หนุ่มโดดไปช่วยเด็กจมน้ำ แต่กลับถูกพ่อเด็กเรียกร้องค่าเสียหาย 2 สัปดาห์ต่อมาจู่ๆก็มีเรื่องที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น!
เว็บไซต์ต่างประเทศได้นำเสนอเรื่องราวของชาวเน็ตท่านหนึ่งโดยเรื่องราวระบุว่า.. ชายหนุ่มชื่อ เซียวเลี่ยง ได้เดินผ่านริมแม่น้ำแห่งหนึ่ง จู่ๆเขาก็ได้ยินเสียงตะโกนว่า “ช่วยด้วย มีคนตกน้ำ” เขาจึงรีบวิ่งเข้าไปดู และพบว่าคนที่ตกน้ำเป็นเด็กชายรายหนึ่ง ซึ่งจุดที่เด็กชายตกลงไปห่างไกลจากฝั่งไม่เยอะ มีผู้คนหาท่อนไม้และเชือกโยนลงไปในน้ำเพื่อให้เด็กชายจับไว้ แต่ก็ไม่มีใครสักคนที่จะกล้าโดดลงไปช่วยเลย เมื่อเห็นเด็กชายกำลังจะจมน้ำ นายเซียวจึงรีบโดดลงไปช่วยเขาทันที ซึ่งนายเซียวนั้นเดิมที่ก็เป็นคนที่ว่ายน้ำไม่ค่อยเก่งมากนัก การช่วยเหลือคนจมน้ำในครั้งนี้จึงกลายเป็นสิ่งที่ยากมากสำหรับเขา
หลังจากที่นายเซียวสำลักน้ำไปหลายครั้ง ในที่สุดเขาก็สามารถช่วยเด็กชายรายนี้ขึ้นมาบนฝั่งได้ ทุกคนพบว่าเด็กชายรายนี้มีอาการไม่ค่อยดี จึงได้รีบโทรเรียกรถพยาบาล เมื่อหมอมาถึงก็ได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้วรีบนำตัวเด็กชายส่งไปต่อยังไปโรงพยาบาลทันที และนายเซียวนั้นก็ถูกเรียกขึ้นรถพยาบาลไปด้วย และทางโรงพยาบาลก็เข้าใจว่านายเซียวเป็นผู้ปกครองของเด็กชายจึงได้ให้เขาไปจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้เด็กชาย
เมื่อเด็กชายรายนี้ฟื้นขึ้นมาในตอนกลางคืน นายเซียวจึงรีบถามเบอร์ติดต่อของพ่อแม่เด็กชาย หลังจากที่ได้เบอร์จากเด็กชายมา เขาก็รีบโทรไปเพื่อแจ้งเรื่องนี้กับทางพ่อแม่ของเด็กชาย และเมื่อปลายสายฟังเขาพูดเสร็จ ก็ตอบเขากลับมาว่า “จริงหรือ แต่ตอนนี้ผมอยู่เมืองนอก คงกลับไปไม่ทัน ไหนๆคุณก็ช่วยเขาแล้ว ช่วยจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้เขาด้วยนะครับ” พูดเสร็จปลายสายนั้นก็วางสายไปทันที พอโทรไปอีกครั้งก็โทรไม่ติด ทำเอานายเซียวอึ้งจนพูดอะไรไม่ออกเลยทีเดียว
เขาเลยถามเด็กชายว่า “น้องชื่ออะไร” เด็กชายตอบเขาว่า “ผมชื่อ Tian Xiaoyuan อายุ 11 ปีครับ” นายเซียวถามเด็กชายต่อว่า “แล้วน้องยังมีเบอร์ของคนอื่นอีกมั้ย อย่างเช่นเบอร์ของแม่หรือปู่ย่า” เด็กชายจึงตอบว่าเขาไม่มี
ความจริงวันนี้นายเซียวได้นัดกับลูกค้าไว้ แต่ดูจากสภาพแล้วเขาคงไปไหนไม่ได้แล้วล่ะ นายเซียวได้เปิดโรงงานผลิตเสื้อผ้า เขาลงทุนเข้าไปไม่ใช่น้อย สินค้าของเขางดงามใช้ได้ แต่กลับมียอดขายที่ไม่ค่อยดีนัก จึงทำให้ขาดทุนเยอะมาก อีกไม่นานเขาอาจจะต้องปิดโรงงานแล้วล่ะ
สักพักจู่ๆ นายเซียวก็รู้สึกหิวขึ้นมา เขาเลยถามเด็กชายด้วยว่า เขาอยากกินอะไร เด็กชายตอบว่า เขาอยากกินไก่ทอด นายเซียวจึงเสนอขึ้นมาว่า น้องยังกินอาหารเหล่านั้นไม่ได้ เดี๋ยวจะไปซื้อโจ๊กมาให้ละกัน
ระหว่างทางที่ไปซื้ออาหาร นายเซียวก็ได้ติดต่อไปยังเบอร์ของพ่อเด็กชายอีกครั้ง เมื่อปลายสายนั้นได้รับสายของเขา เขายังไม่ทันพูด ปลายสายนั้นพูดมาสักก่อนเลยว่า “คุณบอกว่าคุณได้ช่วย Xiaoyuan ไว้ ใครเป็นพยานให้คุณได้ ทางเราสงสัยว่าคุณเป็นคนผลักตัวเขาลงไปในน้ำ คุณจะต้องชดใช้ค่าเสียหาย 2.5 แสนให้เราก็พอ ไม่งั้นเราจะฟ้องร้องต่อศาลแน่นอน”
