เทคนิคน้อยคนรู้ การขับรถเกียร์ออโต้ ทางลาดชัน ขึ้นลงเขา

0

เทคนิคน้อยคนรู้ การขับรถเกียร์ออโต้ ทางลาดชัน ขึ้นลงเขา

หลายๆคนไปเที่ยวต่างจังหวัดมักจะมีเส้นทางการขับรถขึ้นเขาลงเขาอยู่เสมอ การขับรถที่ดีเราก็รู้จักเส้นทาง และรู้จักตัวรถของเราให้ดี หมั่นตรวจเช็คสภาพรถให้มั่นใจได้ว่าจะไปถึงที่หมายอย่างป ล อด ภั ย และที่สำคัญไปกว่านั้นเมื่อต้องถึงทางลาดชันขึ้นเขาลงเขา เราควรเข้าใจวิธีการขับรถให้ดี ในวันนี้เราจะมีเทคนิคดีๆผู้ขับขี่ ซึ่งเป็นเทคนิคการขับรถขึ้นเขาลงเขาที่ถูกวิธีมาฝาก

เกียร์ D ปกติ ใช้สำหรับขับใช้งานบนถนนทั่วๆไป

เกียร์ D-3 ใช้สำหรับขึ้นเนิน หรือ ลงเนิน เกียร์จะถูกล๊อกไว้ให้ไปสุดแค่เกียร์ 3 ( ไว้ในกรณีที่ทางชันเพื่อล๊อคเกียร์ )

เกียร์ D-2 ใช้สำหรับขึ้นเนิน หรือ ลงเนิน เกียร์จะถูกล๊อกไว้ให้ไปสุดแค่เกียร์ 2 ( ไว้ในกรณีที่ทางชันขึ้นมาหน่อย )

เกียร์ D-L ใช้สำหรับขึ้นเนิน หรือ ลงเนิน เกียร์จะถูกล๊อกไว้ให้ไปสุดแค่เกียร์ 1 ( ไว้ในกรณ๊ที่มีทางลาดชันมากๆ )

การใช้เกียร์ที่ต้องจะช่วยทำให้รถเคลื่อนตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เมื่อถึงทางเดินหรือทางลาดชัน หากเรายังใช้เกียร์สูงๆอย่างเช่นเกียร์ 4 เกียร์ 5 นั้น กำลังของเครื่องยนต์จะไม่สัมพันธ์กับความชัน ช่วยให้รถเคลื่อนตัวได้ช้าและไม่มีแรง แต่ถ้าลดระดับเกียร์ลงเป็นเกียร์ต่ำๆ จะช่วยให้เครื่องยนต์ของเรานั้นทำงานได้ดียิ่งขึ้น มีแรงมีกำลังที่จะขึ้นไปได้

หลักการขับรถ ขึ้นเขา-ลงเขา หรือ เนินชัน

1 เมื่อไหร่ก็ตามที่เราจำเป็นต้องลงเขา ไม่ควรใส่เกียร์ว่าง N เด็ดขาด เพราะจะทำให้รถของเรานั้นไหลลงด้วยความเร็วสูง เกียร์ที่ควรใช้ควรเป็น D หรือเกียร์ต่ำเท่านั้น

2 และเมื่อเวลาที่เราต้องลงเนินที่มีความชันมากๆ ให้ใช้เกียร์ D3 – D2 – D1 แล้วสลับกับแตะเบรคเป็นระยะ จะทำให้เครื่องยนต์และเกียร์ชะลอความเร็ว ไม่ให้ลดนั้นไหลลงเนินอย่างรวดเร็ว และไม่ควรแตะเบรคค้าง เพราะจะทำให้เบรคของรถเราไม่และรถจะควบคุมได้ยาก

3 ดูที่ความชันว่ามากหรือน้อย ให้ใช้เกียร์ D3 – D2 ขึ้นอยู่กับความชัน และ เมื่ออยู่ในทางราบให้เปลี่ยนไปใช้เกียร์ D บ้ าง

4 เหยียบคันเร่งตามจังหวะความชัน พยายามให้รอบเครื่องอยู่ประมาณ 2500-3000 ควบคุมไม่ให้เกิน 4500 ( หรือ ตัวเลขสีแดงบนหน้าปัดของรถแต่ละรุ่น )

5 เราควรขับรถด้วยความระมัดระวัง ไม่ควรแซงในเส้นทึบ หรือเส้นห้ามแซงเด็ดขาด เพราะทางขึ้นเขาลงเขาส่วนใหญ่เป็นเส้นทางที่โค้งเยอะ เป็นจุดอับสายตาไม่สามารถมองเห็นรถที่สวนมาได้อย่างชัดเจน

6 หากต้องขับทางโค้งรูปตัว S เป็นระยะทางต่อเนื่อง ต้องมองเส้นทางแบบไกลๆ เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีรถสวนมาแน่นอน

7 ถ้าขับรถบนเขาแล้วเจอทางโค้งแคบและมีเส้นเขาบางสายตา เราควรส่งสัญญาณให้รถเลนสวนเห็นสัญญาณไฟสูงหรือบีบแตรให้เขารู้ว่ามีรถสวนมา

หากเราต้องเดินทางไปในที่ที่เราไม่คุ้นเคยหรือไปในที่ที่มีระยะทางไกล สิ่งที่เราควรทำมากที่สุดคือการตรวจเช็คสภาพรถให้พร้อมกับการเดินทาง ตรวจสอบเส้นทางที่เราจะไป ระหว่างทางควรตรวจเช็คสภาพรถอยู่เสมอ

เรียบเรียง : postsod

ขอบคุณข้อมูลจาก : bitcoretech

แสดงความคิดเห็น

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่