12 เรื่องราวของผู้เป็นแม่ ลูกทุกคนอาจลืมไปแล้ว

0

12 เรื่องราวของผู้เป็นแม่ ลูกทุกคนอาจลืมไปแล้ว

แม่ เป็นผู้ที่ให้กำเนิด ทั้งยังเลี้ยงดู ดูแลปกป้องเราตั้งแต่เล็กจนเติบโตมาจนถึงในทุกวันนี้ 12 เรื่องราวต่อไปนี้เชื่อได้เลยว่าลูกๆทั้งหลายคงอาจจะลืมเรื่องเหล่านี้กันไปแล้ว ลองมาดูกัน

1. เมื่อคุณเกิดมา..คุณอาจรู้สึกว่าแม่ของคุณแก่จัง แต่คุณคงลืมไปว่า ครั้งหนึ่งแม่ของคุณเคยสาว เคยสวย เคยเป็นเด็กวัยรุ่นช่างฝัน ท่านฝันว่า วันหนึ่งท่านจะมีครอบครัวที่น่ารัก มีสามีที่ดี มีลูกที่ดี มีครอบครัวที่อบอุ่น แต่ชีวิตไม่ใช่นิยามที่จะเขียนได้อย่างใจ “ช่างมันเถอะไม่เป็นไร” ท่านคงคิดอย่างนั้น เพราะอย่างน้อยที่สุด ชีวิตก็พาให้คุณกับท่านมาเจอกันจนได้

2. นอกจากต้องแบกน้ำหนักเกือบ 15 กิโลกรัม ตลอดระยะเวลาเกือบสิบเดือนแล้ว ในวันที่คุณลืมตาดูโลก ยังเป็นวันเดียวกับวันที่ท่านต้องเจ็บปวดที่สุดในชีวิต คุณอาจเคยได้ยินมาบ่อยๆ ว่าการคลอดลูกมันเจ็บมาก แต่คุณไม่มีวันรับรู้ความรู้สึกนั้นได้จริงๆ จนกว่าถึงวันที่คุณต้องคลอดลูกเอง ลองมองหน้าแม่ของคุณในวันนี้ คุณอาจลืมไปแล้วก็ได้ว่าผู้หญิงคนนี้เคยเจ็บปวดเพื่อให้คุณเกิดมา

3. แม่ของคุณเคยรูปร่างดีกว่านี้ เคยมีผิวพรรณที่เปล่งปลั่งกว่านี้ ท่านเคยสวยกว่านี้มาก จนถึงวันที่มีคุณ รูปร่างของท่าน ผิวพรรณของท่าน ไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป คุณรู้ใช่ไหมว่า ท่านต้องแบ่งปันร่างกายของท่าน เพื่อสร้างร่างกายของคุณ คุณรู้ใช่ไหมว่า หลังจากคลอดคุณออกมา เส้นผมของท่านร่วงเป็นกระจุกๆ อยู่หลายเดือน คุณรู้ใช่ไหม ถ้าท่านไม่มีคุณ ท่านคงจะเป็นผู้หญิงที่มีรูปร่างหน้าตาสวยกว่านี้อีกเยอะเลย

4. ในอดีตเวลาส่วนใหญ่ในชีวิตของแม่ เคยเป็นของท่านเอง ท่านจะไปไหนก็ได้ จะทำอะไรก็ได้ จะเที่ยวสนุกหรือทำเพื่อตัวเองแค่ไหนก็ได้ สิ่งนี้ได้เปลี่ยนไปตั้งแต่วันที่คุณลืมตาดูโลก สองเดือนแรกที่คุณเกิดมา แม่ของคุณต้องอุ้มคุณตลอดเวลาเพราะคุณร้องไห้ตลอดเวลา คุณตื่นทุกๆ สองชั่วโมง ขับถ่ายทุกๆ สองชั่วโมง ทำให้ท่านต้องอยู่ใกล้ชิดคุณ ไม่มีเวลากิน ไม่มีเวลานอน ไม่มีเวลาไปไหนมาไหน หนึ่งปีแรก ที่คุณหัดเดิน แม่ของคุณต้องเดินตามคุณตลอดเวลาเพื่อไม่ให้คุณเป็นอันตราย เงินส่วนใหญ่ ถูกใช้เพื่อซื้อของจำเป็นให้คุณ ค่าคลอด ค่ารักษา ค่าฉีดวัคซีน ค่านม ค่าของ ค่าเสื้อผ้า มันไม่ง่ายเลยสำหรับเงินก้อนนั้นที่แม่ของคุณเพิ่มเริ่มสร้างเนื้อสร้างตัว

