คุณผู้หญิงต้องระวัง!! “อาการขี้หนาว” อาจเป็นสัญญาณเตือนโรค!!
“บางครั้งแค่ฝนตั้งเค้าก็เกิดอาการหนาว มือเท้าเย็น ปากเขียว มือเขียว หนาวสั่นสะท้าน เหมือนเลือดไหลเวียนไม่ดี และเมื่อมีอาการหนาวในเป็นประจำจะทำให้เกิดอาการต่างๆ ได้ เช่น ปวดหลังชาๆ ขัดข้อสะโพก มีจ้ำเขียวตามร่างกายได้ง่าย เป็นไข้ทับระดูทุกครั้งที่มีประจำเดือน มีอาการปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ เป็นตะคริว
“แต่ทั้งนี้ อาการดังกล่าวยังไม่เป็นข้อสรุปที่แน่ชัดว่าเกิดจากสาเหตุใด และมีลักษณะอาการแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ถ้าปล่อยทิ้งไว้จนเป็นมากก็อาจมีอาการปวดหน่วงท้องน้อยจนถึงมดลูกอักเสบ ซึ่งเกิดจากการที่ไม่ได้รักษาตั้งแต่เริ่มแรก เนื่องจากไม่คิดว่าเป็นอาการของโรค”
1. เลือดจาง
เม็ดเลือดแดง มีหน้าที่ขนส่งออกซิเจนเข้าสู่เซลล์ นำพาสารอาหารและความร้อนเข้าสู่กระบวนการทำงานของเซลล์ต่างๆ ทั่วทั้งร่างกาย หากร่างกายมีเม็ดเลือดแดงอยู่น้อย ก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอรู้สึกหนาวจากข้างในได้
2. ผอมเกิน
กล้าพูดมั้ยว่าทุกวันนี้ ลดความอ้วนกันหนักจนไม่ได้สนใจว่าน้ำหนักมาตรฐานของตัวเองอยู่ที่ไหน มันไม่ดีเลยนะ รูปร่างดูผอม ดูเพรียวก็จริง แต่มันจะทำให้ข้างในไม่มีความอบอุ่น ความร้อนของระบบเผาผลาญน้อยลงเพราะทานอาหารน้อยไป ไขมันก็ไม่มี มันจะทำให้เกิดโรคง่ายเอาน่ะสิ
3. ต่อมไทรอยด์ผิดปกติ
ถ้าเธอหนาวเป็นพักๆ เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว ประกอบกับผมบางลงทุกวัน ผิวแห้งมากขึ้น รู้สึกอ่อนเพลีย อาจบอกได้ว่าเธอเป็นอะไรสักอย่างที่ต่อมไทรอยด์ ระบบเผาผลาญจะทำงานช้าลง ความร้อนในร่างกายก็จะลดลงไปด้วย
4. ระบบไหลเวียนเลือดไม่ดี
อันนี้น่าจะเป็นกันเยอะ กับอาการมือเท้าเย็นบ่อย อาจเป็นไปได้ว่าร่างกายของเธอมีระบบไหลเวียนเลือดที่ไม่ดีพอ เลือดไหลไม่ทั่วร่างกาย ไหลก็ไม่สะดวก หรือที่ร้ายแรงกว่านั้นก็คืออาจมีหลอดเลือดอุดตันอยู่ตามจุดต่างๆ
5. โรคเรย์นอยด์
โรคนี้เป็นโรคที่เรียกง่ายๆ ว่านิ้วชา ซึ่งเป็นสาเหตุให้เส้นเลือดบริเวณมือตีบ ทำให้การไหลเวียนของเลือดที่ไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ไม่ดีเหมือนปกติ นิ้วจะชา ซีดขาว จึงส่งผลให้เธอรู้สึกหนาวมือ หนาวเท้าอยู่บ่อยๆ แม้อากาศจะปกติแค่ไหนก็ตาม
6. พักผ่อนน้อยไป
ถ้าเธอเอาแต่โหมใช้พลังงาน ไม่ว่าจะทำงานหรือจะเล่นโทรศัพท์จนดึกดื่น ทำให้ไม่ได้นอน เช้ามาก็อ่อยเพลีย สะสมบ่อยเข้า ระบบเผาผลาญพลังงานมันจะทำงานได้ไม่ดีเหมือนเดิม ยิ่งนอนน้อยมากเท่าไหร่ ระบบก็ทำงานแย่เท่านั้น ซึ่งก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ร่างกายอ่อนแอลง ทำให้รู้สึกหนาวได้ง่าย
7. ดื่มน้ำน้อยไป
น้ำเป็นสิ่งที่ดีนะ ควรดื่มเข้าไปเยอะๆ เพราะมันคือองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้ร่างกายมีอุณหภูมิคงที่ หากร่างกายได้รับน้ำไม่เพียงพอ ร่างกายภายในจะอยู่ในภาวะแปรปรวน เดี๋ยวร้อนจัด เดี๋ยวเย็นจัด ฉะนั้นดื่มน้ำให้เยอะเข้าไว้ ผิวสวยด้วยนะ
8. ขาดวิตามินบี 12
วิตามินบี 12 มีหน้าที่สำคัญเหมือนธาตุเหล็ก ช่วยในการลำเลียงออกซิเจนเข้าสู่เม็ดเลือดแดง นั่นหมายความว่าถ้าร่างกายได้รับวิตามินบี 12 ได้ไม่เพียงพอที่ต้องการ ก็อาจทำให้มีการลำเลียงเลือดได้น้อย เส้นเลือดแดงอาจทำงานผิดปกติ การไหลเวียนเลือดติดขัดก็ทำให้เกิดความหนาวเย็นขึ้นได้ง่าย
9. ฮอร์โมนผู้หญิง
สังเกตได้เลยว่าอาการแบบนี้มักเกิดกับผู้หญิง เพราะในร่างกายของผู้หญิง ต้องใช้ฮอร์โมนและกลไกต่างๆ ในการคงความสมดุลของเลือดในสมองและหัวใจ จึงทำให้มันลดความสำคัญในการดูแลการไหลเวียนของเลือดบริเวณมือและเท้าออกไป เป็นเหตุให้ผู้หญิงเกิดความรู้สึกแบบนี้ง่ายกว่าผู้ชายมาก
10. เบาหวาน
ผู้ป่วยโรคเบาหวาน มักจะมีอาการปลายประสาทอักเสบ ซึ่งส่งผลให้มือและเท้าของผู้ป่วยเบาหวานจะเย็นได้มากกว่าปกติ ยิ่งถ้าปวดฉี่บ่อย อ่อนเพลีย คอแห้งบ่อย ยิ่งต้องหาหมอเพื่อเริ่มตรวจเลือดได้แล้วล่ะ
11. กล้ามเนื้ออ่อนแอ
กล้ามเนื้อเป็นอวัยวะที่มีการเผาผลาญมากที่สุด มีการใช้กลูโคสมากที่สุด จึงมีหน้าที่สำคัญในการรักษาความอบอุ่นของร่างกายเอาไว้ด้วย หากกล้ามเนื้ออ่อนแอ การเผาผลาญก็จะน้อยลง ความอบอุ่นที่ได้จากการเผาผลาญก็น้อยลงตามไปด้วย
ขอขอบคุณ : สถาบันกายภาพองค์รวม
เรียบเรียงโดย : Postsod