ข้ามภพ ข้ามชาติ…ตอน 6-1

0

ข้ามภพ ข้ามชาติ…ตอน 6-1

อ่านตอน 1-5 ได้ที่นี่

“อมรศรี…เธอโกหกฉันรึเปล่า? บอกมาซิว่าบัวคลี่ยังไม่ตายจริงๆ…”

อวรรณจับมืออมรศรีเขย่าแรงๆ…พูดเสียงดังจนแม่ที่นอนอยู่ข้างๆสะดุ้งนิดหนึ่ง…

…แม่พลิกตัวหันหลังกลับไปนอนเงียบอีกครั้ง….
……..
ทั้งสองหันมามองแม่…เมื่อเห็นว่าแม่เงียบไปแล้ว อรวรรณลดเสียงลงจนเกือบกระซิบถามย้ำอมรศรีอีกครั้ง

“… เธอรู้ได้ยังไงว่าบัวคลี่ยังมีชีวิตอยู่ ? …”

“..รู้สิ…เพราะหลังจากที่บัวคลี่เดินออกจากวัดไปในวันนั้นไม่กี่ปี…ฉันได้รับส่วนบุญส่วนกุศลที่บัวคลี่ส่งมาให้ฉันเสมอ…”

อมรศรีพูดชัดถ้อยชัดคำ…

“…บัวคลี่ต้องรู้ว่าฉันตาย…จึงตักบาตรทำบุญมาให้ฉันบ่อยๆ…นั่นหมายความว่าบัวคลี่ยังมีชีวิตอยู่…
ส่วนคนอื่นตายกันไปเมื่อตอนที่อายุมากแล้ว…

ฉันรู้….ว่าวันหนึ่งเธอต้องกลับมา… จิตของเธอก็ยังผูกพันอยู่กับบัวคลี่และพวกเรา…ฉันจึงไปไหนไม่ได้…
ฉันรอเธอมานานหลายปีเพื่อที่จะบอกให้เธอทำตามสัญญาที่ได้ให้ไว้กับบัวคลี่…”

อรวรรณมองหน้าอมรศรีอย่างประหลาดใจ….

“เธอสัญญาว่าจะเป็นคนสอนรำโนราให้บัวคลี่หลังจากเธอได้ครอบครูแล้ว…จำได้มั้ย ?”
อรวรรณผงกหน้าช้าๆ….

“ เธอต้องไปตามหาบัวคลี่ ..ตอนนี้บัวคลี่อายุมากแล้ว เธอมีเวลาไม่มากนักนะเอมอร….

พรุ่งนี้ไปเอาสร้อยข้อมือที่บัวคลี่ฝังไว้ที่ใต้ฐานเจดีย์ 7 ชั้น…”

อมรศรีหยุดพูดไปนิดหนึ่ง…แล้วเหลือบมองอรวรรณ….

“..ที่..ใกล้ๆ…ฐานเจดีย์จีน7ชั้นที่วัดกลางต่างหากนะเอมอร…” อมรศรียิ้มเหมือนมีปริศนา….

“ศรัทธาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น…ที่จะช่วยให้เธอค้นพบ…”

อมรศรีลุกขึ้นเดินไปข้างหมอน เอื้อมหยิบพวงมาลัยยื่นให้อรวรรณ…

“…นำพวงมาลัยไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่นั่น….

ขอพรให้ท่านเปิดทางให้เธอเพื่อได้พบสร้อยตามต้องการนะเอมอร ”

…………………………………..

…………………………………..

เสียงนาฬิกาข้อมือเรือนเล็กของแม่ร้องเตือนบอกเวลา…

อรวรรณสะดุ้งตัวเล็กน้อย หันไปมองนาฬิกาบนโต๊ะที่หัวเตียง…. ตี3แล้ว…

เธอหันกลับมามองอมรศรีอีกครั้ง….

อมรศรีหายไปไหน?..!!!

………….

อรวรรณเหลียวซ้ายมองขวาเหมือนตื่นจากภวังค์….

” นี่เราละเมอหรือเปล่า ? ”

อรวรรณนึกในใจ…แต่เมื่อก้มลงมองในมือ…. พวงมาลัยที่อมรศรียื่นมาให้เมื่อครู่ยังอยู่….!!!