5. เมื่อคุณเข้าเรียนอนุบาล แม้มันเป็นเรื่องธรรมดาที่คุณกับท่านต้องห่างกัน แต่ท่านก็เป็นห่วงคุณอยู่ดี ท่านคิดในใจว่า “โอ้โห ค่าเรียนอนุบาลทำไมแพงจัง” เมื่อท่านคิดได้อย่างนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นของใช้ส่วนตัวของท่านจึงถูกลดคุณภาพลงทั้งหมด กินถูกๆ ใช้ของถูกๆ ใส่เสื้อผ้าถูกๆ ทำทุกอย่างเพื่อลดค่าใช้จ่าย เพื่อให้คุณมีสิ่งที่ดีที่สุด ในเวลานี้ คุณรู้รึเปล่าว่า แม่ของคุณแทบไม่ได้ไปเที่ยวอีกต่อไป เวลาท่านคิดถึงอนาคต มันไม่ใช่อนาคตของท่านแต่เป็นอนาคตของคุณ ท่านไม่ใช่นางเอกในชีวิตของตัวเองอีกต่อไปแล้ว ความเป็นแม่ของท่านมากขึ้นทุกทีๆ ท่านได้ทำอะไรอีกหลายอย่างที่ไม่เคยคิดว่าชีวิตนี้จะทำได้ เพื่อที่คุณจะได้รับการศึกษาที่ดีที่สุด

6. เมื่อคุณเป็นวัยรุ่นทุกๆอย่างดูจะยากขึ้นอีกมาก จากแม่ที่เคยเป็นคนที่ให้คำปรึกษา ท่านกลายเป็นคนที่ไม่รู้อะไรเลยในสายตาคุณ คุณเริ่มมีสังคมเป็นของตนเอง เริ่มมีความลับกับแม่ เริ่มพูดไม่เพราะกับแม่ เริ่มโกรธแม่บ่อยขึ้น แต่คุณรู้อะไรไหม คุณยังเป็นเด็กน้อยเสมอในสายตาแม่คนเดิม

7. ครั้งแรกที่คุณอกหัก แม่แอบมองคุณอยู่ห่างๆ ท่านอาจบอกว่าท่านไม่โกรธคนๆ นั้นที่ทิ้งคุณไป แต่ความจริงแล้วท่านโกรธมาก ท่านคิดเสมอว่า ทำไมคุณต้องไปเสียน้ำตาให้คนที่ไม่รักคุณ มันมีสิทธิ์อะไรมาทำให้คุณเสียใจ ทำไมคุณไม่หันกลับมามองที่ท่าน ตอนนั้นคุณลืมไปแล้วว่าใครรักคุณมากที่สุด ท่านอยากจะบอกคุณว่า “ใครจะทิ้งคุณก็ช่าง แต่ชั่วชีวิตนี้ท่านจะเป็นคนที่รักคุณจนวันสุดท้าย

8. เมื่อคุณเรียนจบ แม่ของคุณยิ่งดีใจกว่าคุณหลายเท่า คุณได้ใบปริญญามาหนึ่งใบ แต่สำหรับท่านกว่าจะพาคุณมาถึงตรงนี้ได้ ท่านก็ผ่านอะไรมามากมาย ท่านมองคุณถ่ายรูปกับเพื่อนๆ คิดถึงเรื่องราวในอดีต คิดถึงวันเก่าๆ ไม่ว่าคุณจะแต่งหน้าได้ดูแก่ขนาดไหนในวันรับปริญญา คุณสง่างามที่สุดในสายตาท่านอยู่ดี

9. วันแรกของการทำงาน เหมือนวันเปิดโลกใบใหม่สำหรับคุณ คุณกำลังอยู่ในโลกใบใหม่ ขณะที่ท่านอยู่ในโลกใบเดิม คุณมองไปไกลถึงฝั่งฝัน ขณะที่ท่านยิ่งคิดถึงคุณในวันวานมากขึ้น คุณบอกท่านว่าคุณไม่ใช่เด็กอีกต่อไปแล้ว และนั่นทำให้ท่านใจหาย คุณไม่ใช่เด็กได้อย่างไร เมื่อในห้วงความทรงจำของท่าน คุณยังร้องไห้งอแงอยู่เลย คุณไปไกลจากท่านทุกทีๆ มีความคิดเป็นของตนเอง มีเป้าหมายเป็นของตนเอง มีคนรักเป็นของตนเอง คุณฝันถึงการงานที่คุณอยากจะทำ คุณลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่า แม่ของคุณเลี้ยงคุณมาด้วยอาชีพอะไร ชีวิตของคุณกำลังพุ่งทะยาน ขณะที่ชีวิตของท่านกำลังนับเวลาถอยหลัง

