ขนมถ้วยแป้งเหนียวนุ่ม หวานมัน หอมอร่อยทุกคำ

0

ขนมถ้วยแป้งเหนียวนุ่ม หวานมัน หอมอร่อยทุกคำ

เมนูของหวานอาหารว่างกับขนมถ้วย ที่เรามักจะเห็นมีอยู่ตามตลาดทั่วไป ด้วยรสชาติที่มีความโดดเด่น มีความอร่อยของตัวแป้งของน้ำกะทิ มีตัวเนื้อขนมที่มี 2 สีด้านล่างและด้านบน มีรสชาติที่หวานมันกำลังดี มีความกลมกล่อมอร่อยได้ในทุกคำ

หลายคนคงจะเคยทานกันมา แต่ในแต่ละร้านนั้นก็ให้รสชาติความโดดเด่นที่ต่างกันออกไป สำหรับใครที่อ ย า กจะเข้าครัวลองทำเองเราได้มีสูตรการทำมาแจกให้กับทุกท่านได้ทำตามกันได้ เป็นสูตรที่ทำตามกันได้ไม่ยาก มือใหม่หัดเข้าครัวก็สามารถทำกันได้ อย่ารอช้า เราตามมาดูในส่วนผสมและขั้นตอนในการทำกันเลย

ส่วนผสมตัวขนมถ้วยใบเตย

แป้งข้าวจ้าว ครึ่งถ้วย , แป้งท้าวยายม่อม 3 ช้อนโต๊ะ , น้ำตาลปี๊บ 1 ถ้วย , หางกะทิ 1 ถ้วย , น้ำใบเตย 1/4 ถ้วย

ส่วนผสมหน้าขนมถ้วยใบเตย

หัวกะทิ 1 ถ้วย , แป้งข้าวจ้าว 2 ช้อนโต๊ะ , เกลือป่น 1/2 ช้อนชา

ขั้นตอนในการทำ

1 ตั้งน้ำให้เดือด นำถ้วยตะไลล้างทำความสะอาดและนำมาใส่ไว้ในซึ้ง เพื่อทำให้ถ้วยมีความร้อน

2 ขั้นตอนในการเตรียมแป้ง ให้เราผสมแป้งทั้งสองชนิด แป้งข้าวเจ้า แป้งเท้ายายหม่อมในปริมาณที่เราได้เตรียมเอาไว้ จากนั้นเติมน้ำตาลปี๊บลงไป ใส่น้ำใบเตย เพื่อเพิ่มความหอมตามลงไป และทำการนวดแป้งให้เข้ากัน

3 เมื่อแป้งและส่วนผสมเข้ากันดีแล้ว ตามด้วยการใส่หางกะทิ เวลาที่เราใส่หางกะทินั้นให้ค่อยๆใส่ลงไปทีละน้อยพร้อมกับทำการนวดไปพร้อมๆกันจนหมด จนส่วนผสมของเรามีความเนียน

4 ถัดมาให้เราเตรียมทำหน้าขนมด้วยการนำแป้ง หัวกะทิและเกลือมาใส่รวมกันคนผสมให้เข้ากัน

5 เมื่อเราเตรียมส่วนผสมของตัวแป้งเสร็จเป็นที่เรียบร้อย ให้เรานำแป้งที่ผสมไว้ใส่ลงไปในถ้วยตะไลที่ได้เตรียมเอาไว้ หยอดแป้งลงไปประมาณครึ่งถ้วย จากนั้นปิดฝาและทำการนึ่ งจะใช้เวลาประมาณ 5-6 นาทีหรือจนกว่าตัวขนมของเราจะสุก

6 เมื่อครบเวลาและตัวแป้งของเราสุกดีแล้ว จากนั้นให้เราหยอดหน้าขนมที่เราทำเตรียมเอาไว้ใส่ตามลงไปบนตัวแป้ง และนึ่ งต่อใช้เวลาประมาณ 5 นาที คอยสังเกตดู อย่านึ่ งนานจนเกินไป เพราะจะทำให้ตัวหน้าขนมแตกไม่สวยงามได้

7 เมื่อครบเวลาให้เรายกออกจากหม้อนึ่ ง วางไว้จนขนมของเราเย็นสนิท เมื่อเย็นดีแล้วให้เราแคะขนมออกมาจากถ้วย จัดใส่จานพร้อมเสิร์ฟได้เลย

ง่ายๆไม่กี่ขั้นตอนนี้ก็จะได้ขนมถ้วยใบเตยสูตรโบราณ ที่ให้ความหอมของใบเตย กะทิ ความหวานที่น่ารับประทาน ใครชื่นชอบหรืออ ย า กจะลองทำทานกันดูก็นำสูตรนี้ไปทำตามกันได้ไม่ยาก หวังว่าหลายๆคนจะติดใจในรสชาติกันค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก : Narinrat chatpongsan

แสดงความคิดเห็น

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่