เสียงพูดคนนี้ไม่ค่อยจะเหมือนกับคนแรกที่เคยรับสาย แต่เนื่องจากเซียวกำลังโกรธกับคำพูดของปลายสาย จึงไม่ได้สังเกตฟังว่าเสียงมันมีความแตกต่างกัน นายเซียวอยากจะกลับบ้านตัวเองไปเลย แต่ก็อดสงสารเด็กชายไม่ได้ เขากลับไปหาเด็กชายอีกครั้งและอยากจะให้เด็ดชายติดต่อกับพ่อของเขาโดยตรง แต่พอโทรไปก็พบว่า พ่อของเขาปิดเครื่องอีกครั้ง
คืนนั้นตัวเด็กชายมีไข้ขึ้นสูงมาก นายเซียวจึงไม่หลับไม่นอนเขาคอยนั่งเฝ้าเด็กทั้งคืน เพราะมีไข้ขึ้นสูงตลอด เด็กชายต้องรักษาในโรงพยาบาลเป็นเวลาถึงสามวัน นายเซียวจึงต้องอยู่กับเด็กมาตลอด เขาพยายามให้เด็กชายติดต่อกับครอบครัว แต่เด็กไม่ยอมโทรไป ถามเขาว่าบ้านอยู่ที่ไหน เขาก็ไม่บอก เมื่อถึงเวลาออกจากโรงพยาบาลได้ นายเซียวหมดหนทาง จึงตัดสินใจจะพาเด็กกลับไปที่บ้านของตัวเองด้วยกัน
เมื่อเขากำลังปวดหัวกับเรื่องนี้อยู่ จู่ๆก็เห็นเบอร์โทรของพ่อเด็กชายโทรเข้ามา เขาจึงรีบรับสาย พ่อของเด็กถามเขาทันทีว่า ” Xiaoyuan ได้อยู่กับคุณจริงใช่มั้ย” นายเซียวจึงรีบตอบกลับว่า “ผมพยายามโทรไปหลายรอบแล้ว ก็เพื่อจะบอกสิ่งนี้กับคุณ บอกไว้ก่อนนะ ผมไม่มีเงินจ่ายค่าชดเชยให้กับคุณนะ”
“คุณกำลังหมายความว่าอะไร ผมขอคุยกับลูกชายของผมได้มั้ย” นายเซียวจึงยื่นโทรศัพท์ให้กับเด็กชายไป ไม่กี่นาทีต่อมา เด็กชายก็ได้ส่งโทรศัพท์กลับมาคืนเขาพร้อมบอกกับเขาว่า “เดี๋ยวพ่อผมจะมารับผม เขาจะคืนค่ารักษาพยาบาลให้กับคุณทั้งหมด” ต่อมา นายเซียวถึงได้รู้ว่า พ่อของเด็กชายเป็นเจ้าของธุรกิจชื่อดัง ส่วนเด็กชายนั้นเนื่องจากไม่ชอบแฟนใหม่ของพ่อเขา จึงได้แอบหนีออกจากโรงเรียนแล้วไปนั่งเล่นริมฝั่งแม่น้ำ เลยพลัดตกลงไปในแม่น้ำ
เนื่องจากเด็กชายเคยสั่งเพื่อนนักเรียนไว้ว่า ไม่ให้บอกเรื่องที่เขาหนีเรียนนี้กับใคร เมื่อเขาไม่ได้ไปโรงเรียนสามวันติดต่อกัน ทางโรงเรียนจึงได้ติดต่อไปยังทางพ่อของเด็กชาย และทางพ่อของเด็กชายจึงยอมเชื่อว่า สิ่งที่นายเซียวโทรมาแจ้งนั้นเป็นความจริง
อาจจะเป็นเพราะร่ำรวยเกินไป พ่อของเด็กชายมักจะได้รับโทรศัพท์แปลกๆเข้ามาเป็นประจำ และครั้งนี้เขาก็เข้าใจว่าคงต้องเป็นใครสักคนอีกที่โทรมาเพื่อขู่เอาเงินจากเขา เขาจึงไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องนี้มากนัก และพอครั้งที่สองที่นายเซียวโทรไป เขาจึงได้ยกโทรศัพท์ให้เลขามาเป็นคนคุยแทน
สุดท้าย เรื่องนี้ก็จบด้วยดี นายเซียวก็ได้ค่ารักษาพยาบาลคืนมา และเมื่อผ่านไป 2 สัปดาห์ ไม่รู้ทางพ่อของเด็กชายได้ทราบข่าวเกี่ยวกับโรงงานของเขาจากใคร เขาได้สั่งสินค้ากับนายเซียวจำนวนมากมาย มีทั้งชุดยูนิฟอร์มพนักงานและผ้าปูที่ใช้ในโรงแรม.. พ่อของเด็กชายบอกเขาว่า นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น จากนี้ไปเขาจะแนะนำเพื่อนๆ มาให้เขาเรื่อยๆ
ขอขอบคุณ : liekr