พยาบาลพูด “แม่-เด็กปลอดภัย” แต่สามีกลับร้องไห้แล้วพูดประโยคนี้ออกมา ทำเอาพยาบาลประหลาดใจ!

0

พยาบาลพูด “แม่-เด็กปลอดภัย” แต่สามีกลับร้องไห้แล้วพูดประโยคนี้ออกมา ทำเอาพยาบาลประหลาดใจ!

สามีที่เห็นคุณค่าของสิ่งที่ภรรยาทุ่มเทถึงจะเรียกว่าผู้ชายจริง…

นี่เป็นเรื่องราวที่สอนให้สามีภรรยาเห็นคุณค่าและความสำคัญของกันและกัน โดยเป็นเรื่องเล่าจากพยาบาลคนหนึ่งที่ทำงานในห้องคลอดของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แผนกสูติศาสตร์เป็นพื้นที่ๆมีน้ำตาน้อยที่สุดในโรงพยาบาล เนื่องจากเป็นที่สำหรับต้อนรับสิ่งมีชีวิตน้อยๆ เป็นเวทีสำหรับแสดงความอบอุ่นของมนุษย์ ทำให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่แท้จริงของสามีภรรยา แม่ผัวลูกสะใภ้ และแม่กับลูก เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเรื่องราวแบบนี้บ่อยๆ ในฐานะพยาบาลเธอก็ทำได้แค่เก็บทุกอย่างไว้ในใจ

แต่มีอยู่เคสนึงที่พิเศษมาก ทำให้พยาบาลที่มากมายประสบการณ์คนนี้อดไม่ได้ที่จะเอามาแชร์

มีคุณแม่วัย 20 ต้นๆกำลังจะเตรียมตัวคลอดคนหนึ่ง เนื่องจากเป็นลูกคนแรก ยังไม่มีประสบการณ์ใดๆ เมื่อจะถูกเข็นเข้ามาในห้องคลอดก็ตื่นเต้นจนจับมือสามีไว้ไม่ยอมปล่อย แล้วตอนคลอดก็ทรมานมาก

หลายปีมานี้ ในฐานะพยาบาลที่มองทุกอย่างเป็นเรื่องคุ้นเคย : ความเจ็บปวดเวลาคลอดลูกเป็นสิ่งที่คุณแม่ทุกคนต้องผ่านไปให้ได้ แม้ว่าความเจ็บปวดในการคลอดจะสูงมาก แต่คุณแม่ส่วนใหญ่พอผ่านไปได้ก็จะลืม

หลังคลอดผ่านไปแล้ว ถ้าคุณถามพวกเธอว่าอยากคลอดลูกอีกมั้ย? หลายๆครั้งที่คำตอบคือ : “อยาก!” เพราะว่ามันเป็นความเจ็บปวดที่คุ้มค่า แต่เห็นได้ชัดว่าว่าที่คุณพ่อมือใหม่คนนี้ตื่นเต้นกว่าคุณแม่อีก เขาย้ำอยู่ตลอดเวลาว่า “ถ้าคลอดตามธรรมชาติไม่ได้ก็ให้ผ่าคลอด” แต่คุณแม่สาวน้อยรู้ดีว่าการคลอดตามธรรมชาติดีกับลูกมากกว่า เพราะเด็กจะแข็งแรงกว่า ก็เลยยืนยันว่าจะคลอดเอง เธอต่อสู้กับคลื่นแห่งความเจ็บปวดมากว่าหนึ่งชั่วโมง

สุดท้าย ด้วยความพยายามของคุณหมอและคุณแม่ ในที่สุดเด็กก็คลอดออกมา เป็นเด็กผู้หญิง หนัก 3,700 กรัม สุขภาพแข็งแรงดี

 