10. คุณได้เจอกับคนที่ใช่ และไม่ใช่อีกหลายคน มีคนเข้ามาและจากไป แต่ท่านก็ยังมองคุณอยู่ห่างๆ ในช่วงเวลานี้ แม้แต่จะเข้ามาใกล้ๆ ในชีวิตของคุณท่านยังไม่กล้า ท่านจะกล้าได้อย่างไร ในเมื่อท่านไม่รู้อะไรเลยในโลกของคุณ ท่านกลายเป็นคนไม่ทันโลก ตกยุค ขณะที่คุณกำลังสร้างโลกใบใหม่ที่ท่านไม่รู้จัก มีหลายอย่างในชีวิตคุณที่ท่านสงสัยแต่ไม่กล้าถาม ช่วงเวลานี้ ท่านได้กลายเป็นอากาศที่คุณมองไม่เห็นไปแล้ว

11. ในที่สุดชีวิตของท่านก็เดินทางมาถึงจุดนี้จนได้ คุณมีครอบครัวเป็นของตนเอง กับใครคนหนึ่ง หรือคุณตัดสินใจอยู่เพียงลำพัง กับความคิดหนึ่งที่ท่านไม่เข้าใจ ถ้าคุณมีครอบครัว คุณจะเห็นว่าท่านเริ่มห่วงคุณมากขึ้น ถ้าคุณไม่มีครอบครัว คุณก็จะเห็นว่าท่านห่วงคุณมากขึ้นเหมือนกัน คุณรู้ไหม ท่านเริ่มคิดถึงความตา ยแล้ว แต่ท่านไม่เคยบอกคุณ คุณรู้ไหม ท่านเริ่มกลัวว่าท่านจะเป็นโรคร้าย เป็นโรคมะเร็ง หรือโรคอะไรที่คนแก่ๆ เขาเป็นกัน ท่านคิด ท่านกลัว แต่ท่านไม่เคยบอกคุณ มีเรื่องหนึ่งที่ผุดเข้ามาในใจของท่าน “คุณจะพบคนดีที่จะดูแลคุณได้ชั่วชีวิตรึเปล่า และถ้าคุณพบแล้ว เขาคนนั้นจะทอดทิ้งคุณไปหรือไม่” ท่านก็แค่คนแก่ๆ คนหนึ่งที่เป็นห่วงลูกตัวเอง รู้ทั้งรู้ว่า ไม่ควรยึดติด แต่จะไม่ให้ยึดติดในความสุขความทุกข์ของคุณ ท่านไม่เคยทำมันได้เลย

12. ชีวิตของคุณกำลังรุ่งโรจน์ขึ้น ขณะที่ชีวิตของท่านกำลังร่วงโรย ท่านอาจมองคุณในบางวัน นึกถึงคุณในวัยเยาว์แล้วบอกกับตนเองว่า “ทั้งหมดในชีวิต เราผ่านมันมาได้อย่างไร ช่างน่าอัศจรรย์” ทุกอย่างเป็นเหมือนฝัน ท่านเคยเป็นเด็ก เคยเล่นตุ๊กตา เคยเป็นสาวน้อยช่างฝัน แล้วท่านก็เป็นวัยรุ่น เคยมีสิ่งที่อยากมีและอยากเป็น ท่านพบพ่อของคุณ เกิดความรัก แล้วก็มีคุณ แล้วชีวิตก็พาท่านเดินทางมาไกลเกินกว่าที่ท่านจะคาดคิด เชื่อเถอะว่า ท่านแทบไม่เคยจินตนาการไว้เลยว่าท่านจะมีลูกอย่างคุณ แต่คุณก็เป็นลูกของท่าน แม้คุณจะเป็นลูกที่ดี แม้คุณจะเป็นลูกที่ไม่ดี คุณก็เป็นลูกของท่าน ชีวิตของท่านพาท่านมาไกลมาก และคุณซึ่งเป็นลูกของท่านก็พาท่านมาไกลมาก ไกลจนท่านเกือบลืมไปแล้ว ท่านแทบจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่า ชีวิตของท่านก่อนที่คุณจะเกิดมานั้นเป็นอย่างไร

ขอบคุณข้อมูลจาก : rugyim

แสดงความคิดเห็น

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่