เลี่ยงได้ควรเลี่ยง 4 อาหาร ยิ่งกินเข้าไป ยิ่งทำให้กระดูกเสื่อม มีอะไรบ้างไปดู

0

เลี่ยงได้ควรเลี่ยง 4 อาหาร ยิ่งกินเข้าไป ยิ่งทำให้กระดูกเสื่อม มีอะไรบ้างไปดู

คนในยุคปัจจุบันได้หันมาดูแลตัวเองกันเป็นส่วนใหญ่ แต่ส่วนมากที่เราเห็นอยู่นั้น เริ่มต้นจากการดูแลตัวเองจากภายนอก เช่น ดูแลเรื่องของผิวพรรณ การออกกำลังกาย แต่ลืมไปหรือเปล่า ว่าในเรื่องของอาหารการกินนี่แหละ ที่เป็นปัจจัยสำคัญหลัก ที่จะทำให้เรามีสุขภาพดีและสุขภาพที่แข็งแรง จากภายในสู่ภายนอก

วันนี้เราจะมาพูดถึงในเรื่องของ “ปัญหาความเสื่อมของกระดูกและข้อ” มักเพิ่มมากขึ้นตามวัย เนื่องจากร่างกายมีการสลายของกระดูกมากขึ้น ตามอายุที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม สาเหตุส่วนมากนั้นเกิดจากพฤติกรรมการดำเนินชีวิตประจำวันของเรา กระดูก เรียกได้ว่าเป็นอวัยวะที่สำคัญมากต่อร่างกาย ซึ่งหลายคนที่ดูแลสุขภาพมันจะหาอาหารเสริมจำพวกแคลเซียม หรืออาหารที่มีประโยชน์มาบำรุงร่างกาย

แต่รู้หรือไม่ว่าอาหารที่เราทานอยู่ทุกวันนี้ส่วนใหญ่ทำลายกระดูกได้ด้วย เพราะกระดูกเมื่อโดนทำลายจนเปราะบาง มีผลต่อความเจ็บป่วยต่อร่างกายได้หลายโรค โดยเฉพาะผู้หญิงที่อายุ 30 ปีขึ้นไป ความหนาแน่นของกระดูกจะลดลง เพราะฉะนั้นเรามาดูกันซิว่า อาหารอะไรบ้างที่รับประทานเข้าไปแล้วสามารถทำลายกระดูกได้

1. กาแฟ

จากการวิจัยของกระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกาเผยว่า การดื่มกาแฟมากกว่าวันละ 2 ถ้วยมีผลทำให้กระดูกเปราะบางได้ เพราะคาเฟอีนในกาแฟจะทำให้ร่างกายขับแคลเซียมออกมาทางปัสสาวะได้

2. น้ำอัดลม

อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าน้ำอัดลมไม่มีประโยชน์ต่อร่างกาย แถมมันยังมีผลทำให้กระดูกหักง่าย ซึ่งผู้ที่ดื่มน้ำอัดลมเป็นประจำจะมีโอกาสเกิดโรคกระดูกพรุนได้มากกว่าผู้ที่ไม่ดื่ม 3-4 เท่า

3. โปรตีนสูงจากเนื้อสัตว์

จากการศึกษาพบว่าคนที่รับประทานอาหารโปรตีนสูงนานๆ จะมีความหนาแน่นของกระดูกบางกว่าคนที่รับประทานอาหารแบบปกติ

4. อาหารเค็ม

การรับประทานอาหารที่มีรสเค็มมากๆ นอกจากจะมีผลเสียต่อไตแล้ว อาจส่งผลให้ร่างกายขับแคลเซียมออกมาทางปัสสาวะมากขึ้นด้วย ทำให้กระดูกอ่อนแอและไม่แข็งแรงเท่าที่ควร

แผนการชะลอความเสื่อมของกระดูกและข้อ

1. บริหารร่างกายให้เหมาะสม

นอกจากการออกกำลังกายจะช่วยชะลอวัยแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แก่ร่างกายด้วย การเพิ่มความแข็งแรงให้กับร่างกาย จะเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับข้อต่อ ปรับโครงสร้างกระดูก สร้างกล้ามเนื้อที่แข็งแรง ช่วยรองรับกระดูก และช่วยลดอาหารปวดได้ด้วย แต่อย่างไรก็ตาม การออกกำลังกายหนักเกินไป อาจกลายเป็นการสร้างภาระให้กับข้อกระดูก จนเกิดปัญหาข้อกระดูกเสื่อมเร็วขึ้นได้

2. เลือกกินอย่างถูกวิธี

การรับประทานสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อโครงสร้างและการเคลื่อนไหวของกระดูกและข้อ นับว่าเป็นการให้รางวัลชีวิตแก่ตัวเองทางหนึ่ง

แคลเซียม เปรียบเสมือนพระเอกของระบบกระดูกและข้อเลยก็ว่าได้ เพราะบทบาทอันโดดเด่น คือ การเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง เมื่อร่างกายมีปริมาณแคลเซียมที่เหมาะสม จะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดข้ออักเสบ ช่วยให้กล้ามเนื้อยืดหดได้ดี แต่ร่างกายจะต้องใช้แคลเซียมที่สะสมไว้ในการดูแลสุขภาพกระดูก ดังนั้น การเสริมแคลเซียมให้เพียงพอ จึงเป็นสิ่งจำเป็น

วิตามินดีและแมกนีเซียม วิตามินดีช่วยเพิ่มการดูดซึมแคลเซียม และส่งแคลเซียมไปบำรุงกระดูกให้แข็งแรงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนแมกนีเซียม จะช่วยปรับสมดุลให้แคลเซียมออกฤทธิ์ในการทำงานได้อย่างเหมาะสม

กลูโคซามีน และคอนโดรอิทีน ช่วยเสริมสร้างของเหลวหล่อลื่นกระดูกอ่อน เส้นเอ็น และข้อต่อ อย่างไรก็ตาม ผลการศึกษาไม่ได้ยืนยันว่าสารเหล่านี้ได้ประโยชน์มากเท่าใดนัก

3. ปรับเปลี่ยนอิริยาบถ

การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ อาจส่งผลอย่างใหญ่หลวงต่อสุขภาพของเรา เช่น ยืนให้ตรง ไม่ทิ้งน้ำหนักไปข้างใดข้างหนึ่ง ไม่นั่งยองๆ ไม่นั่งอยู่กับที่เป็นเวลานาน สวมรองเท้าที่กันกระแทกได้ดี เลิกบุหรี่ เป็นต้น

4. ควบคุมน้ำหนัก

น้ำหนักเกิน เป็นหนึ่งในสาเหตุของอาการข้อเสื่อม เพราะกระดูกและข้อต้องรับน้ำหนักของน้ำหนักตัวที่มากเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริเวณเข่า สะโพก เท้า และหลัง ที่เป็นจุดหลักในการรับน้ำหนักของร่างกาย การออกกำลังกาย เพื่อเพิ่มการเผาผลาญพลังงาน และไขมันส่วนเกิน รวมถึงการควบคุมอาหาร โดยการหลีกเลี่ยงไขมันอิ่มตัว ลดปริมาณคาร์โบไฮเดรต จะช่วยให้คุณผอมลง และยังชะลอความเสื่อมของกระดูกและข้อด้วย

ขอบคุณข้อมูลจาก : samunpraibann

แสดงความคิดเห็น

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่