บอกต่อได้บุญมาก! 15 อาการเริ่มต้นของมะเร็ง รู้ไว้…ก่อนรักษาไม่ทัน

0

บอกต่อได้บุญมาก! 15 อาการเริ่มต้นของมะเร็ง รู้ไว้…ก่อนรักษาไม่ทัน

การเกิดมะเร็งในอวัยวะต่างๆ ส่วนใหญ่ผู้ป่วยสามารถรับรู้ได้ด้วยตัวเอง หากหมั่นตรวจสุขภาพร่างกายเป็นประจำ ก่อนที่จะลุกลามเป็นหนักก็จะสามารถรักษาได้ทันก่อนลุกลาม ด้วยเทคโนโลยีและวิธีทางการแพทย์ในปัจจุบัน

อาการเบื้องต้นของมะเร็ง

1. มะเร็งปากมดลูก

อาการจะมีเลือดออกจากช่องคลอดทั้ง ๆ ที่ไม่่ใช่เวลารอบเดือนปกติ หรืออาการเจ็บปวดและมีเลือดออกหลังจากมีเพศสัมพันธ์ หากพบว่ามีสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นกับคุณ ควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจ โดยขูดเนื้อเยื่อจากบริเวณดังกล่าว เพื่อนำไปตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์ ก็จะทราบผลและรักษาได้ก่อนลุกลาม

2. มะเร็งในมดลูก

อาการมีเลือดออกกระปิดกระปอยหลังการมีเพศสัมพันธ์ หรือบางครั้งอาจมีความรู้สึกว่ามีก้อนเนื้อ หรือมีอาการบวมคับแน่นในช่องท้อง

3. มะเร็งรังไข่

อาการประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ หรือการมีอาการเจ็บปวดหลังการมีเพศสัมพันธ์ มีปัญหา เกี่ยวกับลำไส้ อาการท้องอืดอาหารไม่ย่อย น้ำหนักลดและมีอาการปวดหลัง

4. มะเร็งในเม็ดเลือด (ลูคีเมีย)

อาการเหนื่อยง่ายและมีอาการสีผิวซีดเซียวผิดปกติ มักเกิดอาการฟกช้ำดำเขียวเองง่าย หรือมีเลือดออกทางผิวหนังได้ง่ายโดยไม่ทราบสาเหต และมักจะเกิดร่วมกับอาการปวดตามข้อต่าง ๆ ทั่วร่างกาย บางครั้งจะท้องอืด และเมื่อคลำดูจะพบว่ามีก้อนบวมที่ด้านซ้ายของช่องท้อง

5. มะเร็งปอด

อาการมักมีอาการไอบ่อย ๆ มีเลือดออกหรืออาจมีเสมหะปนมากับน้ำลาย น้ำหนักลดอย่างรวดเร็ว เจ็บหน้าอกและหายใจลำบาก หรืออาจมีอาการหอบปนอยู่ด้วยทั้ง ๆ ที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

6. มะเร็งตับ

อาการอาการปวดในช่องท้อง เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ตาและผิวเป็นสีออกเหลือง และเหลืองจัดจนสังเกตเห็นได้ชัด

7. มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ

อาการมีเลือดปนออกมากับปัสสาวะ ปวดท้องน้อยและเจ็บแสบเมื่อปัสสาวะ

8. มะเร็งสมอง

อาการปวดศีรษะเป็นเวลานาน ๆ และมักมีอาการอื่นร่วมด้วยเช่น อาเจียน หรือการผิดปกติของการมองเห็นในชั่วขณะ ตาพร่า และเมื่อมองไปไกลๆ อาจเห็นแสงเขียว ๆ แดง ๆ ลอยไปมาเวลาปวดศีรษะ อ่อนเพลียไม่มีแรง หรือ การเป็นลมโดยกะทันหัน อวัยวะบางส่วนของร่างกายหยุดทำงาน เช่น มีอาการชา และเป็น อัมพาตชั่วคราว ควรให้ความระวังเป็นพิเศษ หากคุณเคยมีประวัติการปวดหัวที่มีอาการเหล่านี้ประกอบอยู่ด้วย

9. มะเร็งในช่องปาก

อาการมีก้อนบวมอยู่ในปาก หรือทีลิ้นเป็นเวลานาน มีแผลเปื่อยที่ปาก แล้วไม่ได้รับการรักษา หรือเป็นแผลเรื้อรังที่เหงือก เนื่องจากการกดทับของฟันคุด และฟันปลอมที่ใส่ไว้ประจำ หรือ ใส่เป็นเวลานานๆ

