คนเราจะมีเวลาอยู่ด้วยกันซักกี่วัน อ่านไปคิดไปน้ำตาก็ไหล

0

คนเราจะมีเวลาอยู่ด้วยกันซักกี่วัน อ่านไปคิดไปน้ำตาก็ไหล

อย่าลืมส่งให้คนที่คุณรักได้อ่านนะ

เช้าวันหนึ่ง.. ภรรยาบอกกับสามีว่า..“วันนี้ ฉันจะกลับบ้านไปเยื่ยมแม่ จะไปค้างสักคืนหนึ่ง แม่ไม่ค่อยสบาย คุณจะขับรถไปส่งฉันหน่อยได้ไหม ฝนตกหนักแบบนี้ ไปรถโดยสารไม่สะดวกเลย”..

สามี.. ซึ่งหน้าตาบูดบึ้งมาตั้งแต่เช้า ไม่ตอบภรรยา.. แต่กลับกระชากเสียงถามกลับไปว่า..

“เมื่อวาน เธอซื้อเสื้อใหม่มาใช่ไหม.. เธอรับปากฉันแล้วนะว่าจะไม่ใช่เงินฟุ่มเฟือย เรายังต้องผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ส่งลูกเรียน ค่าใช้จ่ายเยอะแยะ.. ทำไม..ไม่ช่วยกันประหยัด!!”

ภรรยา ..พูดออกมาเสียงเบาๆ อย่างคนรู้สึกผิดว่า “ที่แท้..คุณโกรธเรื่องนี้นี่เอง”..

ภรรยา.. ก้มหน้าจัดเสื้อผ้าเงียบๆ แล้วบอกสามีว่า.. “วันนี้ มีรถโดยสารเข้าเมืองแค่เที่ยวเดียว ฉันคงต้องรีบไปแล้วหละ.. คุณไม่ต้องไปส่งก็ได้..”

แล้วเธอก็ออกบ้านไป โดยสามีไม่สนใจเลย เพราะยังโกรธอยู่มาก..

ประมาณครึ่งชั่วโมงผ่านไป.. สามีได้ยินเสียงเอะอะ บนถนน..

จึงออกไปดู แล้วจึงได้ยินผู้คนตะโกนกันว่า ฝนที่ตกหนัก เซาะตลิ่ง จนสะพานเข้าเมืองได้ขาดลง มีรถเมล์คันหนึ่ง ตกลงไปในน้ำด้วย..

สามี..ได้ยินดังนั้น ตกใจมาก กระโดดออกจากบ้านไปทันที เมื่อไปถึงแม่น้ำ.. รถเมล์ที่ถูกเก็บกู้จากน้ำ เหลือเพียงซากเหล็ก สัมภาระกระเป๋าต่างๆ ของผู้โดยสารกระจัดกระจาย มีการหามร่างของผู้เสียชีวิต คนแล้วคนเล่า ขึ้นมาจากแม่น้ำ..

ชายหนุ่ม เฝ้ามองหาภรรยา .. ก็ไม่พบ ก็เสียใจเจียนสิ้นสติ..

เฝ้าถามหน่วยกู้ภัยที่ทำงานอยู่ว่า “เห็นภรรยาผมบ้างไหม ๆๆๆ เธอใส่เสื้อสีแดง กางเกงสีดำ”

ทุกคนส่ายหน้า… บอกว่าไม่เห็น.

เวลาผ่านไปจนเกือบเย็น. กู้ภัย หยุดการทำงาน เพราะไม่มีผู้เสียชีวิต ที่หาพบแล้ว

จึงบอกชายหนุ่มว่า.. “หักห้ามใจเถอะนะ ภรรยาคุณ คงโดนน้ำพัดไปไกลแล้ว”.

ชายหนุ่มเดินกลับบ้าน เหมือนคนไม่มีวิญญาณ ร้องไห้ไป คร่ำครวญไปตลอดทาง ในใจของเขา เฝ้าแต่คร่ำครวญว่า

“ทำไมๆๆๆ เราไม่ขับรถไปส่งเธอนะ… เราไปด่าเธอทำไมว่าใช้เงินฟุ่มเฟือย เสื้อตัวเดียว มันจะราคาเท่าไหร่กัน”

แต่เมื่อกลับถึงบ้าน คาดไม่ถึงว่า.. ภรรยากลับนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร มีอาหารอยู่บนโต๊ะ..

ในมือเธอ มีเสื้อกันหนาวเก่าตัวหนึ่ง ซึ่งเธอกำลัง เย็บซ่อมชายเสื้อที่รุ่ยอยู่..

“คุณไปไหนมาคะ .. “.. ภรรยายังพูดไม่ทันจบ สามีก็ตรงเข้าไปกอดเธอจนแน่น..

“คุณเป็นอะไร ร้องไห้ทำไม .. วันนี้ ฉันมัวเอาเสื้อไปคืนที่ร้าน เสียเวลาอ้อนวอนให้เขารับคืนไปมาก เลยไปขึ้นรถเมล์ไม่ทัน.. อากาศจะหนาวแล้ว ฉันเลยรื้อเสื้อเก่ามาซ่อม ก็พอใส่ได้อีกหลายปีนะคะ ฉันนี่แย่จริงๆ ของเก่าก็ยังมี ไปซื้อของใหม่มาทำไม”.

**** เรื่องบางเรื่อง.. เราโกรธจนลืมไปว่า มันไม่สำคัญเทียบเท่ากับ “ความสุข” ของเราเลยนะ เรื่องบางเรื่อง.. ไม่สำคัญเท่ากับ

“ความสุข” ของคนที่เรารัก.. เรามีเวลาในโลกนี้… จำกัด.. เวลาที่ใช้ร่วมกัน ….ยิ่งจำกัด.. อะไรที่ไม่สำคัญมากพอ ก็อย่านำมาเป็นอารมณ์มากมายนักเลย คลั่ง..กับเรื่องเล็กน้อยไปไย

อย่าลืมส่งให้คนที่คุณรักได้อ่านนะ

ขอขอบคุณ : postsroad

แสดงความคิดเห็น

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่