…………..

เธอล้มตัวลงนอนข้างแม่อีกครั้ง….วางพวงมาลัยไว้ข้างหมอนเหมือนเดิม ดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มแล้วค่อยๆหลับตาลง…

…………..

แม่ที่นอนหันหลังอยู่บนเตียงข้างๆเธอยังลืมตาโพลง..ได้ยินทุกคำที่เธอพูด..!!!!…

น้ำตาของแม่ไหลหยดลงหมอน…

แม่พลิกตัวกลับมากอดอรวรรณที่หลับไปแล้ว

มองลูกสาวอย่างเอ็นดู หอมหน้าผากครั้งหนึ่ง ก่อนใช้มือปิดโป๊ะไฟที่หัวเตียง….

………………………………..

…แม่ปลุกอรวรรณเมื่อสาย…พ่อกับน้องก็ตื่นแล้ว….พ่อบอกว่าวันนี้เรามีเวลาเหลือเพียงวันเดียวที่อยู่สงขลา…ต้องกลับกรุงเทพฯเย็นนี้แล้ว

“ วันนี้พ่อกับแม่จะพาอรไปทำบุญและทำสังฆทานให้เพื่อนๆเหล่านั้น พร้อมเลี้ยงเพลพระที่วัดกลางนะ….”
พ่อบอกอรวรรณ…..

อรวรรณนึกสงสัยว่าพ่อกับแม่รู้ได้อย่างไร???

“ เมื่อคืนนี้แม่ไม่ได้หลับทั้งคืนนะอร..” แม่กระซิบบอกลูกสาว…

อรวรรณตะลึง…เธอโผเข้ากอดพ่อกับแม่และน้อง…

………………………

………………………

………………………

ที่ข้างๆโรงฉันในวัดกลาง….

แม่ค่อยๆรินน้ำจากที่กรวดน้ำทองเหลืองรดใต้พุ่มแก้วที่ข้างๆหอเพล…

อรวรรณแตะมือแม่…

“..อิทัง เม ญาตินัง โหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย ขอบุญนี้จงสำเร็จแก่ด.ญอมรศรีและเพื่อนๆของด.ญเอมอรทั้ง7 ที่ได้เสียชีวิตไปแล้ว… รวมทั้งญาติมิตรทั้งหลายของข้าพเจ้าที่ล่วงลับไป… จงมีความสุขกายสุขใจด้วยเถิด”

……………………………………

……………………………………

…เสียงแม่ท่องบทกรวดน้ำผสมกลมกลืนไปกับเสียงพระสวดจากหอฉันที่ลอยมาจนถึงที่นั่งกรวดน้ำ….

อรวรรณค่อยๆประคองแม่ให้ลุกขึ้น…..

เธอหลับตา…ยื่นหน้าไปสูดกลิ่นดอกแก้วที่บานสะพรั่งบนต้นซึ่งกำลังส่งกลิ่นหอมอบอวลไปทั่ว

“..หอมจังเลยค่ะแม่..”

ยังไม่ทันก้าวขาเดินกลับเข้าโรงฉัน…..

…..!!!!!!!!!!!!…..

คุณยายอายุมากแล้วจำนวน 7 คนและ เด็กสาววัยแรกรุ่นคนหนึ่ง…แต่งกายด้วยเสื้อแบบเรียบง่าย….ต่างแบบต่างสี…สวมผ้าถุงไทยภาคใต้ลวดลายงดงาม…กำลังนั่งพนมมือก้มลงไหว้รับส่วนบุญส่วนกุศลตรงหน้าอรวรรณและแม่เพิ่งจบบทสวดลงไปเมื่อสักครู่…..

คนทั้ง 8 ค่อยๆเงยหน้าขึ้น…ยิ้มกรุ่นละไม…

…………….

เด็กสาวเพียงคนเดียวในกลุ่มที่เงยหน้าขึ้นคืออมรศรีนั่นเอง….!!!!!!!!

