อยของคนรักก็จะไม่หวาดระแวงกลับกลายเป็นเอาใจเก่ง มีความสุข ดูแลครอบครัวเป็น
ซึ่งเรื่องแบบนี้ก็เป็นความเชื่อส่วนบุคคลทั้งนี้แล้วหากเราดำเนินชีวิตด้วยความมีสติ มองทุกอย่างเป็นเหตุเป็นผลก็จะทำให้ชีวิตของเราในแต่ละวันนั้นมีความสุขได้
ที่มา : Postsara,รักยิ้ม