เด็กเกิดใหม่ปรกติจะมีน้ำหนักตั้งแต่ 2,500-4,000 กรัม เฉลี่ยอยู่ที่ 3,100-3,300 กรัม ทารกเพศชายมักจะหนักกว่าทารกเพศหญิง ทารกเพศหญิงมีน้ำหนักเฉลี่ยแรกคลอดอยู่ที่ 3,200 กรัม น้ำหนักของทารกคนนี้ถือได้ว่าค่อนข้างหนัก สามารถจินตนาการได้เลยว่าคุณแม่มือใหม่คนนี้จะต้องผ่านความเจ็บปวดมากกว่าปกติ

หลังจากคุณพยาบาลคนนี้ช่วยชั่งน้ำหนักให้ทารก และห่อผ้าให้เรียบร้อยก็อุ้มออกมาจากห้องคลอด เพื่อให้เด็กและญาติๆได้พบหน้ากันครั้งแรก ครอบครัวปกติจะดีใจเป็นอย่างมาก ถาม “ผู้ชายหรือผู้หญิง? หนักเท่าไหร่? แข็งแรงดีมั้ย?” แต่พอคุณพ่อมือใหม่คนนี้รับทารกน้อยไปอุ้มกลับขมวดคิ้ว แล้วก็ร้องไห้ซบบ่าแม่เหมือนเด็กๆ เพราะว่าอยากมีลูกชายก็เลยร้องไห้หรอ? หรือเพราะว่านี่คือการเป็นพ่อครั้งแรกก็เลยไม่รู้จะทำยังไงดี? แต่ดูแล้วเหมือนเขาจะเสียใจมากกว่าดีใจ

ตอนที่คุณพยาบาลกำลังงงงวย เขาก็พูดขึ้นมาประโยคหนึ่ง ที่คุณพยาบาลมากประสบการณ์คนนี้ไม่เคยได้ยินมาก่อนในชีวิตการทำงาน “เด็กหนักขนาดนี้ เธอจะเจ็บปวดมากแค่ไหน?” ชายหนุ่มน้ำตาไหลเพราะสงสารภรรยา ทำให้เหล่าพยาบาลที่อยู่ตรงนั้นอดซึ้งไม่ได้ คุณแม่คนนี้โชคดีมาก แม้ว่าสามีจะไม่สามารถสัมผัสถึงความเจ็บปวดด้วยร่างกายได้ แต่เขาก็เจ็บปวดในใจ

คุณพ่อมือใหม่ทั่วไปเวลาเห็นลูกเป็นครั้งแรกก็จะดีใจกับชีวิตเล็กๆ จนลืมคุณแม่ที่ทรมานอยู่บนเตียงคลอดไป หรือไม่ก็ยุ่งอยู่กับการถ่ายรูป ไม่สนใจดูแลเมียว่าจะเจออะไรมาบ้าง แต่แว่บแรกที่คุณสามีคนนี้เห็นลูกสาว ความคิดแรกของเขาคือคิดถึงภรรยาว่าจะเจ็บปวดแค่ไหน คุณพยาบาลมองกลับเข้าไปในห้องคลอดเห็นหญิงสาวที่เหนื่อยจนขยับไม่ไหว แล้วก็รู้สึกดีใจแทนเธอ รู้สึกว่าเธอคงเป็นผู้หญิงที่มีความสุขมาก เพราะว่าในสายตาสามีแล้วเธอสำคัญกว่าลูก ชายหนุ่มคนนี้ไม่ว่าจะรวยหรือจน ไม่ว่าจะเป็นคนโรแมนติกหรือไม่ก็ตาม แต่เขาเป็นคนที่มีคุณค่าต่อการได้รับความไว้วางใจ

การแต่งงานมีลูกเป็นเรื่องปกติ แต่ในฐานะสามีถ้ารู้ซึ้งถึงคุณค่าและความกล้าหาญของภรรยาที่ตั้งท้อง คลอดลูก เลี้ยงลูก ไม่ทำให้ภรรยาเสียใจ ทุ่มเทเพื่อเธอ นั่นก็คือที่มาของชีวิตแต่งงานที่มีความสุข

ขอขอบคุณ : FW Mail

แสดงความคิดเห็น

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่