เสียงพระสวดดังขึ้นพร้อมๆกับที่อรวรรณและแม่สาวเท้าไปหาพ่อกับน้องที่นั่งอยู่ข้างในหอฉันโดยมิได้สังเกต……

……………………………………..

……………………………………..

บ่ายจัด…. …อรวรรณและครอบครัวนำพวงมาลัยไปไหว้ที่เจดีย์จีน 7 ชั้น เธอถอดสร้อยคอหลวงพ่อทวดวัดช้างไห้ที่ใส่ติดคอมาตลอด ยกมือขึ้นไหว้พร้อมอธิษฐาน แล้ววางไว้กับพวงมาลัยที่ปีกหลังคาเจดีย์ชั้นแรก

…หลวงพ่อทวดวัดช้างไห้ที่พ่อและครอบครัวให้ความเคารพและศรัทธาอย่างสูง…

พ่อ แม่ ลูก รีบพนมมือไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อให้พบร่องรอยของแหล่งที่ซ่อนห่อผ้า…

ทุกคนเดินดูฐานรอบเจดีย์จีน7ชั้นเพื่อสังเกตดูว่าที่ตรงไหนน่าจะเป็นที่ฝังสร้อยข้อมือ…

แต่ต้องแปลกใจ..เพราะฐานเจดีย์จีนขณะนี้กลายเป็นกระเบื้องปูทับพื้นดินไปแล้ว….

…หากของที่ต้องการซ่อนอยู่ใต้ฐานเจดีย์จีนยังอยู่ คงไม่สามารถนำกลับขึ้นมาได้….

อรวรรณมีสีหน้าผิดหวัง….

“..อมรศรี…ไหนเธอบอกว่าห่อผ้าอยู่บริเวณนี้ยังไงล่ะ ?” เธอบ่นเบาๆ…

“ เธออยู่แถวนี้รึเปล่า? บอกฉันสิ..”

บรรยากาศรอบข้างมีแต่ความเงียบ……

…………………………………….

“…มาทำอะไรแถวนี้กันล่ะโยม?…เห็นเที่ยวก้มๆเงยๆเหมือนกำลังหาอะไรอยู่ ”

พระรูปหนึ่งที่กำลังเดินกลับเข้าพระอุโบสถเอ่ยถามด้วยความสงสัย…..

“..มาหาดูของที่ใต้ฐานเจดีย์นี้นิดหน่อยครับหลวงพ่อ….”

พ่อตอบหลวงพ่อ….

” หลวงพ่อครับ..พื้นกระเบื้องนี้ถูกปูมานานรึยังครับ?”

พ่อถามด้วยความอยากรู้

“ หลายปีแล้วล่ะโยม… แต่ก่อนแถวนี้ก็เป็นพื้นดินหมด แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความเจริญก็ตามมา… วัดวาอารามก็ได้ถูกปรับปรุงบูรณะ…ทางเดินที่เคยเป็นดินแฉะยามฝนตกก็ถูกปูด้วยกระเบื้องเพื่อความสะดวกในการเดินอย่างที่เห็นนี่ล่ะโยม..”

พระท่านยืนเล่าด้วยท่าทีสงบ….

“ ขอรับหลวงพ่อ กระผมคงไม่รบกวนหลวงพ่อแล้วขอรับ…”

พ่อยกมือไหว้หลวงพ่ออีกครั้ง แม่และลูกไหว้พระพร้อมพ่อ….

“ ไปเถอะลูก….รีบไปเอารูปที่ลูกสั่งไว้ที่ร้าน เดี๋ยวกลับกรุงเทพฯไม่ทัน “ แม่บอกอรวรรณ

“ ลูกแน่ใจนะ ว่าลูกได้ยินมาไม่ผิด “ พ่อถามด้วยความสงสัย

“ ลูกได้ยินไม่ผิดหรอกพ่อ ” แม่ตอบแทนอรวรรณ….

อรวรรณมีสีหน้าที่ผิดหวัง แล้วทั้งสี่ก็หันหลังให้กับเจดีย์…เดินออกจากวัดเพื่อขึ้นรถไปร้านรูปถ่ายทันที….

ขอขอบคุณ : ข้ามภพ ข้ามชาติ

 

แสดงความคิดเห็น

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่