10. มะเร็งในลำคอ

อาการเสียงแหบพร่าไปทันที เกิดก้อนบวม ทำให้รู้สึกว่ากลืนอาหารได้ลำบาก หรือมีการขยายตัวของต่อมในลำคอที่โตขึ้นจนสามารถจับ และรู้สึกได้ (แต่หากเป็นที่คางเรียกว่าคางทูม อาการนี้ไม่ใช่มะเร็ง)

11. มะเร็งในกระเพาะอาหาร

อาการเกิดภาวะน้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว อาเจียนออกมาเป็นเลือด ท้องอืด หรืออาหารไม่ย่อย บ่อยเข้าจะรู้สึกเหมือนมีก้อนเนื้องอกในช่องท้อง หรือรู้สึกตื้อๆจุกแน่น แม้เพิ่งจะรับประทานอาหารไปได้ไม่กี่คำ

12. มะเร็งทรวงอก

อาการจะมีเลือดหรือของเหลวบางอย่างไหลออกมาจากหัวนมบวม ผิวเนื้อทรวงอกหนาขึ้น มีก้อนบวมจนจับได้ เมื่อคลำบริเวณใต้รักแร้ บางครั้งอาจมีตุ่มก้อนหรือสิวเกิดขึ้นที่เต้านมเป็นเวลานาน ควรระวังและให้รีบพบแพทย์เพื่อรับการตรวจ เพราะผู้หญิง 9 ใน 10 คนจะมีอาการบวมของก้อนเนื้อบริเวณทรวงอกโดยไม่ทราบสาเหตุ เมื่อมีอายุมากขึ้น เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน อาจทำให้เกิดเป็นถุงน้ำใต้ผิวหนังที่เรียกว่า ซีสต์ ซึ่งควรต้องค้นหาสาเหตุของอาการบวมนั้นให้ชัดเจนเสียก่อน ว่าคืออะไรกันแน่ ซึ่งแพทย์สามารถให้คำตอบได้ดีกว่า

13. มะเร็งลำไส้

อาการน้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว มีอาการปวดท้องอย่างมาก และระบบการย่อยผิดปกติ มีเลือดออกปนมากับอุจจาระ เมื่อเอากระดาษทิชชูซับสังเกตดู ถ้าเลือดมีสีดำคล้ำ นั่นหมายถึงอาการของโรคมะเร็งในลำไส้ (หากเลือดมีสีแดงสดปนใส นั่นคืออาการของริดสีดวงทวารไม่ใช่มะเร็ง) ควรพบแพทย์ทันที ที่มีอาการดังกล่าว

14. มะเร็งต่อมน้ำเหลือง

อาการมีก้อนบวมขึ้นเป็นเม็ดเกิดขึ้นที่ใต้รักแร้หรือใต้ขาหนีบ หรืออาจมีลักษณะเป็นก้อนไตแข็งขนาดเท่าเมล็ดถั่ว เกิดขึ้นโดยไม่มีแผลเป็นหนองหรืออาการติดเชื้ออื่นๆ มีเหงื่อออกตอนกลางคืน คล้ายอาการไข้ ให้รีบพบแพทย์เพื่อตรวจอาการโดยละเอียดทันที

15. มะเร็งผิวหนัง

อาการมีแผลหรือแผลเปื่อยพุพอง โดยไม่ได้รับการรักษาอยู่เป็นเวลานาน ตลอดจนไฝ หรือหูดที่โตขึ้น และมีการเปลี่ยนสี รูปร่าง หรือขนาดใหญ่ขึ้น นอกจากนี้อาการอันตรายอีกอย่างหนึ่งที่ เรียกว่า เมลาโนมา ( Melanoma) คือเนื้องอกที่ประกอบด้วยเซลล์ที่มีเมลานินสะสมอยู่ เช่น กระ จุดด่าง หรือไฝ ถ้าคุณมีไฝมากกว่า 50 เม็ดทั่วร่างกาย หรือ มีคนในครอบครัวที่มีประวัติว่าเคยเป็นโรคนี้มาก่อน คุณจะ มี อัตราเสี่ยงสูงกว่าคนปกติอื่นๆ ทั่วไป

พอรู้อย่างนี้แล้ว อย่าลืมหมั่นสำรวจร่างกายของคุณและคนใกล้ชิดที่คุณรัก เพื่อให้รู้เท่าทัน การมีอยู่ของเจ้าเนื้อหลายเหล่านี้ และมีโอกาสในการรักษาได้ทันท่วงที

ที่มา : โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์-ศูนย์ตรวจและรักษามะเร็ง

แสดงความคิดเห็น

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่