สักวันอาจได้ใช้ ใครโดนใบสั่งกล้องวงจรปิด ควรฟังไว้

0

สักวันอาจได้ใช้ ใครโดนใบสั่งกล้องวงจรปิด ควรฟังไว้

ใครที่ขับรถบ่อยๆแล้วโดนกล้องวงจรปิดควรฟังเอาไว้ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ดีและมีประโยชน์ สักวันหนึ่งคุณอาจจะได้ใช้มัน อาจจะยาวหน่อยขอให้ทนอ่านให้จบแล้วจะพบคำตอบและวิธีการแก้ไข

สำหรับเรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่ของผู้ที่ใช้รถใช้ถนนในปัจจุบัน หลังจากที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ออกมามีคำสั่งให้ทุกสนในพื้นที่ ใช้กล้องถ่ายรูปตัวจับผู้ที่กระทำความผิดกฎหมายทางด้านจราจร

ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ และในช่วงวันแรกได้มีผู้กระทำความผิดมากกว่า 1600 ราย และผู้กระทำความผิดนั้นจะต้องไปชำระค่าปรับภายใน 7 วัน หากไม่ไปตามกำหนดเวลา

ทางด้านเจ้าหน้าที่จะทำการส่งจดหมายไปยังที่อยู่ของผู้ที่โดนใบสั่ง และจะต้องชำระค่าปรับภายใน 30 วัน ซึ่งถ้าหากไม่ดำเนินการอีก ทางเจ้าหน้าที่จะทำการส่งข้อมูลนั้นไปยังกรมการขนส่งทางบก เพื่อเป็นการงดเว้นการต่อทะเบียนรถเป็นการชั่วคราว

และเมื่อเดินทางไปทำการชำระค่าปรับจะต้องเสียเงินค่าปรับล่าช้าอีก 1000 บาท และปรับตามใบขับขี่ซึ่งจะสอดคล้องกับการแก้ไขกฎหมายใบสั่งนั้นด้วย

ทางด้านล่าสุด นายเกิดผล แก้วเกิด ซึ่งเป็นทนายคนดังในโลกโซเชียลในขณะนี้ ไปออกมาโพสต์ เฟซบุ๊ก ถึงกรณีดังกล่าวโดยมีการระบุเอาไว้ว่า

เห็นความพยายามของตำรวจ ที่บังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างเข้มแข็งเหลือเกิน ผมเห็นด้วยกับการใช้กล้องและเทคโนโลยีแทนเจ้าพนักงานจราจร (บางอย่าง) แก้ไขการใช้ดุลยพินิจที่ไม่ถูกต้อง และการโต้เถียงของประชาชนได้
เพราะกล้องไม่โกหก ยกเว้นตำรวจมั่ว ส่งหมายใบสั่งผิดบ้าน แต่การออกมาตรการบังคับให้ไปชำระค่าปรับภายใน 7 วัน หากล่าช้าจะต้องชำระค่าปรับล่าช้าเพิ่ม 1000 บาท

และอายัดทะเบียนไว้ สำหรับผม ผิดก็ว่าไปตามผิด ผิดก็ต้องมีหน้าที่จ่ายค่าปรับตามกฎหมาย แต่ไม่เห็นด้วยกับการบังคับให้ชำระค่าปรับล่าช้าอีก 1000 บาท รวม 1500 บาท

มันโหดร้ายเกินไปใหมครับ แต่ตำรวจได้ค่าปรับ และเปอร์เซ็นต์ค่าปรับเพิ่มอีก 3 เท่า จาก 500 เป็น 1500 ภายในเวลา 30 วัน มันจะน่าเกลียดไปไหมครับ 1500 ซื้อนมลูกได้ทั้งเดือน

ท่านจะรีบใช้เงินไปไหน ใจเย็นๆ ให้เวลาชาวบ้านหายใจบ้าง ถ้าสมมุติว่า ชาวบ้านที่โดนใบสั่งทั้ง 1600 คน ลุกขึ้นมาต่อสู้ด้วยวิธีการทางกฎหมาย และใช้สิทธิทางศาลบ้าง

แทนที่จะยอมชำระค่าปรับ 500 หรือ 1500 บาทในกรณีล่าช้า รวมใจรวมตัวกันเดินเข้า โรงพักแจ้งต่อพนักงานสอบสวนว่า ไม่ชำระค่าปรับที่โรงพัก แต่จะไปสู้ในชั้นศาล

หรือชำระค่าปรับที่ศาลแทน ถ้ามีสักเดือน ละ 1000 คน งานคงล้นมือตำรวจ และพนักงานอัยการแน่นอน ลองดูไหมครับ ความผิดลหุโทษ ไม่ต้องประกันตัว เดินถือใบสั่งที่ตำรวจส่งไปให้ทางไปรษณีย์ แล้วบอกพนักงานสอบสวนว่า ขอไปต่อสู้ (ในกรณีไม่ผิด) หรือไปชำระค่าปรับที่ศาลแทน เมื่อไปถึงศาล ถ้าผิดก็รับสารภาพ ศาลก็ปรับ ครึ่งหนึ่งของ 500 บาท คงเหลือ จ่ายค่าปรับที่ศาลเพียง 250 บาท ไม่เสียค่าปรับล่าช้า ไม่ถูกอายัดทะเบียน เพราะถือว่าชำระค่าปรับตามคำพิพากษาแล้ว และที่สำคัญเงินค่าปรับในศาล ตำรวจจะไม่ได้เปอร์เซ็นแม้แต่สตางค์แดงเดียว อย่าบีบบังคับประชาชนเกินไปนะครับ

ผมเชื่อว่า ถ้ามีคนลุกสู้และใช้วิธีนี้ ตำรวจนั่นแหละครับที่จะเหนื่อยจนไม่ต้องทำงานอย่างอื่น เผลอๆ คดีขาดอายุความเพราะฟ้องไม่ทัน เสียงบประมาณซื้อกล้อง และงบประมาณพิมพ์ใบสั่งเปล่าๆ

ขอขอบคุณ : นายเกิดผล แก้วเกิด

แสดงความคิดเห็น

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่